มันมีฉายานามว่าเป็น ‘แบคทีเรียฝันร้าย’ เพราะนอกจากจะรักษาไม่ได้แล้ว ยังสามารถแพร่ยีนที่ทำให้ดื้อยาปฏิชีวนะไปยังแบคทีเรียอื่นๆ  ซึ่งศูนย์ป้องกันและควบคุมโรคของสหรัฐอเมริกาตรวจพบว่า ปีที่แล้ว เจ้าแบคทีเรียฝันร้าย แพร่พันธุ์ออกไปแล้วถึง 220 เคส

แม้ว่า ศูนย์ป้องกันฯ จะเคยเตือนเกี่ยวกับภัยคุกคามจากแบคทีเรียดื้อยาเหล่านี้มานานแล้ว แต่รายงานฉบับใหม่นี้ทำให้เห็นภาพว่า ปัญหานี้มีขอบเขตกว้างขวางแค่ไหน ดร. แอน ชูกัต (Anne Schuchat) ผู้อำนวยการศูนย์ฯ กล่าวว่า เธอประหลาดใจที่มีการแพร่เชื้อในวงกว้างขนาดนี้

ศูนย์ป้องกันฯ เริ่มก่อตั้งเครือข่ายแล็บทั่วประเทศเมื่อปี 2016 เพื่อช่วยให้โรงพยาบาลสามารถวินิจฉัยการติดเชื้อนี้ได้อย่างรวดเร็วและหยุดยั้งการแพร่กระจายต่อไป

ตัวอย่างเชื้อ 4 ชนิดที่ถูกส่งไปยังแล็บเหล่านี้มียีนพิเศษที่สามารถแพร่กระจายฤทธิ์ต้านทานยานี้ไปยังแบคทีเรียอื่นๆ มีราว 1 ใน 10 กรณีที่พบว่า ผู้ติดเชื้อจะแพร่โรคไปยังคนที่ดูภายนอกแล้วสุขภาพแข็งแรงดีที่อยู่ในโรงพยาบาล เช่นหมอหรือพยาบาล และพวกเขาก็จะกลายเป็นพาหะที่ไม่แสดงอาการ ซึ่งท้ายที่สุดก็สามารถนำโรคไปติดคนอื่นๆ อีกที

“นี่ไม่ใช่ปัญหาที่เกิดขึ้นในรัฐแค่หนึ่งหรือสองแห่ง” ชูกัตกล่าว และเสริมว่า ยีนเหล่านี้ถูกตรวจพบใน 27 รัฐ พบจากตัวอย่างการติดเชื้อต่างๆ ซึ่งรวมถึงโรคปอดบวม การติดเชื้อในกระแสเลือด และการติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะ

แบคทีเรียฝันร้ายที่ว่านี้ คือแบคทีเรียที่ต้านทานยาที่มีอยู่เกือบทุกชนิด และเป็นอันตรายถึงชีวิตสำหรับผู้สูงอายุหรือผู้ป่วยเรื้อรัง

ขณะที่แบคทีเรียนี้น่ากลัวในตัวมันเอง แต่ยีน ‘ไม่ปกติ’ เหล่านี้คือ “ที่สุดของความเลวร้าย” ตามคำพูดของ ดร. อมีช อดัลชา (Amesh Adalja) นักวิชาการอาวุโสแห่งศูนย์ความปลอดภัยด้านสุขภาพ มหาวิทยาลัยจอห์น ฮอบกินส์ และศูนย์ป้องกันฯ ก็เผยตัวเลขว่า ในแต่ละปี คนอเมริกันราวสองล้านคนเจ็บป่วยด้วยแบคทีเรียดังกล่าว และประมาณ 23,000 คนเสียชีวิต

แต่เนื่องจากครั้งนี้ เป็นปีแรกที่มีการทดสอบหายีนหายากนี้ ศูนย์ป้องกันฯ จึงไม่มีตัวเลขข้อมูลในปีที่ผ่านมาที่จะแสดงให้เห็นแนวโน้มภาพรวม แต่ชูกัตก็หวังว่า นี่จะไม่ใช่ “การเริ่มต้นพุ่งสูงขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้”

 

ที่มา:

Tags: ,