นานาชาติ รัฐบาลสหรัฐอเมริกา และผู้เชี่ยวชาญจากองค์การสหประชาชาติ (United Nations: UN) ร่วม ‘กดดัน’ ประเทศไทยไม่ให้ส่งชาวอุยกูร์หลายสิบคนกลับประเทศจีน เชื่อกระทบสิทธิมนุษยชนและชีวิตของผู้ลี้ภัยจะตกอยู่ในอันตราย

สำนักข่าว CNN รายงานว่า ชาวอุยกูร์ 48 คนที่ถูกคุมขังในสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองตั้งแต่ปี 2014 กำลังจะถูกส่งกลับประเทศ หลังหลบหนีการประหัตประหารของรัฐบาลจีนมายังประเทศไทยตั้งแต่ 11 ปีก่อน โดยทางการไทยเป็นฝ่าย ‘ยื่น’ เอกสารขอกลับประเทศโดยสมัครใจ ขณะที่เจ้าหน้าที่บางส่วนข่มขู่ผู้ต้องขังในเรือนจำว่า จะส่งพวกเขากลับประเทศเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ขณะนี้ผู้ลี้ภัยชาวอุยกูร์พยายาม ‘อดอาหาร’ ประท้วงรัฐบาลไทยตั้งแต่วันที่ 10 มกราคมจนถึงปัจจุบัน โดย อาร์สลัน ฮิดายัต (Arslan Hidayat) นักเคลื่อนไหวที่ทำงานในแคมเปญ All’s Save Uyghur เปิดเผยคลิปเสียงของผู้ลี้ภัยคนหนึ่งบน Instagram ที่ขอร้องให้ทั่วโลกช่วยเหลือพวกเขาไม่ให้ทางการไทยส่งกลับไปยังประเทศจีน

“เรากำลังร้องขอความช่วยเหลือจากโลกเสรีอย่างสิ้นหวัง คุณทั้งหลายรู้ว่าหากเรากลับไปประเทศจีน อะไรจะเกิดขึ้นกับเรา นี่คือคำร้องขอจากพี่น้อง 48 คนในประเทศไทย” คลิปเสียงส่วนหนึ่งที่เปิดเผยจากฮิดายัต

นอกจากนี้ในจำนวนชาวอุยกูร์ 350 คนที่ถูกคุมขัง ยังมีเยาวชนจำนวนหนึ่งอยู่ในกลุ่ม อีกทั้งยังมี ‘เด็กเกิดใหม่’ และ ‘เด็กอายุ 3 ปี’ เสียชีวิตในคุก โดยกลุ่มเคลื่อนไหวด้านสิทธิมนุษยชนชี้ว่า ชีวิตของพวกเขาในเรือนจำเป็นไปอย่างลำบากและไม่ปลอดภัยต่อชีวิต ทั้งไม่ได้พบทนายความ ครอบครัว หรือแม้แต่ผู้แทน UN ขณะที่สภาพความเป็นอยู่ย่ำแย่ ไม่ได้มาตรฐานด้านอนามัยและสุขลักษณะ

เบื้องต้นผู้เชี่ยวชาญจาก UN ร้องขอประเทศไทยผ่าน CNN ให้หยุดการส่งตัวผู้ลี้ภัยกลับประเทศ โดยเตือนว่า พวกเขาอาจถูกรัฐบาลจีนประหัตประหาร หรือใช้ความรุนแรงอย่างไร้มนุษยธรรม อีกทั้งยังย้ำว่า ไทยคือสมาชิกคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนของ UN และการกระทำดังกล่าวขัดต่อกฎหมายระหว่างประเทศ 

ขณะที่ มาร์โก รูบิโอ (Marco Rubio) รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ คนใหม่ แสดงท่าทีไม่เห็นด้วย หลังเมื่อไม่กี่วันก่อนเขาเปิดเผยกับวุฒิสมาชิกว่า เขาจะพูดคุยกับทางการไทยไม่ให้ส่งตัวชาวอุยกูร์กลับประเทศ

“ประเทศไทยเป็นพันธมิตรที่แข็งแกร่งมาก และแข็งแกร่งในเชิงประวัติศาสตร์พันธมิตรด้วย ผมคิดว่า การทูตสามารถบรรลุได้ทุกอย่าง เพราะความสำคัญของความสัมพันธ์และความใกล้ชิดของเรา” รูบิโอกล่าวว่า สิ่งที่จีนทำกับอุยกูร์เป็นความน่าสะพรึงกลัวอย่างหนึ่งที่เคยเกิดขึ้น หลายชีวิตต้องถูกส่งเข้าค่ายกักกันและบังคับใช้แรงงาน เพียงเพราะต่างเชื้อชาติและศาสนา

เช่นเดียวกับ จอห์น มูเลนาร์ (John Moolenaar) ประธานคณะกรรมาธิการสภาผู้แทนราษฎรที่ดูแลเรื่องจีนจากสหรัฐฯ เขียนหนังสือถึงเอกอัครราชทูตไทยในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. โดยแสดงความกังวลและขอให้ปล่อยชาวอุยกูร์ไปยังประเทศที่สาม

ปัจจุบันทางการไทยปฏิเสธต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ขณะที่กระทรวงการต่างประเทศจีนออกมาย้ำว่า เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องระหว่าง 2 ประเทศเท่านั้น 

หากย้อนกลับไปในปี 2015 ประเทศไทยเคยส่งชาวอุยกูร์ 100 คนกลับประเทศ และเผชิญกับแรงกดดันและเสียงวิจารณ์จากนานาชาติ ขณะที่ไม่มีใครทราบว่าชะตากรรมของผู้ลี้ภัยเป็นอย่างไรหลังจากนั้น 

ที่ผ่านมาชาวอุยกูร์ที่อาศัยในมณฑลซินเจียงต้องเผชิญกับการคุกคามของรัฐบาลจีน โดยสหรัฐฯ และนานาชาติต่างเรียกวิธีการปราบปรามว่า เป็นการ ‘ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์’ อีกทั้งยังมีการเปิดเผยรายงานสำนักข่าวที่น่าเชื่อถือหลายแห่งว่า ชาวอุยกูร์ถูกคุมขัง บังคับใช้แรงงาน และกลืนชาติ ขณะที่ทางการจีนปฏิเสธ และย้ำว่า เป็นการปราบปราม ‘ลัทธิหัวรุนแรง’ ภายในประเทศเท่านั้น

อ้างอิง

https://edition.cnn.com/2025/01/22/asia/thailand-uyghur-deportation-china-intl-hnk/index.html

https://www.bbc.com/news/articles/c5ye63grvyko

https://www.voanews.com/a/rubio-vows-to-oppose-thai-uyghur-deportations-as-us-secretary-of-state/7942121.html

Tags: , , , , , ,