นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโคโรนาไวรัส 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. แถลงสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศไทย โดยในวันนี้  (19 เม.ย.) พบผู้ป่วยใหม่ 32 ราย ยอดผู้ป่วยสะสมเป็น 2,765 ราย รักษาหายแล้ว 1,928 ราย และไม่มีผู้เสียชีวิต ทำให้ตัวเลขผู้เสียชีวิตยังคงอยู่ที่ 47 ราย

สำหรับผู้ป่วยใหม่ 32  รายในวันนี้ ส่วนใหญ่มาจากกลุ่มที่เดินทางกลับจากต่างประเทศ ทั้งอินโดนีเซีย สหรัฐอเมริกา และอังกฤษ อย่างไรก็ตาม ผู้ป่วยทั้งหมดก็ยังอยู่ในมาตรการกักตัว 14 วัน จึงลดความเสี่ยงในการแพร่เชื้อออกไปข้างนอก

โดยพื้นที่ที่ยังมีความเสี่ยงและพบผู้ป่วยมากที่สุดยังคงเป็นกรุงเทพมหานคร นนทบุรี ภูเก็ต เป็นต้น และมี 9 จังหวัดที่ยังไม่พบผู้ป่วย และใน 14 วันที่ผ่านมา มีมากถึง 33 จังหวัดที่ไม่พบผู้ป่วยเพิ่ม

อย่างไรก็ตามจากการเก็บสถิติของกองระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค พบว่าผู้ป่วยโควิด-19 ในประเทศไทย อยู่ในช่วงอายุ 20-39 ปี พบมากที่สุด อยู่ที่ 1,334 ราย เนื่องจากเป็นวัยเข้าสังคม พบปะผู้คน เดินทางจากต่างประเทศ และใกล้ชิดกับครอบครัว

โดยปัจจัยเสี่ยงส่วนใหญ่มาจากสถานบันเทิง โรงแรม ร้านอาหาร มากถึง 19% รับจ้าง 18% พนักงานบริษัท และโรงงาน 14% 

ส่วนกระแสข่าวที่สถานประกอบการบางแห่งเตรียมกลับมาเปิดให้บริการตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค. เป็นต้นไป โฆษกศบค. บอกว่าเป็นแค่การตีความไป เนื่องจาก พรก. ฉุกเฉินฉบับแรกจะจบลงในวันที่ 30 เม.ย. ซึ่งยังบอกไม่ได้ว่าจะยุติตรงนี้ หรือขยายเวลาออกไป เนื่องจากต้องมีการประชุมของ ศบค.  อีกครั้ง และใช้ข้อมูลหลายด้านประกอบ และประเมินสถานการณ์ใกล้ๆ ที่จะถึงอีกครั้ง 

“การเตรียมเปิดหรือหยุด เกิดจากหน่วยธุรกิจต่างๆ ที่เตรียมความพร้อมกันเอง ซึ่งเกิดขึ้นได้สองทาง การให้เกิดวามมั่นใจได้ ต้องทำงานร่วมกันของคนทั้งประเทศมากกว่า 90% ถึงจะลดการติดเชื้อให้ได้ ที่ผ่านมาแม้ตัวเลขจะอยู่ที่ 30 ราย ก็ยังไม่ดีพอ ต้องต่ำกว่าสิบให้ได้ การตึงหรือหย่อนมารตการเกินไป เป็นสถานการณ์ละเอียดอ่อน”

Tags: ,