หลายคนอาจรู้จักทรัมป์ในแง่ของผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีที่ทำให้การเลือกตั้งครั้งนี้มีสีสันจัดจ้านมากยิ่งขึ้น หลายคนจดจำเขาได้จากถ้อยคำรุนแรงที่เขาใช้ระหว่างการหาเสียง ขณะที่หลายคนรู้อยู่แล้วว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีเจ้าของธุรกิจหลายพันล้าน แต่ถึงอย่างนั้น โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีคนที่ 45 ของสหรัฐอเมริกาก็ยังมีอีกหลายแง่มุมให้คุณได้ทำความรู้จัก
– โดนัลด์ จอห์น ทรัมป์ เกิดวันที่ 14 มิถุนายน 1946 ในย่านควีนส์ มหานครนิวยอร์ก เขาเป็นลูกคนที่ 4 จากพี่น้องทั้งหมด 5 คน มีชื่อเล่นว่า The Donald พ่อของเขา เฟรเดริก ทรัมป์ เป็นนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ที่เป็นเจ้าของอาคารที่พักอาศัยสำหรับชนชั้นกลางหลายแห่ง ทั้งในย่านควีนส์ เกาะสแตเทน และบรุกลิน
– ในวัย 13 ปี ทรัมป์ถูกส่งเข้าเรียนในโรงเรียนทหาร New York Military Academy เพื่อปลูกฝังระเบียบวินัย ซึ่งระหว่างเรียน เขากลายเป็นดาวเด่นด้านกีฬา ก่อนจะย้ายไปเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยฟอร์ดแฮม ในปี 1964 ตามด้วย Wharton School of Finance and Commerce ในมหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนียในอีก 2 ปีต่อมา ทรัมป์จบปริญญาตรีในสาขาเศรษฐศาสตร์ในปี 1968 และได้รับการยกเว้นการเกณฑ์ทหารในช่วงสงครามเวียดนาม ก่อนที่จะเข้าทำงานในบริษัทอสังหาริมทรัพย์ของคุณพ่อหลังเรียนจบ
– หนึ่งในผลงานการลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ครั้งแรกๆ ของทรัมป์คือ อาคารหลุดจำนองชื่อ Swifton Village ในซินซินนาติ รัฐโอไฮโอ ที่เขาใช้เงินลงทุนเพียง 500,000 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่ตัวอาคารที่พักอาศัย 1,200 ยูนิตแห่งนั้นมีมูลค่าประเมินสูงถึง 5.7 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ก่อนจะขายต่อในมูลค่า 6.75 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
– ในปี 1971 ทรัมป์เริ่มมาลงหลักปักฐานที่แมนฮัตตัน และเปลี่ยนชื่อบริษัทของคุณพ่อเป็น The Trump Organization ซึ่งเรียกความสนใจต่อสาธารณชนได้เป็นอย่างดีจากอาคารและสถาปัตยกรรมอันโดดเด่นที่เขาเป็นเจ้าของ
– ในปี 1973 ทรัมป์ประสบความสำเร็จอย่างสูงในฐานะนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่น่าจับตามองในวัยเพียง 27 ปี เขาเป็นเจ้าของอาณาจักร The Trump Organization ที่มีอาคารที่พักอาศัยในครอบครองมากกว่า 14,000 ยูนิตทั่วทั้งย่านควีนส์ เกาะสแตเทน และบรุกลิน
– ถึงจะประสบความสำเร็จอย่างสูง แต่ทรัมป์ก็ต้องเผชิญกับความท้าทายทางธุรกิจ เมื่อรัฐบาลได้ตั้งข้อกล่าวหาว่าบริษัทของทรัมป์มีการกีดกันผู้เช่าจากเชื้อชาติของพวกเขา ซึ่งเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน ขณะที่ทรัมป์ออกมาปฏิเสธต่อสื่อว่าเป็นเรื่องไร้สาระ
– หลังการต่อสู้ทางกฎหมายถึง 2 ปี ที่สุดแล้วทรัมป์พ้นข้อกล่าวหาดังกล่าว พร้อมข้อตกลงว่าบริษัทของเขาจะทำการปลูกฝังพนักงานใหม่ เพื่อขจัดการกระทำที่เหยียดเชื้อชาติ
– อาณาจักรธุรกิจของเขาเติบโตอย่างรวดเร็ว ในปี 1982 ทรัมป์เปิดตัวอาคาร Trump Tower ที่มีมูลค่าสูงกว่า 200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ประกอบไปด้วย ที่อยู่อาศัยสุดหรู ร้านค้าชื่อดัง และแหล่งรวมคนดัง ซึ่งทำให้เขากลายเป็นจุดสนใจระดับประเทศอีกครั้ง
– นอกจากนี้เขายังเริ่มขยายการลงทุนในธุรกิจรีสอร์ต สนามกอล์ฟ คาสิโน รวมถึงธุรกิจย่อยๆ อีกหลายประเภท ทั้งก่อสร้าง สุขภาพและโรงพยาบาล บันเทิง สิ่งพิมพ์ สื่อโทรทัศน์ ดูแลนางแบบ บริการสินเชื่อ อาหารและเครื่องดื่ม ธุรกิจการศึกษา การท่องเที่ยว สายการบิน และการประกวดนางงามด้วย
– ความร่ำรวย และมูลค่าทรัพย์สิน เป็นหนึ่งในหัวข้อที่มีผู้ถกเถียงกันมากที่สุดเกี่ยวกับตัวทรัมป์ ในปี 2005 เขาฟ้องร้อง Timothy O’Brien ผู้เขียนหนังสือ TrumpNation: The Art of Being the Donald ที่ระบุในหนังสือว่า เขามีมูลค่าทรัพย์สินรวม 150-250 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เจ้าตัวเปิดเผยต่อศาลขณะขึ้นให้การในปี 2007 ว่า มูลค่าทรัพย์สินรวมของเขามีความผันผวนอยู่ตลอดเวลา ขึ้นอยู่กับตลาด ทัศนคติ และความรู้สึก แม้กระทั่งความรู้สึกของเขาเอง
– ในปี 2015 ฟอร์บส์ได้ประมาณการว่ามูลค่าทรัพย์สินของทรัมป์น่าจะอยู่ที่ 4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ติดอันดับ 405 ของมหาเศรษฐีระดับโลก ขณะที่ตัวทรัมป์เองระบุว่า ถ้าจะประเมินจริงๆ ต้องรวมมูลค่าแบรนด์ตัวตนของเขาเข้าไปด้วย ซึ่งน่าจะอยู่ที่ราว 7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
– ธุรกิจบันเทิงเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ทำให้ชื่อเสียงของทรัมป์โด่งดังในระดับโลก เริ่มตั้งแต่การเป็นพิธีกรในรายการเรียลลิตี้ The Apprentice ทางช่อง NBC เปิดธุรกิจดูแลนางแบบที่ใช้ชื่อว่า Trump Model Management รวมทั้งยังเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์การประกวดนางงามหลายเวที เช่น Miss Universe, Miss USA และ Miss Teen USA: Beauty Pageant
– ด้านชีวิตสมรส ทรัมป์แต่งงานครั้งแรกในปี 1977 กับ Ivana Zelníčková นางแบบและตัวสำรองทีมชาติเช็ก ประเภทกีฬาสกี การแข่งขันโอลิมปิก ซึ่ง Ivana มีส่วนสำคัญในการบริหารธุรกิจ โดยได้รับตำแหน่งรองประธานฝ่ายการออกแบบของบริษัท ก่อนจะหย่าร้างกันในปี 1991 ทั้งคู่มีลูกด้วยกัน 3 คน คือ Donald Trump Jr., Ivanka และ Eric
– ในปี 1993 ทรัมป์แต่งงานครั้งที่ 2 กับ Marla Maples นักแสดงสาว ทั้งคู่มีลูกด้วยกัน 1 คนคือ Tiffany ก่อนจะหย่าร้างกันในปี 1999
– ล่าสุดในปี 2005 ทรัมป์แต่งงานครั้งที่ 3 กับนางแบบสัญชาติสโลวีเนีย Melania Knauss ซึ่งแขกในงานแต่งงานครั้งนั้นรวมถึง ฮิลลารี คลินตัน และอดีตประธานาธิบดี บิล คลินตัน ด้วย ทั้งคู่ให้กำเนิดลูกชาย 1 คน คือ Barron ในปี 2006
– ทางการเมือง ถึงจะเป็นตัวแทนตัวเต็งจากฝั่งพรรครีพับลิกัน และขึ้นชื่อในเรื่องหัวอนุรักษ์นิยมแบบสุดโต่ง แต่ทรัมป์เคยสังกัดอยู่พรรคเดโมแครตในช่วงปี 2001-2008 ก่อนจะย้ายมาสมัครเข้าพรรครีพับลิกันอย่างเป็นทางการในปี 2009 และผันตัวมาเป็นนักการเมืองอิสระในปี 2011 กระทั่งกลับมาสังกัดพรรคเดิมอีกครั้ง เขาเคยถูกกลุ่มนักอนุรักษ์นิยมตั้งแง่ว่าไม่ใช่ฝ่ายอนุรักษ์นิยมตัวจริง ก่อนการเริ่มต้นแคมเปญหาเสียงในปี 2016
– เขายังเป็นหนึ่งในบรรดาผู้ชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่ไม่เคยมีประสบการณ์การทำงานด้านการเมืองมาก่อน และไม่ได้รับการยอมรับจากสถาบัน Establishment (กลุ่มอำนาจทางการเมืองที่อยู่ในแวดวงมานาน) จากท่าทีและนโยบายหาเสียงเลือกตั้งของเขา
– ทรัมป์ยังประกาศลงทุนทุ่มงบประมาณหาเสียงเองประมาณ 1 หมื่นล้านเหรียญฯ แม้ว่าภายหลังจะมีสำนักข่าวหลายหัวออกมาวิพากษ์วิจารณ์ว่าข้อมูลดังกล่าวไม่เป็นจริงก็ตาม
– ทั้งนี้ ทรัมป์ต้องยกความดีความชอบส่วนหนึ่งให้กับทีมงานหาเสียงของตัวเองที่วางแผนและเดินเกมกันอย่างเข้มข้น อาทิ Steve Bannon หัวหน้าแคมเปญหาเสียงเลือกตั้ง (ที่ไม่เคยมีประสบการณ์ด้านการหาเสียงมาก่อน), Kellyanne Conway ผู้จัดการด้านการหาเสียงเลือกตั้ง (อายุประสบการณ์ทางการเมือง 21 ปี) Hope Hicks ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารสาธารณะ (อายุประสบการณ์ทางการเมือง 4 ปี) Daniel Scavino ผู้อำนวยการฝ่ายโซเชียลมีเดีย และ Roger Stone ที่ปรึกษาอาวุโส (อายุประสบการณ์ทางการเมือง 44 ปี)
– ไม่ว่าผลการเลือกตั้งที่ออกมาจะพลิกโผ หรือเป็นไปตามการคาดการณ์ของแฟนๆ รีพับลิกัน แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า โดนัลด์ ทรัมป์ คือประธานาธิบดีคนใหม่ที่อายุมากที่สุดของสหรัฐอเมริกาแล้วในเวลานี้ (69 ปี)