เปลี่ยน ‘พนมเปญ’ ให้เป็น ‘สิงคโปร์’ 

คือวิสัยทัศน์ของกัมพูชาภายใต้เมกะโปรเจกต์สั่นสะเทือนอาเซียนอย่าง เตโชตาเขมา (Techo Takhmao) สนามบินนานาชาติแห่งใหม่ของกรุงพนมเปญ ที่กำลังจะเปิดตัวในวันที่ 9 กันยายน 2025 จนว่ากันว่าหากทำได้ กัมพูชาจะมีสนามบินใหญ่เป็นอันดับ 9 ของโลก และกลายเป็นสิงคโปร์สาขา 2 ของภูมิภาค 

เตโชตาเขมาเป็นเมกะโปรเจกต์ริเริ่มขึ้นในปี 2018 ใช้งบประมาณลงทุนมูลค่ากว่า 1,500 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 5.1 หมื่นล้านบาท) ไม่รวมค่าที่ดิน โดยเริ่มสร้างขึ้นในปี 2019 และจะเปิดให้บริการเป็นครั้งแรกในปี 2025  ซึ่งหากสร้างเสร็จสมบูรณ์ในปี 2050 หรืออีก 20 ปีข้างหน้า สนามบินแห่งนี้จะเป็นสนามบินที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับที่ 9 ของโลก ภายใต้วิสัยทัศน์เปลี่ยน ‘พนมเปญ’ ให้เป็นสิงคโปร์ 

สำหรับที่ไปที่มาของชื่อ ฮุน เซน (Hun Sen) องคมนตรี ประธานวุฒิสภา และอดีตนายกฯ 4 ทศวรษ ผู้ให้กำเนิด อธิบายเบื้องหลังว่า เตโชไม่ได้หมายถึงตัวเขา แต่เป็นชื่อที่สะท้อนว่า กัมพูชามีกษัตริย์เข้มแข็ง ซึ่งหากถอดความหมายทีละคำ ‘เตโช’ ในภาษากัมพูชา หมายถึง ‘แม่ทัพ’ 

ก็น่าสนใจไม่น้อยว่า ระยะหลังโครงการก่อสร้างของกัมพูชามักใช้ชื่อ ‘เตโช’ เป็นชื่อหลัก ไม่ว่าจะเป็นสนามกีฬาแห่งชาติใหม่ก็ใช้ชื่อเตโช หรือแม้แต่คลองฟูนันเตโช คลองแห่งใหม่ที่เชื่อมพนมเปญกับอ่าวไทย เมกะโปรเจกต์อีกหนึ่งแห่งของกัมพูชา ที่หวังแปรเปลี่ยนการแข่งขันทางภูมิรัฐศาสตร์อาเซียน

อย่างไรก็ตามตามแผนงานอาคารผู้โดยสารของสนามบินแห่งนี้จะมีความสูงทั้งสิ้น 45 เมตร 5 ชั้นเหนือพื้นดิน และ 1 ชั้นใต้ดิน ออกแบบโดย Foster & Partners บริษัทสถาปนิกระดับโลกจากกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ซึ่งมีผลงานในการก่อสร้างอาคารสนามบินนานาชาติฮ่องกง และอาคารรัฐสภาไรชส์ทาค (Reichstag) ในกรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี 

นอกจากนี้รายละเอียดของการออกแบบบางส่วนคือ หลังคาได้รับแรงบันดาลใจจากทรงกระท่อมของกัมพูชาแบบดั้งเดิม โดยใช้วัตถุดิบคือ ‘ฟาง’ มีฟังก์ชันในการให้ร่มเงา-ช่วยระบายอากาศที่อาจสูงถึง 40 องศาเชลเซียส และลดการใช้เครื่องปรับอากาศ ขณะที่ภายในอาคารผู้โดยสารจะเต็มไปด้วยสวนป่า ต้นไม้ พืชพรรณสีเขียว สวนแนวตั้ง สวนดาดฟ้า ซึ่งใช้พืชท้องถิ่นของกัมพูชา ขณะที่แหล่งพลังงานจะใช้พลังงานแสงอาทิตย์เป็นหลัก โดย Foster & Partners ยืนยันว่า หากเสร็จสมบูรณ์ สนามบินนี้จะเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมที่สุดในโลก

หลังจากล่าช้ามาแล้วราว 1 ปี สนามบินนานาชาติแห่งใหม่มีกำหนดเปิดในเดือนกันยายนนี้ คาดว่า จะสามารถรองรับผู้โดยสารได้ราว 15 ล้านคน ขณะที่เฟสที่ 2 ซึ่งจะมีอาคารผู้โดยสารเพิ่มขึ้นอีก 1 หลัง เป็นลักษณะบูมเมอแรง จะสามารถรับผู้โดยสารได้ราว 30 ล้านคน และเฟสสุดท้ายเสร็จสิ้นในปี 2050 จะรองรับผู้โดยสารได้ทั้งสิ้น 50 ล้านคนต่อปี 

ในด้านเงินลงทุน แบ่งออกเป็นเงินลงทุนร่วมระหว่างภาครัฐกับเอกชน ข้อมูลก่อนหน้านี้ระบุว่าเงิน 1,500 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐฯ โดยทุนใหญ่มาจาก Overseas Cambodian Investment Corporation (OCIC) บริษัทลงทุนชั้นนำของกัมพูชาที่ใกล้ชิดกับ ฮุน เซน โดยก่อนหน้านี้ OCIC เคยได้รับสัมปทานพัฒนาที่ดินใน ‘เกาะเพชร’ พื้นที่กลางแม่น้ำโขงในพนมเปญ แม้จะมีหลายคนค่อนขอดว่า ทุนใหญ่เป็น ‘ทุนจีน’ ทว่า OCIC ประกาศว่า ทุนประเดิมราว 500 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐฯ มาจากการระดมทุนในกัมพูชาทั้งสิ้น 

ทั้งนี้กัมพูชาตั้งเป้าไว้ว่า หากสนามบินเริ่มเปิดให้บริการ สนามบินนานาชาติเตโชจะเทียบชั้นสนามบินชางงี ประเทศสิงคโปร์ ที่ปัจจุบันรองรับผู้โดยสารได้ราว 50 ล้านคนต่อปี และอาจจะดีกว่าชางงีของสิงคโปร์ ซึ่งที่มีตั้งค่อนไปทางตอนใต้ของภูมิภาคด้วยซ้ำ

 น่าสนใจว่า กัมพูชายังคาดหวังการเป็น ‘ศูนย์กลาง’ การเดินทางและการท่องเที่ยวของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งจะเปลี่ยนโฉมหน้าประเทศ ดึงดูดนักท่องเที่ยวและนักลงทุนเหมือนกับที่สิงคโปร์ทำสำเร็จกับสนามบินชางงี ที่ทำให้สิงคโปร์สามารถเชื่อมตัวเองกับโลกภายนอก เป็นฮับการบินของโลก นับตั้งแต่เปิดให้บริการเมื่อปี 1981 

ทว่าสนามบินนานาชาติเตโชก็เต็มไปด้วยเสียงวิพากษ์วิจารณ์ เช่น การเดินทาง 30-40 กิโลเมตรจากพนมเปญนั้นยังเป็นไปอย่างยากลำบาก หลายพื้นที่รอบๆ ยังคงไม่มีไฟฟ้าใช้ ขณะที่โครงการวางแผนไว้ใหญ่โต แต่จำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางไปยังพนมเปญยังมีไม่มากนัก รวมถึงในตัวเมืองพนมเปญเองก็ไม่มีสถานที่ท่องเที่ยว ไม่ได้มีกิจกรรมอื่นๆ ให้ทำ แตกต่างจากสิงคโปร์ แตกต่างจากกรุงเทพฯ ซึ่งมีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย ขณะเดียวกันหลายฝ่ายยังตั้งคำถามว่า มี ‘ทุนจีน’ อยู่เบื้องหลังหรือไม่ เพราะทุนจีนเคยสร้างหายนะที่สีหนุวิลล์มาก่อนแล้ว แม้ OCIC จะยืนยันว่า ทุนหลักจะมาจากนักลงทุนกัมพูชาเองก็ตาม

ทั้งนี้ตัวเลขเมื่อปี 2023 มีผู้โดยสารใช้บริการสนามบินพนมเปญเดิมเพียง 3.9 ล้านคนเท่านั้น ซึ่งเทียบไม่ได้เลยกับสนามบินชางงีที่มีผู้โดยสารกว่า 58.9 ล้านคน หรือสนามบินสุวรรณภูมิที่มีผู้โดยสารกว่า 51.6 ล้านคน หลายฝ่ายจึงคาดการณ์ว่า มีความเป็นไปได้สูงที่สนามบินแห่งใหม่ของกัมพูชาจะ ‘ร้าง’ และอาจสร้างหนี้ให้กัมพูชา มากกว่าจะเป็น ‘โอกาส’ อย่างที่หลายคนคาดหวัง

Tags: , , , , ,