วันนี้ (9 มิถุนายน 2568) นิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ นำแถลงพัฒนาการสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยระบุว่า กองกำลังของทั้ง 2 ประเทศได้ออกสำรวจพื้นที่และแนวคูเรตร่วมกัน พร้อมกับปรับกองกำลังตามที่ตกลงกันไว้ ซึ่งเป็นพัฒนาการที่ดี สะท้อนให้เห็นถึงความจริงใจของฝ่ายกัมพูชาที่จะลดความตึงเครียดในพื้นที่ชายแดน
นิกรเดชกล่าวว่า ความคืบหน้าดังกล่าวเป็นผลจากการเจรจาในทุกระดับของทั้ง 2 ประเทศ ซึ่งหวังว่าจะนำไปสู่การหาทางออกอย่างสันติในระยะยาว ผ่านการใช้กลไกทวิภาคีที่มีอยู่ รวมทั้งเป็นการสร้างบรรยากาศที่ดีนำไปสู่การประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา (Joint Boundary Commission: JBC)
สำหรับกลไก JBC นิกรเดชขยายความว่า เป็นกลไกทางเทคนิคเพื่อหารือการสำรวจและการจัดทำเขตแดนทางบก ซึ่งประชุมครั้งล่าสุดเมื่อปี 2555 ที่กรุงเทพฯ และตลอด 25 ปีที่ผ่านมามีความคืบหน้าในหลายพื้นที่ เช่น สะพานมิตรภาพไทย-กัมพูชา (บ้านหนองเอี่ยน-สตึงบทที่ผ่านมามีการประชุม 10 ครั้ง โดยล่าสุดจัดขึ้นปี 2555 ที่กรุงเทพฯ ตลอด 25 ปีที่ผ่านมามีความคืบหน้าในหลายพื้นที่ เช่น สะพานมิตรภาพไทย-กัมพูชา (บ้านหนองเอี่ยน-สตึงบท)
จึงหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ในการประชุม JBC ที่จะเกิดขึ้นจะช่วยลดความตึงเครียด ของสถานการณ์ในภาพรวมที่ยังมีความเปราะบางอยู่
“ผมยืนยันความพร้อมของฝ่ายไทยที่จะเข้าร่วมประชุม JBC ด้วยความสุจริตใจ และพร้อมจะเห็นความร่วมมือและความตั้งใจจริงของทั้ง 2 ฝ่ายที่จะทำให้ความสัมพันธ์ทวิภาคีดียิ่งขึ้น” โฆษกกระทรวงการต่างประเทศเปิดเผย
ทั้งนี้รัฐบาลไทยขอยืนยันความเชื่อมั่นว่า การใช้กลไกที่ไทยและกัมพูชามีอยู่ เช่น JBC ควบคู่ไปกับคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (General Border Committee: GBC), กลไกคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (Regional Border Committee: RBC) และการเจรจาทวิภาคีในทุกระดับ จะเป็นหนทางที่มีประสิทธิภาพในการแก้ไขความขัดแย้งต่างๆ เพื่อให้ทั้ง 2 ประเทศอยู่ด้วยกันอย่างสงบสุข
อย่างไรก็ตาม มาตรการควบคุมจุดผ่านแดนต่างๆ นิกรเดช เปิดเผยว่า ยังคงดำเนินการต่อไปตามการประเมินของฝ่ายความมั่นคง
นอกจากนั้นศูนย์อำนวยการขับเคลื่อนการป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยคุกคามที่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงในพื้นที่ชายแดนกับประเทศเพื่อนบ้าน (ศอ.ปชด.) มีแผนประกาศที่จะยกระดับมาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมเทคโนโลยีและการค้ามนุษย์ตามแนวชายแดน เช่น การตัดกระแสไฟฟ้า การระงับสัญญาณอินเทอร์เน็ต ตลอดจนการควบคุมสินค้า ซึ่งมาตรการที่กล่าวมานั้นจะต้องเสนอต่อสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ต่อไป
เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่กัมพูชา ‘ลดจำนวนวัน’ ของชาวไทยที่เข้าไปพำนักที่กัมพูชาเหลือเพียง 7 วัน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศระบุว่า ในประเด็นนี้รับทราบเรียบร้อยแล้ว ซึ่งไทยก็ปรับลดระยะเวลาฟรีวีซ่าเหลือเพียง 7 วันเช่นเดียวกัน โดยกำหนดการยังไม่มีที่สิ้นสุด จนกว่าสถานการณ์ในภาพรวมจะดีขึ้น ถึงจะมีการเพิ่มจำนวนวันพำนักต่อไป
Tags: กัมพูชา, กองทัพ, ไทย, กระทรวงการต่างประเทศ, วีซ่า, ช่องบก, JBC, เจรจา, พิพาทชายแดน, รัฐบาล