หลังปล่อยให้แฟนๆ พากันกรีดร้องไปกับปมประเด็นต่างๆ ที่ถูกทิ้งไว้อย่างเป็นปริศนาในตอนจบของซีรีส์ ไดอารี่ตุ๊ดซี่ส์ พร้อมสร้างความหวังให้ตั้งหน้าตั้งตารอคอยภาคต่อเป็นเวลาเกือบ 1 ปีเต็ม

ล่าสุด GDH ก็ได้ประกาศเตรียมนำ ไดอารี่ตุ๊ดซี่ส์ 2 ลงจอฉายในเดือนกุมภาพันธ์ที่จะถึงนี้ สร้างความดีอกดีใจให้กับบรรดาแฟนคลับทั้งหลายเป็นอย่างมาก

ก่อนจะไปพบกับความวายป่วงของ 4 สหาย กัส กอล์ฟ คิม แนตตี้ และเพื่อต้อนรับการกลับมาของซีรีส์เรื่องนี้ The Momentum จึงร่วมพูดคุยกับ เติ้ล-ปิยะชาติ ทองอ่วม ผู้กำกับและผู้เขียนบท ถึงเรื่องราวเบื้องหลัง ความน่าสนใจ และความสนุกที่จะเกิดขึ้นในไดอารี่ตุ๊ดซี่ส์ 2 นี้

ขอรับรองว่าอ่านจบแล้ว อรรถรสแน่นอน!

เกือบไม่มี ‘ไดอารี่ตุ๊ดซี่ส์ 2’ หากไม่มีแฟนๆ และเจ้าหน้าที่สนามบิน!?

แม้จะทำหน้าที่ได้อย่างเป๊ะ ปัง ไร้ที่ติ จากการรับหน้าที่ผู้กำกับครั้งแรกในชีวิตของเติ้ล-ปิยะชาติ ทองอ่วม จากไดอารี่ตุ๊ดซี่ส์ แต่เจ้าตัวก็สารภาพกับเราว่า การเป็นผู้กำกับไม่ใช่เรื่องง่ายอย่างที่คิด และเขาเองก็คงไม่คิดกลับมาทำภาคต่อของซีรีส์เรื่องนี้หากแฟนๆ ไม่เรียกร้อง และไม่บังเอิญไปเจอกับเจ้าหน้าที่สนามบินคนนั้น…

“จริงๆ แล้ว เราไม่ได้วางแผนว่าจะทำซีซัน 2 เพราะตอนทำซีซันแรกจบก็รู้สึกว่ามันสวยงามอยู่แล้ว แต่พอฟีดแบ็กดี มีเสียงเรียกร้องจากคนดู ทางผู้ใหญ่ของจีดีเอชก็มองว่าเราไม่ควรหยุดแค่นั้น แต่ด้วยความสัตย์จริงตอนทำซีซันแรกเหนื่อยมาก เราไม่ใช่คนที่เกิดมาเพื่อเป็นผู้กำกับ แค่มาลองทำเพราะได้โอกาส พอได้ลองทำก็รู้เลยว่ายังห่างไกลมากที่จะเป็นผู้กำกับเต็มตัว ยังบอกคนอื่นอยู่เลยว่า ‘กูพอแล้ว กูไม่เอาแล้ว ไปทำมาหากินอย่างอื่นของกูต่อละ’

“แต่ก็มีโมเมนต์ดัดจริตของเราที่ทำให้อยากกลับมาทำซีรีส์เรื่องนี้ ช่วงนั้นเราได้รับเชิญไปเป็นวิทยากรบ่อย ระหว่างกำลังขึ้นเครื่องบินที่สนามบินก็มีเจ้าหน้าที่คล้ายช่างเทคนิคคนหนึ่งที่ไม่ใช่เทคนิค ปวช. บอกเราว่า ‘ขอบคุณมากที่ทำซีรีส์ให้หนูดู หนูมีความสุขมาก’ แล้วเราก็ตึ๊ง! เราทำให้น้องคนหนึ่งมีความสุข เลยรู้สึกว่าลองอีกทีก็ได้วะ แล้วก็บอกคนอื่นว่าเราอยากกลับมาทำซีซัน 2 ต่อเพราะเจอเหตุการณ์นี้ ซึ่งพอกลับมาทำก็พบว่า มันหนักเหลือเกิน (หัวเราะ) ไม่น่ารับปากเลย”

Photo: GDH

 

เรื่องราวที่โตขึ้น และความดราม่าที่เข้มข้นกว่าเดิม

ปิยะชาติบอกกับเราว่าให้เตรียมรับมือกับเรื่องราวที่จะเกิดขึ้นใน ไดอารี่ตุ๊ดซี่ส์ 2 นี้ให้ดี เพราะนอกจากคาแรกเตอร์ และเนื้อหาในเรื่องจะโตขึ้นจากซีซันแรกแล้ว ‘ความดราม่า’ ที่จะเกิดขึ้นก็เป็นสิ่งที่เจ้าตัวให้ความสำคัญมากกว่าซีซันแรกอยู่หลายเท่าตัวเช่นกัน!

“ซีซันแรกจะมีความตลกโปกฮา ซึ่งส่วนใหญ่จะเน้นไปที่สถานการณ์ตลก สนุกสนาน บ้าบอคอแตกเป็นหลัก แต่ซีซันนี้ภาพรวมของเนื้อเรื่องจะโตขึ้น เพราะตั้งใจจะให้คนดูได้เห็นเส้นชีวิตของตัวละคร 3 ตัวหลัก กัส กอล์ฟ คิม เราพยายามจะนำเสนอเรื่องราวชีวิตของเกย์หรือตุ๊ดในมุมที่เคยเจอมาในเชิงลึก โดยเฉพาะมุมมองเรื่องการใช้ชีวิตและความรัก อย่าง เต๋อ-รัฐนันท์ จรรยาจิรวงศ์ กับปิงปอง-ธงชัย ทองกันทม พอได้อ่านบท เขาก็ถามเราว่า ‘เอาอย่างงี้เลยเหรอ?’ เราก็บอกว่า ‘ใช่ แล้วก็ต้องทำให้ได้ด้วย’

“แต่ความบ้าบอคอแตกมันก็ยังคงมีอยู่ ไม่งั้นคนดูก็คงจะช็อกเพราะปรับตัวไม่ทัน ซีซันที่แล้วเราก็พยายามใส่ความดราม่าลงไปเพราะชอบ รู้สึกว่าพอเขียนบทดราม่าแล้วเห็นภาพตามที่อยากได้แล้วมันฟิน ซีซันนี้เลยจะมีความดราม่ามากขึ้น และรู้สึกว่ามันอาจจะให้อะไรคนดูได้มากกว่าซีซันแรก แต่จริงๆ ซีซันแรกเราไม่ได้อยากให้อะไรกับคนดู หลักๆ คือเอนเตอร์เทนมากกว่า แต่ก็จะมีอะไรบางอย่างที่เราตั้งใจใส่ลงไปเช่นกัน”

Photo: GDH

มองปัญหาให้เป็นเสียงหัวเราะ: เสน่ห์การเล่าเรื่องแบบฉบับไดอารี่ตุ๊ดซี่ส์

อีกหนึ่งจุดเด่นของซีรีส์เรื่องนี้คือการผจญปัญหาแสนวายป่วงของเพื่อนรัก 4 คน กัส กอล์ฟ คิม แนตตี้ ที่ไม่ว่าพวกเขา… ไม่สิ ที่ไม่ว่าพวกเธอจะผจญกับปัญหาชวนปวดหัวแค่ไหน ทั้งการโดนผู้เท อั้นอุจจาระยามรถติด หรือการบอกแท็กซี่ให้ขับวนไปเมื่อถูกโกงเงินทอน พวกเธอก็เปลี่ยนปัญหาดังกล่าวให้กลายเป็นเสียงหัวเราะได้ตลอดเวลา

“เราเล่าเรื่องผ่านตุ๊ด ซึ่งเราว่าตุ๊ด เกย์ กะเทย เขาจะมีสีสันในการมองชีวิต แม้ว่าเรื่องนั้นมันจะเป็นโศกนาฏกรรมพังพินาศที่ทำให้ชีวิตรันทดหม่นหมอง แต่เขาก็จะสามารถมองมันในมุมตลกได้

“ยกตัวอย่างเราเอง อย่างวันนี้ที่พวกเรากำลังคุยกัน เมื่อคืนเราเพิ่งจะทำกระเป๋าเงินหายที่ล็อบบี้คอนโดฯ ถ้ามุมมองของคนทั่วไปที่ทำกระเป๋าเงินหายอาจจะไม่สบายใจ แต่พอเรารู้ว่ามีคนเก็บไว้ให้ แล้วเขาเป็นผู้ชายที่เสียงหล่อมาก ประเด็นของเราก็ไม่ได้อยู่ที่เงินแล้ว แต่ไปอยู่ที่ผู้ชายเสียงหล่อแทน เป็นต้น ซึ่งมันอาจจะเป็นการมองปัญหาในอีกมุมหนึ่งที่เราคิดว่ามันเป็นของขวัญที่พระเจ้าประทานมาให้กับคนเพศเรา

“อย่างเรื่อง ไดอารี่ตุ๊ดซี่ส์ เรารู้สึกว่าตัวคุณช่า (ธีร์ธวิต เศรฐไชย) เองเลือกที่จะเล่าปัญหาที่คนทั่วไปรับรู้ แต่ไม่มีใครพูดมันออกมา อย่างปัญหาแท็กซี่ทอนเงินไม่ครบแล้วบอกให้เขาขับวนไปค่ะ ก็เป็นเรื่องที่คนอื่นก็เจอเหมือนกัน เพียงแต่เขาก็มีวิธีจัดการที่ต่างออกไป เราอาจจะเลือกด่าแท็กซี่บนเฟซบุ๊ก แต่เขาเลือกที่จะลองใช้วิธีของตัวเอง ซึ่งมันก็แทนใจคนได้”

 

Photo: GDH

 

“ไม่บ้าผู้ชาย ก็ต้องเป็นตัวตลกขี้โวยวาย” ภาพลักษณ์ที่สื่อทำให้เพศที่สามดูแย่

มีคำกล่าวที่ว่า ‘ภาพลักษณ์ของเกย์ ตุ๊ด กระเทย’ ที่ถูกมองว่าบ้าผู้ชาย ตลกเกินความเป็นจริงเสมือนหลุดออกมาจากการ์ตูน คือการตีความที่ผิดๆ ของสื่อ ทั้งๆ ที่ในโลกแห่งความเป็นจริง ชีวิตของพวกเขาเหล่านั้นอาจไม่ได้สวยหรู สนุกสนาน มีสีสันตระการตาอย่างที่สื่อนำเสนอ และเป็นอย่างที่เราเข้าใจ

“ในมุมเรา เราเข้าใจนะว่าช่วงแรกๆ ที่ละครโทรทัศน์บ้านเราตีความเพศที่สามส่วนใหญ่ออกมาเป็นคนใช้ หรือไม่ก็ต้องบ้าบอ โวยวาย บ้าผู้ชาย เพราะในช่วงนั้นพื้นที่สำหรับตัวละครเหล่านี้มีจำกัด พระเอกนางเอกก็ต้องมาเป็นคู่ผู้ชาย-ผู้หญิง ตัวละครเพศที่สามเต็มที่ก็เป็นได้เพื่อนนางเอก หรือคนใช้ ซึ่งถ้าเป็นคนใช้นิ่งๆ เป็นตุ๊ดจริงจัง ดราม่า เวลานางเอกซีเรียสอะไรมาแล้วด่านางเอกกลับ สั่งสอนนางเอก คนดูก็คงจะงงกัน เราเลยเข้าใจว่าเวลามีตัวละครเหล่านี้ เขาก็ต้องดึงอะไรที่มันออกมาชัดเจนเป็นสีสันไว้ก่อน

“ปัจจุบันเราจะได้เห็นซีรีส์ที่มีตัวละครหลักเป็นเกย์ และเปิดกว้างมากขึ้น ส่วนตัวเชื่อว่าผู้กำกับหรือคนสร้างงานในยุคก่อนคงไม่ตั้งใจทำให้ภาพลักษณ์ของเพศที่สามส่วนใหญ่เป็นอย่างที่คนเข้าใจในทุกวันนี้หรอก เพียงแค่เขาอาจจะรู้สึกว่ามันเป็นสิ่งที่คนดูจับต้องได้ง่ายและเก็ตเร็วที่สุด อย่างตัวละครตุ๊ดที่อยู่กับนางเอก ถ้านางเอกเรียบร้อย ตุ๊ดก็ต้องบ้าผู้ชายให้เป็นสีสัน ไม่ใช่เป็นเพื่อนที่พากันเรียบร้อยเพราะว่านางเอกมันแรดไม่ได้ไง มันเลยอาจจะเกิดเป็นผลเสียที่คนดูซึมซับไปว่าตุ๊ดต้องเป็นอย่างนี้ ต้องบ้าผู้ชายเท่านั้น ทั้งที่ในชีวิตจริงตุ๊ดเรียบร้อย ไม่บ้าผู้ชายก็มี เพราะฉะนั้นเราทำซีรีส์เรื่องนี้ก็เพราะต้องการให้คนเห็นว่ามีตุ๊ดบนโลกนี้เต็มไปหมดเลยนะ

“แต่ก็มีคนมาว่าซีรีส์เราว่ายังทำให้ตุ๊ดเป็นตัวตลกเหมือนเดิม ซึ่งเราก็ยอมรับว่าความตลกมันเป็นส่วนหนึ่ง แต่มันก็มีส่วนอื่นๆ ในซีรีส์ที่ให้คนดูได้เห็น เช่น ตุ๊ดที่ดูแลรับผิดชอบที่บ้าน ปากกัดตีนถีบ แล้วเรื่องที่เราหยิบมาทำคือเรื่องจากตัวเพจบันทึกของตุ๊ดที่คุณช่าเขียน ซึ่งมันก็มีทั้งความสนุก ความดราม่า ปนกันไปหมด พอเราทำซีรีส์คอเมดี้ ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าคอเมดี้ ถ้าเราทำให้โทนเรื่องหลักซีเรียส มันก็คงไม่ใช่หรือเปล่า เราเลยพยายามทำให้คนได้เห็นทุกด้านของตุ๊ดและเกย์ให้มากที่สุด”

Photo: GDH

 

‘เท นก ยิ้ม อรรถรส’ คำเก๋ๆ ที่อยากให้คุณได้รู้จัก

ถ้าคุณมีโอกาสได้ติดตามชมซีรีส์เรื่อง ไดอารี่ตุ๊ดซี่ส์ เราเชื่อว่าคุณย่อมคุ้นหูกับคำเหล่านี้ ไม่ว่าจะเป็น เท (ถูกทิ้ง หรือถูกยกเลิกอย่างกะทันหัน ใช้ได้กับทั้งเพื่อนและคนรัก), นก (พลาดเป้าหมาย), ยิ้ม (ร่วมเพศ) และอรรถรส (เรื่องขำๆ อย่าคิดมาก แค่ล้อเล่น) ซึ่งเมื่อเราถามปิยะชาติว่าเขาไปได้ไอเดียคำวิบัติเหล่านี้มาจากไหน เจ้าตัวตอบกลับอย่างทันท่วงทีพร้อมเสียงหัวเราะว่า “มันคือคำเก๋ๆ ไม่ใช่คำวิบัติ”

“ส่วนหนึ่งมันมาจากศัพท์ที่เราใช้กันในตอนนั้น อย่างคำว่า ยิ้ม ก็เป็นหนึ่งใน 5-6 คำ ที่เราจะใช้แทนการมีเซ็กซ์ ในตอนนั้นก็มีทั้ง เย, ยิ้ม, โขก ซึ่งก็เราก็ต้องเลือกว่าคำไหนน่าจะมีกิมมิกของความเป็นตุ๊ด ไม่รุนแรง ดูน่ารัก แล้วติดหู เลยเลือกใช้คำว่า ยิ้ม

“อย่างคำว่า ‘อรรถรส’ ก็ไม่ใช่คำที่ใช้กันทั่วไป เป็นคำที่เราใช้กับเพื่อน แล้วรู้สึกว่าอยากผลักดันคำนี้ให้คนใช้กันจังเลย ซึ่งก็สำเร็จ แล้วเราก็แฮปปี้มาก ปกติเป็นคนชอบอ่านตั้งแต่เด็ก เรารู้สึกว่าคำนี้มันเก๋จัง ความหมายของคำว่าอรรถรสของเราก็เหมือนคำว่า ‘พูดเล่น’ หรือ ‘ล้อเล่นนะ’ เราเป็นคนเขียนบทจะทำอะไรก็ได้ เลยพยายามใส่คำนี้ให้ตัวละครได้พูดกัน เท่านั้นยังไม่พอ เพลงประกอบเราก็ยังเอาไปใส่อีก ตอนท้ายที่บอกว่า ‘อรรถรสมะ’ เพราะเรารู้สึกว่าต้องทำให้คำนี้เกิดให้ได้

“เราว่าคำเก๋ๆ พวกนี้มันน่ารักนะ บางคำก็มาจากในเพจ บางคำก็มาจากเราเอง ซึ่งช่วงเเรกผู้ใหญ่ก็กังวลมากว่าเราจะไปทำให้ภาษาเขาวิบัติหรือเปล่า ก็บอกเขาว่ามันก็เหมือนคำฮิตๆ สมัยก่อนนั่นแหละ สักพักหนึ่งมันก็จะตกยุคเอง มันก็มีบางคำที่ซีซันที่แล้วใช้ แต่ถ้าซีซันนี้ใช้อีกก็เชย ซีซันนี้ก็จะมีคำเก๋ๆ ใหม่ๆ ออกมาบ้าง แต่เนื่องจากช่วงห่างของซีซันมันแค่ปีเดียว คำใหม่มันเลยเกิดไม่ทัน”

ตอนจบบทสนทนา ปิยะชาติเล่าถึงความตั้งใจในการทำซีรีส์ ไดอารี่ตุ๊ดซี่ส์ 2 ว่า เจ้าตัวแค่อยากจะทำให้คนดูสนุก อยากให้คนรู้สึกว่าเรื่องราวของเพศที่สามก็เหมือนเรื่องราวของคนทั่วไป แต่อาจจะมีสีสันมากกว่า พร้อมกับปิดท้ายว่า

“ฝากซีรีส์ด้วยนะครับ ถ้าสนุกก็ชมกันได้ แต่ถ้าไม่สนุกก็อย่าด่ากันแรงนะ (หัวเราะ)”

 

FACT BOX:

ซีรีส์เรื่อง ไดอารี่ตุ๊ดซี่ส์ 2 จะลงจอฉายทางช่อง GMM 25 และ LINE TV ในวันเสาร์ที่ 11 กุมภาพันธ์ 2560 นี้

Tags: , , , , , ,