โรงแรมดุสิตธานีจัดรอบพิเศษพาสื่อมวลชนชมโรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพฯ ซึ่งเพิ่งเปิดตัวเฟสแรกไปเมื่อวันที่ 27 กันยายน 2567 ที่ผ่านมา โดยขณะนี้พร้อมให้บริการมากกว่า 69 ห้อง จากห้องพักทั้งสิ้น 257 ห้อง และยังเปิดในส่วนของห้องอาหารและเครื่องดื่มพร้อมสรรพ ทั้งแกรนด์ ล็อบบี้ บาร์, ห้องอาหารพาวิลเลี่ยน, ห้องอาหารดุสิตกูร์เมต์ รวมถึง ‘บอลรูม’ ในตำนานอย่าง ‘ห้องนภาลัย แกรนด์ บอลรูม’ ที่เคยเป็นที่แสดงคอนเสิร์ตของ พุ่มพวง ดวงจันทร์ เมื่อปี 2529 ก็เปิดให้บริการแล้ว โดยผู้บริหารระบุว่า คิวของห้องนภาลัย แกรนด์ บอลรูม เต็มไปถึงสิ้นปีและต้นปีหน้า ซึ่งเป็นช่วงชุกสุดของงานอีเวนต์เป็นที่เรียบร้อย
เดินเข้ามายังล็อบบี้ สิ่งที่เห็นสิ่งแรกคือรถปอร์เช พาร์นาเมรา (Porsche Panamera) ซึ่งกลุ่มดุสิตธานีเลือกใช้เป็นรถลีมูซีนของโรงแรม ผ่านการกำหนดนิยามใหม่ให้เป็นศิลปะแห่งการเดินทาง พร้อมรับนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก โดยดุสิตธานีกรุงเทพฯ มีรถปอร์เชประจำมากถึง 5 คัน
ขณะเดียวกัน เดินเข้ามาจะเห็นเสาลายเบญจรงค์ 2 ต้น ตั้งตระหง่านเป็นเสายักษ์ ซึ่งเคยอยู่หน้าห้องอาหารเบญจรงค์ในโรงแรมดุสิตเดิม โดยประดับด้วยลายจิตรกรรมที่แกะมาจาก ‘วัดโพธิ์’ ของ ไพบูลย์ สุวรรณกูฏ (ท่านกูฏ) ลูกศิษย์ของอาจารย์ ศิลป์ พีระศรี จิตรกรคนสำคัญของไทยเมื่อหลายทศวรรษก่อน ถือเป็นงานศิลปะไทยร่วมสมัยที่ทรงคุณค่าเป็นอย่างยิ่ง
เรื่องเล่าข้างหลังเสา 2 ต้นน่าสนใจไม่แพ้ลวดลายบนเสา เพราะถือเป็นเสาหลักรับโครงสร้างอาคารดุสิตธานีเดิม ทำให้มีน้ำหนักมากกว่า 5 ตัน ยากทั้งการรื้อถอน และการนำมาติดตั้งยังโรงแรมดุสิตธานีใหม่
อีกไฮไลต์ที่หลายคนจับตามองคือ ห้องไลบราลี 1918 ซึ่งเคยเป็นห้องอาหารอิตาเลียน และห้องจัดเลี้ยงน้ำชาที่จัดถวายเป็นพระบรมราชานุสรณ์ในรัชกาลที่ 6 โดยภายในห้องตกแต่งด้วยหัตถกรรมศิลป์ งานฉลุไม้สง่างาม พร้อมพระบรมฉายาลักษณ์ และข้าวของเครื่องใช้ของในหลวงรัชกาลที่ 6 เทิดพระเกียรติในฐานะผู้สร้างจำลองดุสิตธานี โดยห้องนี้สามารถจัดได้ทั้งพิธีหมั้นแบบไทย งานเลี้ยงรับรองส่วนพระองค์ของพระบรมวงศานุวงศ์ รวมถึงเป็นห้องรับรองบุคคลสำคัญทั้งจากไทยและต่างประเทศ
สำหรับไฮไลต์ในดุสิตธานียังมีอีกมากที่น่าศึกษา ไม่ว่าจะเป็น ‘น้ำตกสวรรค์ชั้นดุสิต’ ที่ยกมาจากดุสิตธานีเดิม ต้นไม้ต้นแรกที่ ท่านผู้หญิงชนัตถ์ ปิยะอุย ผู้ก่อตั้งเป็นคนปลูกบริเวณน้ำตก รวมถึงรูฟท็อปบาร์ และเสาแหลมยอดทองที่อยู่ด้านบนอาคาร
โรงแรมดุสิตธานีโฉมใหม่เริ่มเปิดให้บริการไปเมื่อวันที่ 27 กันยายน 2567 ที่ผ่านมา โดยห้องอาหารอย่าง ‘แกรนด์ ล็อบบี้ บาร์’ (Grand Lobby Bar) ที่ให้บริการชุดน้ำชายามบ่าย ท่ามกลางสวนน้ำตก 9 ชั้น เปิดให้บริการแล้ว เช่นเดียวกับห้องอาหารพาวิลเลี่ยน (Pavillion) ซึ่งให้บริการอาหารไทยและจีนกวางตุ้งสูตรต้นตำรับ และดุสิตกูร์เมต์ (Dusit Gourmet) รวมถึงฟิตเนสและสระว่ายน้ำวิวสวนลุมพินี ที่ออกแบบให้รู้สึกเหมือนแหวกว่ายน้ำอยู่ท่ามกลางสวนลุมฯ และห้องพักที่มีกระจกหน้าต่างขนาดใหญ่ มองเห็นวิวสวนลุมฯ ได้เต็มตา
ส่วนใครอยากถ่ายรูปโรงแรมดุสิตธานีใหม่จากสวนลุมฯ แนะนำให้ไปช่วงบ่าย-เย็น จะได้เห็นอาคารสีทองยอดแหลมตั้งตระหง่านอย่างเต็มตา
Tags: ดุสิตธานี, งานศิลปะ, สวนลุมพินี