ในวันนี้คงไม่มีใครไม่รู้จัก ญดา-นริลญา กุลมงคลเพชร นักแสดงเจ้าบทบาทที่เคยรับบท ‘มิ้ง’ ในหนังเรื่อง ร่างทรง (2564) ที่ประสบความสำเร็จอย่างมาก จนทำให้ญดาเป็นที่รู้จักในวงกว้าง และไม่นานหลังจากนั้น ญดาได้กลับมาสู่จอแก้วในฐานะนางเอกเรื่องขวัญฤทัย (2567) ในละครชุดดวงใจเทวพรหม และตามด้วยซีรีส์เรื่องสืบสันดาน (2567) ญดา นริลญาญดา นริลญา

วันนี้ญดาได้รับบทบาทใหม่อีกครั้งกับบท แม่นาก ในภาพยนตร์เรื่อง นากรักมาก ม๊ากมาก กำกับโดย ชูศักดิ์ เอี่ยมสุข หรือโหน่ง ชะชะช่า ภายใต้ 3 ค่ายร่วมทุนสร้าง บริษัท แบล็ค ดรากอน เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด, บริษัท เนชั่น กรุ๊ป (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) และบริษัท ทรานส์ฟอร์เมชั่น ฟิล์ม จำกัด ที่จะเข้าฉายในวันที่ 24 กรกฎาคมนี้

ญดา นริลญา

ภาพ: แบล็ค ดรากอน เอ็นเตอร์เทนเม้นท์

ทุกบทบาทที่ญดาได้รับล้วนแต่มีคาแรกเตอร์ต่างกันโดยสิ้นเชิง The Momentum จึงพูดคุยกับญดาเพื่อค้นหาว่า ที่จริงแล้วตัวตนของนักแสดงคนนี้เป็นอย่างไร และถ้ามองย้อนกลับไปยังหนทางขรุขระของการเป็นนักแสดงที่ใช้เวลาเดินทางนาน 8 ปี กว่าจะประสบความสำเร็จ รวมถึงความประทับใจที่ได้ร่วมงานกับนักแสดงตลกที่ชื่นชอบมาตั้งแต่เด็ก

แม่นากคนล่าสุด โดยโหน่ง ชะชะช่า

‘แม่นาก’ หรือ ‘นางนาก’ ตำนานแห่งทุ่งพระโขนงได้ถูกเล่าขาน นำมาทำเป็นภาพยนตร์หลายครั้ง เสริมแต่งด้วยหลายมุมมองที่แตกต่างกันไปของคนเขียนบทและผู้กำกับ ซึ่งในปีนี้เรื่องราวของแม่นากถูกนำมาเล่าอีกครั้งในแง่มุมที่ตลกยิ่งขึ้น ผ่านฝีมือการกำกับของโหน่ง ชะชะช่า และการันตีความตลกคูณสามเพราะมีทั้ง หม่ำ-เพ็ชรทาย วงษ์คำเหลา และเท่ง-พงษ์ศักดิ์ พงษ์สุวรรณ ร่วมแสดงในเรื่องด้วย ซึ่งญดาเล่าว่า นี่เป็นเหตุผลที่เธอรับเล่นภาพยนตร์เรื่องนี้

“หนังเรื่องนี้เป็นโปรเจกต์ที่มีนักแสดงที่ญดาชื่นชอบหลายคน หลักๆ ก็คือพี่หม่ำ พี่เท่ง พี่โหน่ง ญดาเองอยู่ในวงการมานานแล้วรู้สึกว่า การจะได้ร่วมงานกับพี่ๆ ครบทั้ง 3 คน ในพาร์ตการแสดงมันยากมาก เพราะว่าทั้ง 3 คนไม่ค่อยได้มีโอกาสรับงานแสดงด้วย นอกจากชิงร้อยชิงล้านที่ดูมาตั้งแต่เด็กแล้วชอบมาก รู้สึกว่าเป็นโอกาสที่ดีมาก จึงตกลงรับเล่นเรื่องนี้”

เธอเล่าต่อว่า เมื่อได้ร่วมงานกับนักแสดงตลกที่ชื่นชอบแล้วได้เรียนรู้อะไรหลายอย่างทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลัง

“ในกองถ่ายสนุกมาก ประทับใจ ญดาได้เห็นการทำงานของพี่ๆ ที่อยากเห็นมานานแล้ว อยากเห็นเบื้องหลังว่าเป็นอย่างไร พอได้เห็นก็รู้สึกว่า มันไม่ใช่ทุกคนที่ทำแบบพี่หม่ำ พี่เท่ง พี่โหน่งได้ มันยากนะ เพราะการแสดงของพี่ๆ เขาธรรมชาติมาก มองแล้วเพลิน มีเสน่ห์ โดยเฉพาะการอิมโพรไวซ์ ที่เห็นชัดเลยว่าเป็นประสบการณ์ที่พี่ๆ เขาสั่งสมมาล้วนๆ ทำให้เราเซอร์ไพรส์ทุกการกระทำ ทุกฉากที่เจอกัน ทำให้การทำงานแปลกใหม่ 

“ได้เรียนรู้ในเรื่องการทำงานว่า เราไม่ต้องพยายามฝืนมากจนเกินไป นี่น่าจะเป็นสิ่งสำคัญของพี่ๆ นักแสดง ที่เขาทำให้เราหัวเราะหรือตลกได้คือเขาต้องไม่ฝืน เพราะยิ่งเขาพยายาม ยิ่งฝืน มันจะยิ่งไม่ตลก ญดาก็สามารถจับสิ่งนี้มาใช้กับการทำงานแสดงของเราได้ บางทีก็ต้องปล่อยให้มันเป็นไปตามธรรมชาติของมัน และต้องไม่ยึดติดอยู่ในกรอบมากเกินไป”

ภาพ: แบล็ค ดรากอน เอ็นเตอร์เทนเม้นท์

ส่วนผู้มารับบทเป็นพ่อมากอย่าง คริส-พีรวัส แสงโพธิรัตน์ ซึ่งเป็นการร่วมงานกับญดาครั้งแรก เธอบอกว่ามีความประทับใจในตัวพระเอกคนนี้ไม่แพ้พี่ๆ ทั้งสาม

“จริงๆ รู้จักพี่คริสมานานแล้ว เพราะพี่คริสก็มีชื่อเสียง ติดตามผลงานพี่คริสมา แต่ครั้งนี้ร่วมงานกันเป็นครั้งแรก ประทับใจมากเพราะพี่คริสนิสัยดีมาก น่ารักมาก เป็นนักแสดงที่เก่งด้วย” ญดากล่าวถึงพระเอกของเธอ

เนื้อหาของนากรักมาก ม๊ากมาก คือนางนากที่มาจากอดีตและต้องตามจีบพ่อมากในยุคปัจจุบัน ซึ่งเราจะได้เห็นนางนากในเวอร์ชันญดาที่มีทั้งความน่ารัก น่าเอ็นดู

“เวอร์ชันนี้เป็นเวอร์ชันที่แม่นากโก๊ะ แล้วก็น่ารักด้วย แล้วก็เป็นแม่นากที่ต้องจีบพ่อมากด้วย เป็นฝ่ายรุก”  ญดา นริลญา

ชีวิตนักแสดง 8 ปี กว่าจะเปล่งประกายเป็น ‘ดารา’

ญดาเล่าว่า ชีวิตนักแสดงของเธอเริ่มต้นเมื่อตอนอายุ 13 ปี ในตอนที่เธอได้ไปแคสต์โฆษณาครั้งแรก พอกลับบ้านมาในวันนั้น เด็กสาวก็เริ่มนั่งหน้ากระจกเพิ่มฝึกหัดแอ็กติงด้วยความสนุก

“จริงๆ เริ่มรู้ว่ารักการแสดง ตั้งแต่ตอนที่แคสต์โฆษณาตั้งแต่อายุ 13 ปี เพราะหลังจากนั้นกลับมานั่งหน้ากระจกที่บ้าน ตั้งไอแพด เรกคอร์ดหน้าตัวเอง แล้วก็ดูว่าการแสดงเราดีหรือยัง ทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ ยังไม่มีงานแคสต์ก็ซ้อมอยู่หน้ากระจกที่บ้าน แต่ตอนนั้นเรายังเด็ก ก็ไม่รู้ว่าสิ่งนี้เป็นอาชีพได้จริงจัง” ญดา นริลญา

เธอเล่าต่อว่า ความจริงแล้วเธอเป็นคนขี้เบื่อ อยู่กับสิ่งไหนนานๆ ไม่ได้ ยกเว้นเพียงแค่การแสดง ที่เธอทำอย่างต่อเนื่องได้อย่างยาวนาน 

“ญดาเป็นคนที่ทำอะไรไปสักพักแล้วรู้สึกว่าไม่ใช่ จะเลิกทำเลย แต่สำหรับการแสดงมันทำแล้วมีความสุข แต่กว่าจะมีคนรู้จัก ประสบความสำเร็จก็คือเรื่องร่างทรง ใช้เวลา 8 ปี ญดาไม่คิดว่าจะอดทนได้นานขนาดนั้น ถ้าไม่ได้รักมันจริงๆ” ญดาเล่าถึงแพสชันของตัวเอง

จากเด็กสาวที่ไปแคสติงโฆษณา มีผลงานการแสดงละคร และเล่นเอ็มวีเพลง จนกระทั่งผ่านไป 8 ปี แสงสาดส่องลงมาสู่ญดาหลังจากภาพยนตร์เรื่อง ร่างทรง ออกฉายและโด่งดัง จากนักแสดงที่ไม่ค่อยมีใครรู้จัก ได้กลายเป็นดาราดังระดับประเทศ และเธอขยายความถึงคำว่านักแสดง กับดาราว่า 2 สิ่งนี้มีความต่างกัน ญดา นริลญา

“นักแสดงในมุมมองของญดาคือ หลายๆ คนที่เราอาจจะไม่รู้จักชื่อจริงเขา ไม่ได้รู้จักตัวตนเขา ไม่ได้ติดตามชีวิตไลฟ์สไตล์ส่วนตัวของเขา แต่รู้ว่าเขามีผลงาน เขาคือนักแสดง เขาได้รับบทนั้น บทนี้ แต่ในพาร์ตของดารา ซึ่งดาราก็ย่อมาจากดวงดาวอยู่แล้ว คือการที่เราเป็นที่จับตามอง อยู่ในสปอตไลต์ ทุกคนอยากรู้ชีวิตของเรา ติดตามเรา ซึ่งคิดว่าจริงๆ การแสดงตัวตนแบบดาราควรจะเป็นทักษะหนึ่งที่ติดตัวนักแสดงไปด้วย เพราะนักแสดงก็อยู่ต่อหน้าสื่ออยู่แล้ว ทุกคนเสพผลงานเรา บางคนก็อยากเสพความเป็นตัวตนของเราด้วย” ญดาอธิบาย ญดา นริลญาญดา นริลญา

และเส้นทาง 8 ปีก็ก่อนจะเป็นดาราที่มีคนรู้จักทั้งประเทศ ทำให้เธอได้เรียนรู้ว่าความสำเร็จในวงการบันเทิงเป็นเรื่องของโอกาสกับความพยายามเท่าๆ กัน

“ถ้าไม่มีโอกาส มีความพยายามไปก็ไม่เกิดผล แต่ถ้ามีโอกาสแต่ไม่มีความพยายามเลย ก็ไม่สำเร็จ คิดว่าสิ่งที่เราทำได้ในวันนี้คือ การพัฒนาศักยภาพตัวเองเพื่อรอโอกาส บางทีโอกาสมันผ่านมาแล้วผ่านไปเลย นี่คือสิ่งที่ได้ยินมาตลอดตั้งแต่เด็ก แต่ถ้าวันนี้เรายังไม่ได้มีความพร้อมอะไรเลย แต่โอกาสมาแล้ว เราไม่สามารถที่จะรองรับโอกาสนั้นไว้ได้ก็ไม่มีประโยชน์” 

แต่ความสำเร็จของญดาส่วนหนึ่งมาจากความรัก ความพยายาม และความทุ่มเทอย่างจริงจัง เพราะเมื่อได้รับบทมาแล้ว เธอไม่ได้ทำเพียงแค่ท่องจำบทแล้วไปถ่ายทำ ญดา นริลญา

“ในกองถ่ายเป็นสนามจริงที่เราไม่มีโอกาสเตรียมตัวแล้ว แต่ที่เตรียมตัวคือตอนก่อนจะเริ่มถ่ายทำมากกว่า เราต้องทำความเข้าใจบท ตีความตัวละคร ตัวละครที่เราเห็นในเรื่องก็คือส่วนหนึ่งในชีวิตของตัวละครนั้นที่ถ่ายทอดเรื่องนั้น

“แต่จริงๆ แล้วมันมีเบื้องหลังอีกมากมาย ญดาต้องไปนั่งทำการบ้านว่า ตั้งแต่เขาเกิดถูกเลี้ยงดูมาอย่างไร เขาโตมาอย่างไร สภาพแวดล้อม สังคมเขาเป็นอย่างไร เขาเรียนที่โรงเรียนไหน โรงเรียนอินเตอร์หรือโรงเรียนอะไร บุคลิกภาพจะต่างกัน ญดาก็ต้องทำการบ้านเรื่องบุคลิกตัวละครด้วย เขาเดินอย่างไร เขาพูดอย่างไร เขาคบเพื่อนแบบไหน มีสังคมอย่างไร ทำการบ้านเยอะเลย” ญดาเล่าถึงวิธีการทำงานของเธออย่างจริงจัง

อย่างไรก็ตามญดาเล่าว่า การซ้อมบทแล้วไปถ่ายทำเลย โดยไม่ได้ทำการบ้านตัวละครไม่ใช่วิธีการที่ผิด เพียงแต่บางครั้งไม่ดีต่อตัวญดาเอง ญดา นริลญา

“สำหรับญดาเองที่เคยมีประสบการณ์ใช้วิธีนี้มาแล้ว ถ้าไม่ทำการบ้านตัวละครเลย อ่านบทแล้วเล่นเลย ส่วนมากจะเล่นเป็นตัวเอง เหมือนเราไม่ทิ้งความเป็นตัวเองไป เราจะใช้ประสบการณ์ของเราในการแสดงเลย แต่ถ้าญดาเขียนรายละเอียดว่า คาแรกเตอร์นี้เป็นแบบไหน ญดาจะเห็นอะไรบางอย่าง แล้วเก็บมาจากการจินตนาการต่อยอดได้ แล้วก็ทำให้ญดาเล่นเป็นอีกคนหนึ่งที่ไม่ใช่ประสบการณ์ส่วนตัวเรา 

“แต่การที่เล่นจากประสบการณ์ส่วนตัวก็ไม่ได้มีข้อเสีย บางทีความคิดของตัวละครกับความคิดของเราอาจจะไม่เหมือนกัน ในบางสถานการณ์ตัวละครเขาอาจตีความในทิศทางที่ไม่ตึงเครียดมาก แต่ประสบการณ์ส่วนตัวเราผ่านชีวิตมาหนักหนาสาหัส เราไปตีความให้เรื่องนี้มันเครียดมาก มันก็อาจจะไม่ได้ตรงกับตัวละครนั้นที่เขากำลังคิดอยู่” ญดา นริลญา

บทบาทที่อยากเล่น

ด้วยวิธีการทำงานที่เอาจริงเอาจังและมีลำดับขั้นตอนของญดา ถึงตรงนี้ทุกคนคงได้รู้ว่าเธอเป็นนักแสดงที่ทุ่มเทให้กับทุกบทบาทที่ได้รับมา ซึ่งสิ่งที่น่าสนใจคือตัวละครแบบไหนที่ญดาอยากลองเล่นและลองทำการบ้านกับมัน

“เยอะมาก แต่ก่อนหน้านี้คิดว่าอยากเล่นทุกอย่าง แต่พอได้เรียนรู้ไป ญดาจะเริ่มคัดกรองได้แล้วว่าชอบอะไร ไม่ชอบอะไร มันก็จะมีข้อจำกัดในการเล่นแล้วว่าอันนี้อยากเล่น อันนี้ไม่อยากเล่น ซึ่งสิ่งที่ไม่อยากเล่นก็คืออะไรที่ทำไปแล้ว ญดาชอบที่ได้รับโอกาสได้เล่นอะไรใหม่ๆ มันเป็นความท้าทายที่ต้องเริ่มจากศูนย์ กลับกันถ้าเราเคยลองเล่นแล้ว มันก็จะไม่มีความท้าทาย ไม่มีความตื่นเต้น ซึ่งตัวญดาเองเป็นคนขี้เบื่อ” 

ในอนาคตเราคงได้เห็นนักแสดงสาวที่ชอบความท้าทายคนนี้ในบทบาทใหม่ๆ อยู่เสมอ ไม่ซ้ำกับที่ผ่านมา และเชื่อว่าคงเป็นสิ่งที่หลายคนเฝ้ารอจะได้ดูตัวละครต่างๆ ที่ญดาถ่ายทอดออกมา ญดา นริลญา

‘ยัยเจ๊’ บทบาทในชีวิตจริงที่เคยทำให้กดดันตัวเอง

ญดาที่มีผลงานการแสดงหลากหลาย แต่เมื่อถามว่ามีผลงานไหนที่แสดงตัวตนญดามากที่สุด ญดาบอกกับเราว่าเธอไม่แน่ใจนัก เพราะเธอเป็นคนที่มีหลายด้านในชีวิตทั้งด้านที่เป็นเด็ก และด้านที่จริงจังกับอาชีพของตัวเอง

“ตัวละครที่เหมือนตัวตนของญดา นึกไม่ออกเลย เหมือนจะไม่มีเลย ทุกเรื่องที่ญดาเล่นเป็นสิ่งใหม่ที่ไกลตัวหมดเลย ซึ่งจริงๆ แล้วญดาเป็นคนที่มีหลายมุมมากในชีวิต ในพาร์ตการทำงานก็เป็นคนจริงจัง แต่ในเรื่องอื่นก็เหมือนกัน ถ้าเกิดตั้งใจทำอะไร มีเป้าหมายแล้วก็มุ่งมั่นและทุ่มเทให้กับสิ่งนั้นแบบสุดโต่งเลย ไม่ว่าจะงาน ชีวิต ครอบครัว ความรัก รวมถึงสุขภาพด้วย แต่จะเป็นคนไม่ฝืนใจตัวเอง ไม่สามารถเอาตัวเองไปในที่ที่เรารู้สึกว่าฝืนใจได้” ญดาพูดถึงตัวตนของตัวเองที่ไม่เหมือนกับตัวละครใดเลย ญดา นริลญา

และด้านที่จริงจังไม่แพ้การทำงาน คือเรื่องครอบครัว เธอเล่าว่า เธอมีบุคลิกแบบพี่สาวคนโตที่ต้องดูแลทุกคนในบ้าน

“ญดาคือยัยเจ๊ รู้สึกว่าตัวเองเป็นหัวหน้าครอบครัว เรามีความเป็นเจ๊ เหมือนเจ๊ใหญ่ อยากเป็นพี่ แต่จริงๆ เป็นน้อง มีพี่ชาย แต่ดูแลทุกคน เลยมีความเป็นเจ๊อยู่” 

ปฏิเสธไม่ได้ว่า บทบาทหัวหน้าครอบครัวหล่อหลอมให้ญดาเป็นคนจริงจังกับสายอาชีพนี้ตั้งแต่อายุ 13 ปี และในวันนี้ที่เธอได้ประสบความสำเร็จ หากมองย้อนไปยังวันที่เป็นเด็กวัยรุ่น สิ่งหนึ่งที่เธออยากพูดกับตัวเองคือ ไม่จำเป็นต้องแบกทุกอย่างเอาไว้บนบ่า

“ย้อนกลับไป อยากพูดกับตัวเองว่า ไม่ต้องไปซีเรียสกับทุกเรื่อง เพราะว่าบางทีมันกดดันตัวเองมากเกินไป บางอย่างก็ต้องปล่อยให้มันไปเป็นตามธรรมชาติของมันบ้าง เพราะญดาวัยเด็กเป็นคนจริงจังมาก แล้วแบกรับความกดดันไว้ที่ตัวเอง พอโตมาก็เริ่มสลัดทุกอย่างออกมาทีละนิด ทีละนิด แล้วก็อยากบอกตัวเองว่าเก่งมาก ประทับใจมาก และพูดว่าโตมาเดี๋ยวจะสวยลูก ไม่ต้องตกใจหน้าตัวเองตอนนั้น เดี๋ยวจะสวยเอง (หัวเราะ)” เธอกล่าวอย่างติดตลก ญดา นริลญา

ญดาในเวอร์ชันปัจจุบันคือ คนที่ปลดระวางความกดดันลงจากบ่าแล้ว เธอเสริมว่าทุกวันนี้ได้เริ่มกลับมาเติมเต็มวัยเด็กของตัวเองด้วยการทำอะไรที่ชอบ

“จุดที่กดดันตัวเองน้อยลง คือจุดที่รู้ว่าเป็นคนที่มีความรับผิดชอบ และสามารถดูแลคนรอบข้างได้อย่างดีแล้ว เลยรู้สึกว่าไม่กดดันตัวเองแล้ว ก่อนหน้านี้พยายามจะให้ตัวญดาและคนรอบข้างอยู่กันได้สบาย ทุกวันนี้ทุกคนอยู่ได้ ญดาเลยลดความกดดันลงมา ได้ทำอะไรที่เราอยากทำบ้าง อย่างการวาดรูประบายสี เพราะตอนเด็กๆ เป็นคนชอบวาดรูประบายสี

“พอทำงานก็ทิ้งสิ่งนี้ไปเลย เหมือนวัยเด็กเราไม่มี พอตอนนี้โตมาก็กลับมานั่งวาดรูประบายสี มันทำให้เราได้เติมเต็มอินเนอร์บางอย่างที่ขาดหายไป อย่างความไร้เดียงสา ไม่ต้องคิดอะไรเลย กล้าลองผิดลองถูกด้วยการลงสีอะไรไปก็ได้ ไม่ได้มีใครต้องมาตัดสิน ไม่ได้มีกรอบมาตีว่าต้องเป็นแบบนั้นแบบนี้” ญดาพูดถึงชีวิตปัจจุบัน

อย่างไรก็ตามเชื่อว่า ตอนนี้หลายคนคงตื่นเต้นอยู่ไม่น้อยที่จะได้เห็นนักแสดงสาวที่แสนจริงจังกับบทบาทที่ผ่อนคลายขึ้นในภาพยนตร์ตลกเรื่องนากรักมาก ม๊ากมาก และสิ่งที่ทำให้อยากรู้ต่อไปคือ คนดูทั้งหลายจะตกหลุมรักตัวละครแม่นากสไตล์ญดามากน้อยเพียงใด 

Tags: , , , , ,