องค์การการท่องเที่ยวโลก (World Tourism Organization) คาดว่าการท่องเที่ยวทั่วโลกจะยังไม่กลับคืนสู่ระดับก่อนเกิดโรคระบาด จนถึงปี 2024 เป็นอย่างน้อย เนื่องมาจากข้อจำกัดด้านต่างๆ ของแต่ละภูมิภาค
รายงานของ World Tourism Barometer ซึ่งเป็นหน่วยงานขึ้นตรง UN ในกรุงมาดริด ระบุว่า ปัจจุบันโควิดสายพันธุ์โอมิครอนที่แพร่ระบาดอย่างรวดเร็วทั่วโลก แม้ว่าผู้ติดเชื้อจะมีอาการไม่รุนแรง แต่จะเป็นตัวขัดขวางการฟื้นตัวของการท่องเที่ยวในช่วงต้นปีนี้ หลังจากปีที่แล้ว (2021) มีอัตราการเติบโตของการท่องเที่ยวทั่วโลกเพิ่มขึ้นเพียง 4% จากปี 2020 ขณะที่รายได้จากการท่องเที่ยวในปี 2020 ซึ่งเป็นปีแรกที่มีการระบาดของโควิด-19 ในวงกว้าง ลดลงถึง 72% จากปี 2019
“อัตราการฟื้นตัวยังคงช้าและไม่สม่ำเสมอในภูมิภาคต่างๆ ทั่วโลก เนื่องมาจากข้อจำกัดด้านการเคลื่อนย้าย อัตราการฉีดวัคซีน และความมั่นใจของผู้เดินทางที่แตกต่างกันไป” องค์การการท่องเที่ยวโลกระบุในแถลงการณ์
ทั้งนี้ ยุโรปและอเมริกามีนักท่องเที่ยวต่างชาติมาเยือนเพิ่มขึ้น 19% และ 17% ตามลำดับ ในปี 2021 แต่ยังน้อยกว่าระดับก่อนช่วงเกิดโรคระบาดถึง 63% ภูมิภาคตะวันออกกลางมีจำนวนผู้เดินทางขาเข้าลดลง 24% ในปี 2021 ขณะที่ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกมีจำนวนผู้เดินทางขาเข้าลดลง 65% จากปี 2020 และลดลงถึง 94% จากช่วงก่อนเกิดโรคระบาด ส่วนผู้เดินทางเข้าแอฟริกาเพิ่มขึ้น 12% ในปี 2021 เมื่อเทียบกับปี 2020 แต่ก็ยังคงต่ำกว่าปี 2019 ถึง 74%
ในแถลงการณ์ระบุเพิ่มเติมว่า ผู้เชี่ยวชาญด้านการท่องเที่ยว ‘มองเห็นโอกาสที่ดีขึ้น’ สำหรับปี 2022 นี้ หลังจากความปั่นป่วนในช่วงต้นเดือนมกราคมที่ผ่านมา อันเนื่องมาจากคลื่นการระบาดของโอมิครอนทั่วโลก โดยหน่วยงานคาดการณ์ว่าจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติจะเพิ่มขึ้น 30% ถึง 78% จากปี 2021 แต่ก็ยังคงต่ำกว่าในปี 2019
อย่างไรก็ดี ผู้เชี่ยวชาญส่วนใหญ่คาดว่าการท่องเที่ยวทั่วโลกจะยังไม่กลับคืนสู่ระดับเดียวกับช่วงก่อนเกิดโรคระบาด อย่างเร็วที่สุดคือปี 2024 ขณะที่หลายประเทศที่ต้องพึ่งพาเม็ดเงินการท่องเที่ยวกำลังรอคอยการกลับสู่ภาวะปกติอย่างใจจดใจจ่อ
“สัดส่วนในทางเศรษฐกิจของการท่องเที่ยวในปี 2021 เมื่อวัดจากจีดีพีโดยตรงสำหรับการท่องเที่ยว อยู่ที่ประมาณ 1.9 ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งสูงกว่า 1.6 ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ ในปี 2020 แต่ยังต่ำกว่ามูลค่าก่อนเกิดโรคระบาดที่ 3.5 ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ” แถลงการณ์ระบุ