บราซิลแฉหลักฐาน ‘ดีลลับรัฐประหาร’ ระหว่าง ฌาอีร์ โบลโซนารู (Jair Bolsonaro) อดีตประธานาธิบดีขวาจัด กับกองทัพบราซิล โดยระบุว่า เขาพยายามล้มล้างการเลือกตั้งในปี 2022 เพื่อกำจัด ลูลา ดา ซิลวา (Lula da Silva) ประธานาธิบดีฝ่ายซ้ายคนปัจจุบัน

เมื่อวานนี้ (26 พฤศจิกายน 2024) สำนักงานตำรวจสหพันธรัฐบราซิลเปิดเผยรายงาน 884 หน้าที่ชี้ว่า โบลโซนารูพยายาม ‘ล้มล้าง’ ผลการเลือกตั้งในปี 2022 หลังลูลาได้คะแนนทิ้งห่างถึง 2.1 ล้านเสียง นับเป็นสถิติในหน้าประวัติศาสตร์ของประเทศ หลังเปลี่ยนผ่านสู่ระบอบประชาธิปไตยในทศวรรษ 1980

ทั้งนี้เอกสารระบุว่า มีหลักฐานเชิงประจักษ์ 8 อย่างที่แสดงถึงความคิดล้มล้างระบอบประชาธิปไตยของโบลโซนารู ไม่ว่าจะเป็นการวางแผน การดำเนินการด้วยตนเอง หรือมีส่วนรู้เห็นเป็นใจร่วมกับบุคคลนิรนามอีก 36 คน แต่ไม่ได้เปิดเผยถึงรายละเอียดชัดเจน โดยสำนักงานตำรวจบราซิลส่งมอบหลักฐานให้อัยการสูงสุดของบราซิล เพื่อทำการตัดสินว่า จะดำเนินคดีกับเขาหรือไม่

เบื้องต้นมีการเปิดเผยรายชื่อผู้สมรู้ร่วมคิดบางส่วนในครั้งนี้ ได้แก่ วอลเตอร์ บรากา เนตโต้ (Walter Braga Netto) อดีตรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมบราซิล, ออกุสโต เฮเลโน (Augusto Heleno) อดีตที่ปรึกษาด้านความมั่นคง, แอนเดอร์สัน ตอร์เรส (Anderson Torres) อดีตรัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรมและความมั่นคงสาธารณะ และวาลเดอมาร์ กอสตา เนโต (Valdemar Costa Neto) หัวหน้าพรรคลิเบอรัลบราซิล (Liberal Party) ของโบลโซนารู 

สำหรับท่าทีล่าสุดของโบลโซนารู เขาออกมาให้สัมภาษณ์กับ Metropoles สื่อท้องถิ่นเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า ข้อกล่าวหาจากสำนักงานตำรวจถูกปลอมแปลงขึ้นมา ไม่ใช่ความจริง โดยทนายความส่วนตัวเขาจะตรวจสอบเรื่องราวทั้งหมด และพร้อมต่อสู้ทุกข้อกล่าวหา

การเปิดโปงดังกล่าวถือเป็นการตอกย้ำข้อกล่าวหาของสำนักงานตำรวจสหพันธรัฐบราซิลในสัปดาห์ก่อน หลังโบลโซนารูและพรรคพวกถูกชี้ว่า ก่ออาชญากรรมระดับชาติเพื่อล้มล้างการเลือกตั้งที่มาจากเจตจำนงของประชาชน 

ทั้งหมดนี้ประจักษ์จากเหตุการณ์ในปี 2022 หลังอดีตผู้นำบราซิลออกมาอ้างว่า เครื่องนับคะแนนเสีย และไม่สามารถไว้ใจผลลัพธ์ได้ อีกทั้งยังไม่ยอมรับความพ่ายแพ้ หลังลูลาชนะ จนทำให้เกิดการลงถนนของกลุ่มฝ่ายขวา เพื่อต่อต้านประธานาธิบดีคนใหม่ อีกทั้งยังเรียกร้องการแทรกแซงจากกองทัพบราซิล โดยหวังให้โค่นเขาลงจากเก้าอี้ผู้นำ

นอกจากนี้ในปีเดียวกันยังมี ‘คลิปเสียง’ รั่วไหล ที่แสดงให้เห็นว่า เจ้าหน้าที่ทหาร 53 นาย ไม่ต้องการให้ลูลาเป็นผู้นำคนใหม่ของประเทศ โดยระบุว่า พร้อมทำ ‘สงครามกลางเมือง’ เพราะมีประชาชนจำนวนหนึ่งออกมาสนับสนุน โดยต่อมาคลิปเสียงดังกล่าวถูกใช้เป็นหลักฐานในการตั้งข้อหากับโบลโซนารูอีกด้วย

อย่างไรก็ตาม ด้วยวีรกรรมของโบลโซนารูที่อ้างข้อมูลเท็จในการเลือกตั้ง เป็นเหตุให้ศาลเลือกตั้งสูงสุดบราซิล (Superior Electoral Court: TSE) ลงโทษเขา ด้วยการสั่งห้ามไม่ให้ดำรงตำแหน่งผู้นำประเทศจนถึงปี 2030

โบลโซนารูเคยเป็นอดีตทหารประจำกองทัพบราซิล และเข้าสู่วงการการเมืองบราซิลในปี 1989 โดยไต่เต้าจากการดำรงตำแหน่งในสภาท้องถิ่นริโอเดจาเนโร (Rio de Janeiro) และสภาผู้แทนราษฎร ก่อนจะคว้าชัยชนะในการเลือกตั้งปี 2018 จนถึงปี 2022

‘ผู้นำที่รังเกียจเดียดฉันท์เพศหญิง และเกลียดชังประชาธิปไตยมากที่สุดในโลก’

 คือสมญานามของผู้นำขวาจัดในหน้าสื่อ เขามักแสดงทัศนคติเป็นปฏิปักษ์กับระบอบประชาธิปไตยและความเท่าเทียมทางเพศ ไม่ว่าจะเป็นการกล่าวชื่นชม ออกัสโต ปิโนเชต์ (Augusto Pinochet) ผู้นำเผด็จการชิลี และถวิลหาสังคมบราซิลในช่วงอำนาจนิยม อีกทั้งยังเล่นมุก ‘ข่มขืน’ กับนักการเมืองหญิงในรัฐสภา รวมถึงเหยียดกลุ่ม LGBTQ+

อ้างอิง

https://www.aljazeera.com/news/2022/12/26/brazil-to-boost-security-for-lula-inauguration-after-bomb-threat

https://www.aljazeera.com/news/2024/11/21/police-accuse-brazil-ex-president-bolsonaro-of-involvement-in-coup-attempt

https://www.theguardian.com/world/2024/nov/21/jair-bolsonaro-charged-coup-plot

https://www.theguardian.com/world/2018/sep/06/jair-bolsonaro-brazil-tropical-trump-who-hankers-for-days-of-dictatorship

Tags: , , , , ,