วันนี้ (24 ธันวาคม 2567) ลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยถึงสถานะของ กิตติรัตน์ ณ ระนอง ผู้ได้รับการเสนอชื่อเป็นประธานกรรมการและกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และพงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ อดีตปลัดกระทรวงการคลัง ผู้ได้รับเสนอชื่อเป็นกรรมการ ธปท. ภายหลังส่งรายชื่อให้คณะกรรมการกฤษฎีกาตีความทางกฎหมายปรากฏว่า ทั้งกิตติรัตน์และพงษ์ภาณุไม่ผ่านคุณสมบัติที่จะเข้ารับตำแหน่งดังกล่าว
เนื่องจากคณะกฤษฎีกาตีความว่า กรรมการ ธปท.ต้องมีความเป็นอิสระจากการเมือง แต่กิตติรัตน์ดำรงตำแหน่งเป็นที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรีของอดีตนายกฯ เศรษฐา ทวีสิน แม้ว่าจะไม่ได้รับเงินเดือน จึงทำให้มีความสุ่มเสี่ยง
ลวรณกล่าวต่อว่า มีการยืนยันทางกฤษฎีกาเรียบร้อยแล้วว่า กิตติรัตน์ไม่ผ่านคุณสมบัติ โดย พิชัย ชุณหวชิร รองนายกฯ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง มีอำนาจชี้แจงรายละเอียด ซึ่งคงต้องมีการสรรหากันใหม่ในช่วงเดือนมกราคม 2568
ในช่วงเช้าของวันเดียวกัน พิชัยเผยต่อสื่อมวลชนก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรีว่า การนำชื่อของกิตติรัตน์เสนอเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ต้องให้หน่วยงานต้นสังกัดตรวจสอบคุณสมบัติก่อน โดยปัจจุบันเหลือเพียงส่วนของคณะกรรมการกฤษฎีกา ซึ่งคาดว่าจะส่งมาภายในวันพรุ่งนี้ (25 ธันวาคม 2567) หากไม่ผ่านก็คงต้องมาพูดคุยกันและเร่งเสนอรายชื่อ ซึ่งคณะกรรมการสรรหาก็พร้อมอยู่แล้ว
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ต้องให้ประธานกรรมการ ธปท.คนก่อนหน้า ปฏิบัติหน้าที่รักษาการไปก่อนหรือไม่ พิชัยตอบว่า ได้ข่าวว่าจะลาออก แต่ก็ยังรักษาการไปได้เรื่อยๆ อย่างไรก็ตามในกรณีที่ลาออกก็ต้องรีบสรรหา มิเช่นนั้นจะจัดการประชุมไม่ได้ ดังนั้นเรื่องนี้จะรีบดำเนินการไม่ให้เกิดความเสียหาย
เช่นเดียวกันกับ แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ ก็ตอบคำถามสื่อมวลชนถึงกรณีที่เกิดขึ้นสั้นๆ ว่า ต้องไปตามกระบวนการ
ทั้งนี้คณะกรรมการสรรหาประธานคณะกรรมการ ธปท.มีมติเมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ให้เสนอชื่อกิตติรัตน์ ท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์จำนวนมาก รวมถึงมีเสียงจากกลุ่มเศรษฐศาสตร์เพื่อสังคมล่ารายชื่อนักวิชาการ-ผู้ทรงคุณวุฒิ 227 คน คัดค้านไม่ให้กิตติรัตน์นั่งเป็นประธานคณะกรรมการ ธปท. โดยให้เหตุผลว่า ไม่ต้องการให้การเมืองแทรกแซงธนาคารแห่งประเทศไทย
Tags: ธนาคารแห่งประเทศไทย, แพทองธาร, กิตติรัตน์, พิชัย, บอร์ดแบงก์ชาติ