เคยรู้สึกไหมว่า เดี๋ยวนี้คนรอบตัว ‘เสี่ยงโชค’ ผ่านทั้งสลากกินแบ่งรัฐบาล รวมถึงสารพัด ‘หวย’ มากขึ้น ไม่ว่าจะวันที่ 1 กับ 16 ในรูปแบบสลากกินแบ่งฯ หวยใต้ดินในวันเดียวกัน ไปจนถึงหวยลาว หวยฮานอย ผ่านหลากหลายเว็บแทงหวยที่กิจการดูจะ ‘รุ่งโรจน์’ ขึ้นทุกวัน

บทสนทนาในที่ทำงานเต็มไปด้วยการฝากแทงหวย การถามคำถามกับเพื่อนรอบข้างว่า ‘ซื้อหรือยัง’ เรื่อยไปจนถึงการขอเลขใหม่ๆ หรือการอิจฉาคนรอบด้านที่อาจถูกสัก 5,000-10,000 บาท แล้วหวังว่าสักวันจะเป็นเราบ้างที่ได้รับโชคนั้น

เอาเข้าจริง การเล่นหวย การเสี่ยงโชคไม่ได้เป็นเรื่องแปลกอะไร เรื่องนี้เป็นหนึ่งในวัฒนธรรมที่อยู่คู่กับคนไทยมายาวนาน หนังสือพิมพ์ไทยรัฐในวันใกล้หวยออกจะมีข่าวต้นไม้ประหลาด สัตว์พิการ เพื่อให้คนตีเลขเสมอ กระทั่งวันนี้เป็น ‘ไทยรัฐทีวี’ ก่อนวันหวยออกก็ยังเป็นข่าวในลักษณะเดียวกัน แต่หากสังเกตปรากฏการณ์สังคมให้ดีก็คือ ความเชื่อในหวยขยับจากบรรดาชาวบ้าน ขยับจากชนบทเข้าสู่เมืองมากขึ้น ขยับเข้าสู่ ‘ชนชั้นกลาง’ มากขึ้น กระทั่งบรรดาเด็กจบใหม่ บรรดา First Jobber ต่างก็เข้าสู่วงการนี้กันงอมแงม

คำพูดของหลายคนพูดตรงกันว่า การถูกหวยสักครั้งในชีวิตอาจเป็นเส้นทางเดียวในการ ‘ยกระดับ’ จากคนที่ชักหน้าไม่ถึงหลัง ให้เป็นคนที่พอเลี้ยงตัวเองได้ สามารถใช้ชีวิตได้สบายๆ แทนที่จะต้องกังวลกับเรื่องการเงิน แต่คำถามก็คือ ทำไมหวยถึงเป็นทางเลือกเดียว Work Tips สัปดาห์นี้จะชวนไปหาคำตอบ

1. งานดีๆ มีเงินเหมาะสม หาได้ยากเย็น

ตัวเลขของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สภาพัฒน์ฯ) เปิดเผยว่า บัณฑิตจบใหม่ที่ว่างงานในปี 2566 อยู่ที่ 1.67% เป็นตัวเลขที่ไม่มาก แต่ก็น่ากังวลเพราะสะท้อนปัญหาความสมดุลระหว่างทักษะที่ตลาดแรงงานต้องการกับทักษะที่บัณฑิตมี

หลายสายงาน เช่น สายงาน Tech และสายงานที่ต้องการผู้มีความสามารถด้านภาษาต่างประเทศ ขาดแคลนบุคลากร ขณะที่สาขาอื่นๆ กลับล้นตลาด

ข้อเท็จจริงก็คือ เมื่อแรงงานบางสายล้นตลาด ก็ทำให้บัณฑิตจบใหม่จำนวนหนึ่งเลือกเปลี่ยนสายงาน บัณฑิตจบใหม่จำนวนหนึ่งเลือกรับเงินให้น้อยลง เพื่ออย่างน้อยยังได้มีงานทำ

ปีที่ผ่านมา เงินเดือนเด็กจบใหม่ในระดับปริญญาตรีอยู่ที่ราว 1.5-2.2 หมื่นบาท ซึ่งเป็นอัตราที่คงที่ยาวนาน แน่นอนว่าอัตรานี้ทำให้ใช้ชีวิตในเมืองใหญ่ได้ยากเย็น ค่าเช่าหอขั้นต่ำขึ้นไปถึง 5,000 บาท เป็นอัตราที่ขึ้นราว 20-30% เมื่อเทียบกับ 10 ปีที่แล้ว และยิ่งอยากมีที่พักใกล้ที่ทำงาน ค่าใช้จ่ายด้านนี้ก็แพงขึ้นไปอีก ไม่นับรวมค่าอุปโภคบริโภคที่มีแต่ขึ้นมากเข้าทุกวัน

ถึงจุดนี้ ‘เงินเก็บ’ แทบจะเป็นเรื่องเพ้อฝัน เช่นเดียวกับความฝันที่จะเป็นเจ้าของที่อยู่อาศัย เจ้าของที่ดิน ความฝันจะลงทุนด้วย Passive Income ตามที่หลายคนว่าไว้แทบจะไม่มี การเข้าถึงแหล่งทุนยิ่งเป็นไปอย่างยากเย็น

เรื่องตลกก็คือ การเริ่มเจียด 100 บาท 500 บาท มาแทงหวย ยังดูมีโอกาสมากกว่าการที่จะ ‘รวย’ ด้วยการทำงานดีๆ ได้เงินสูงๆ ในช่วง 5 ปีแรกของการทำงาน

2. เศรษฐกิจโตต่ำ เงินเดือนขึ้นแค่ปีละ 6%

เป็นที่รู้กันว่าประเทศไทยติดหล่มการเติบโตทางเศรษฐกิจแค่ปีละ 2-3% มานานหลายปี เครื่องยนต์ทางเศรษฐกิจที่เคยหากินได้คือ ‘ส่งออก’ ได้รับผลกระทบจากภูมิรัฐศาสตร์โลกมาช้านาน ขณะที่เครื่องยนต์อีกเครื่องอย่างการท่องเที่ยวให้ผลกำไรกับคนไม่กี่คน ไม่กี่กลุ่ม ไม่กี่วันที่แล้ว สภาพัฒน์ฯ เพิ่งประกาศตัวเลขว่า เศรษฐกิจไทยโตราว 1.5% เท่านั้น อยู่ในระดับที่น้อยกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มประเทศในอาเซียน และจะวิกฤตต่อไปเรื่อยๆ หากยังไม่มีหนทางแก้ไขที่เป็นรูปธรรม

อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจเช่นนี้ ทำให้คำพูดสำคัญของบรรดามนุษย์เงินเดือนก็คือ เลือก ‘กอด’ งานประจำเอาไว้ให้แน่นๆ ไม่ถูกเลิกจ้างในแต่ละปีก็บุญแล้ว ขณะเดียวกัน การจะไปหวังอะไรกับเงินเดือนขึ้นก็อาจเป็นเรื่องยากลำบาก

ยกตัวอย่างเช่น หากคุณเริ่มต้นด้วยเงินเดือน 2 หมื่นบาท แล้วเงินเดือนขึ้นปีละ 6% ก็หมายความว่า 2 ปีถัดมา คุณจะได้เงินเดือนขึ้นเพียง 2,400 บาท ซึ่งแน่นอนว่าตามไม่ทันอัตราเงินเฟ้อ ตามไม่ทันค่าครองชีพที่สูงขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งก็กลับไปเข้าเหตุผลเดิมคือ ถ้าเงินขึ้นน้อยนิดขนาดนั้น จะนำเงินที่ไหนไปลงทุน หรือนำเงินที่ไหนไปเป็นเจ้าของสินทรัพย์ด้วยตัวเอง

รายได้ที่ขึ้นช้ากว่าเงินเฟ้อจะเป็นปัญหาเรื้อรังต่อไป เพราะไม่ว่าคุณจะเป็นระดับซีเนียร์หรือเป็นระดับหัวหน้า ล้วนต้องประสบกับสถานการณ์เดียวกัน

3. หวยมีทางเลือกมาก ออกทุกวัน ทุกเวลา

ว่ากันถึงเรื่องหวย ปัจจุบันมีช่องทางจัดจำหน่ายจำนวนมาก ทั้งช่องทางถูกกฎหมาย ช่องทางเทาๆ และช่องทางผิดกฎหมาย แม้สลากกินแบ่งฯ ออกทุกวันที่ 1 และ 16 ของทุกเดือน แต่ปัจจุบันทางเลือกของผู้บริโภคมีมากขึ้น หวยฮานอยออกทุกวันๆ ละ 4 รอบ หวยลาวออกสัปดาห์ละ 3 วัน จันทร์ พุธ และศุกร์ ในเวลา 20.30 น. ส่วนหวยมาเลย์ออกทุกวันพุธ เสาร์ และอาทิตย์ เวลา 18.40 น. ทุกเย็น บรรดามนุษย์ออฟฟิศต่างก็แย่งกัน ‘แทงหวย’ ผ่านช่องทางธรรมชาติ ด้วยหวังว่าเย็นนั้นจะมีเงินไปต่อชีวิตช่วงสิ้นเดือน หรือทำให้มีค่าขนมในกระเป๋าเพิ่มหลักร้อยก็ยังดี

ว่ากันที่เรื่องถูกกฎหมายก่อน ในการออกสลากกินแบ่งรัฐบาล แต่ละรอบจะมีลอตเตอรี่วางจำหน่ายทั้งสิ้น 100 ล้านใบ ทั้งนี้ในจำนวน 1 ชุด หรือ 1 ล้านใบ มีตัวเลขถูกรางวัลทั้งสิ้น 14,168 รางวัล หรือคิดเป็น 1.42% ขณะที่โอกาสไม่ถูกรางวัลเลยคิดเป็นถึง 98% หากไม่แทงในจำนวนมากๆ เพื่อกระจายความน่าจะเป็น โอกาสถูกหวยก็น้อยนิด จึงทำให้บรรดานักเล่นหวยออกต่างก็ออกไปแสวงหาช่องทางธรรมชาติ ด้วยการแทงหวยต่างประเทศกันถ้วนหน้า

ทั้งหมดนี้ยังไม่นับรวมการแทงบอล แทงมวย แทงม้า ซึ่งต่างก็เป็นตลาดใหญ่ และเป็นตลาดใต้ดินที่รัฐไทยไม่ได้ประโยชน์ใดๆ ทั้งสิ้น ได้ประโยชน์เพียงบรรดาคนเบื้องหลัง ที่ส่วนใหญ่เป็น ‘คนมีสี’ ทั้งนั้น

4. ประเทศไทยเสียโอกาสมาก กับการไม่ทำให้การแทงหวยใต้ดินถูกกฎหมาย

ต่อเนื่องจากข้อที่แล้ว เราต่างรู้กันดีว่ามีเงินหมุนเวียน ‘นอกระบบ’ ในเรื่องหวยและการพนันจำนวนมหาศาล อาจอยู่ที่หลัก 1.5 แสนล้านบาทต่อปี และอาจเกินกว่านั้นหากนับการพนัน รวมถึงนับหวยลาว หวยฮานอย หวยมาเลย์ ในสมการ ซึ่งตรงจุดนี้ บรรดาเจ้ามือต่างก็อิ่มหนำสำราญ หลายคนจ่ายตำรวจเดือนละเป็นสิบล้าน ในฐานะ ‘ค่าคุ้มครอง’ จนกลายเป็นข่าวอื้อฉาว

ถามว่ารัฐบาลรู้ไหมกับเรื่องนี้ แน่นอนว่ารู้ ทว่าวิธีแก้ปัญหากลับนำไปสู่การตั้ง ‘เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์’ หรือคาสิโนถูกกฎหมาย ซึ่งอาจทำให้เงินนอกระบบเข้าไปในคาสิโนบ้าง แต่ทั้งหมดก็เป็นเพียงส่วนน้อย และแน่นอนว่ารายใหญ่ที่ได้ประโยชน์ย่อมเป็น ‘นายทุน’ ที่ได้รับแบ่งเค้ก เป็นผู้ดำเนินงานเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์เหล่านี้

คำถามก็คือในเมื่อหวยลาว หวยฮานอย หวยมาเลย์ ออกถี่ๆ ได้ ทำไมไทยไม่ทำระบบหวยให้ออกรายวันหรือราย 3 วัน เหมือนกับต่างประเทศ เพื่อให้เงินจำนวนนี้ไม่ไหลออกไปสู่นอกระบบ คำถามต่อมาก็คือ รัฐบาลไทยพร้อมหรือไม่ในการรื้อโควตาสลากกินแบ่งฯ ใหม่ แล้วจัดรูป ‘หวย’ ให้เอื้อต่อพฤติกรรมคนแทงหวยมากขึ้น เพื่อไม่ให้เงินไหลออกไปยังเจ้ามือหวยใต้ดินหรือเว็บพนันออนไลน์

ขณะเดียวกัน การเกลี่ยจำนวนเงินให้บรรดาคนรุ่นใหม่มีโอกาส ‘ถูกหวย’ มากขึ้น โดยใช้มาตรการดูแลผ่านการจำกัดอายุ ดูแลคุณสมบัติคนซื้อ และกำหนดเงินรางวัล-กระจายเงินรางวัลให้เหมาะสม ย่อมทำให้เงินที่เคยหมุนอยู่ข้างนอกกลับมาหมุนต่อข้างในอย่างเป็นระบบ

อาจไม่สามารถกระจาย ‘ความมั่งคั่ง’ ได้ แต่ก็ทำให้รัฐสามารถนำงบประมาณไปลงทุนอย่างอื่นได้เพิ่ม โดยเฉพาะด้าน ‘สวัสดิการ’ ประชาชน

Tags: , , ,