วันนี้ (17 เมษายน 2568) ถือเป็นวันแรกของวันเดินทางในฐานะ ‘ทีมไทยแลนด์’ ที่นำโดย พิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เพื่อเข้าเจรจากับผู้แทนรัฐบาลสหรัฐอเมริกาถึงการขึ้นภาษีนำเข้าของ โดนัล ทรัมป์ (Donald Trump) ประธานาธิบดีสหรัฐฯ
โดยเมื่อวานนี้ (16 เมษายน 2568) ที่ทำเนียบรัฐบาล พิชัยได้นัดประชุมร่วมกับ เศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เป็นเวลากว่า 1 ชั่วโมง เพื่อหารือถึงแนวทางการรับมือกับมาตรการขึ้นภาษีนำเข้าดังกล่าว โดยในหลักการเห็นพ้องกันว่า ความไม่แน่นอนของตลาดโลกและไทยมีสูง เรื่องต่างๆ ยังเปลี่ยนแปลงทุกวัน จึงยังไม่มีใครกล้าบอกว่าเรื่องนี้จะจบอย่างไร
พิชัยกล่าวว่า วันนี้ได้คุยกับธนาคารแห่งประเทศไทย โดยได้คาดเดากันว่า จะมีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นบ้าง เนื่องจากเป็นสิ่งที่กระทบต่อภาคธุรกิจและการส่งออก โดยในที่ประชุมได้พิจารณาถึงผลกระทบต่างๆ ในทุกมิติ เพื่อเตรียมความพร้อมในการเจรจา
รองนายกฯ ระบุต่อไปว่า แม้ว่าวันนี้ยังไม่มีข้อสรุปออกมาว่าจะใช้มาตรการใดในการรับมือ เพียงแต่รับฟังข้อมูลจากทุกฝ่ายและนำมาวิเคราะห์ โดยเฉพาะประเด็นดุลการค้าที่สหรัฐฯ อ้างถึง ทั้งนี้ยืนยันว่า หลังจากนี้การทำงานกับธนาคารแห่งประเทศไทยจะใกล้ชิดกันมากขึ้น แลกเปลี่ยนข้อมูลกันมากขึ้น เพื่อติดตามสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปว่า จะส่งผลกระทบต่อตลาดเงินหรือตลาดทุน และหารือถึงมาตรการรับมือต่อไป
อย่างไรก็ตามพิชัยเปิดเผยว่า ไม่ได้มีการพูดคุยถึงการลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย แต่เชื่อว่าคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ธนาคารแห่งประเทศไทยคงได้นำข้อมูลและเหตุการณ์มาประกอบการพิจารณาอยู่แล้ว ขณะเดียวกันในประเด็นการนำเงินทุนสำรองระหว่างประเทศมารับมือกับสถานการณ์นี้ รองนายกฯ ให้การปฏิเสธว่า ไม่ได้มีแนวคิดนี้แต่อย่างใด
ในวันเดียวกันนั้น พิชัยยังได้เข้าหารือกับภาคพลังงาน อย่างบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) โดยมีแผนการรับมือกับการขึ้นภาษีนำเข้าสหรัฐฯ โดยออกมาทั้งสิ้น 3 มาตรการ ดังนี้
1. นำเข้าก๊าซธรรมชาติ LNG ของ ปตท. 1 ล้านตัน มูลค่ากว่า 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในปี 2569 โดยในล็อตแรกจะเซ็นสัญญาสัมปทานเป็นเวลา 15 ปี
2. แผนพลังงานในอีก 5 ปีหลังจากนี้เตรียมทำสัญญาซื้อขายปิโตรเคมี (อีเทน) จำนวน 4 แสนตัน มูลค่ากว่า 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เนื่องจาก ปตท.ประเมินว่า ปริมาณน้ำมันดิบและก๊าซธรรมชาติในอ่าวไทยมีน้อยลง ไม่เพียงพอต่อการใช้งานในอนาคต จึงจะใช้โอกาสนี้ในการเข้าเจรจากับสหรัฐ
3. แผนในอนาคตต้องการให้ ปตท.เป็นผู้ซื้อและผู้ขายก๊าซ LNG ที่นำเข้าจากสหรัฐฯ เพื่อต้องการเป็นฮับรายใหญ่ของภูมิภาค ขณะที่รายละเอียดเงื่อนไขจะมีการเจรจากันในภายหลัง
ทั้งนี้ ‘ทีมไทยแลนด์’ ที่นำโดยรองนายกฯ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังจะทยอยเดินทางไปยังประเทศสหรัฐฯ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป โดยกำหนดการของพิชัยจะเดินทางไปยังนครซีแอตเทิล (Seattle) เป็นที่แรกเพื่อเข้าพบกับนักธุรกิจกลุ่มต่างๆ ก่อนที่จะเดินทางไปยังกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. (Washington D.C.) เพื่อเข้ากับผู้แทนรัฐบาลสหรัฐฯ ในวันที่ 21 เมษายน 2568 ต่อไป
Tags: พิชัย ชุณหวิชร