หลังจากที่ผู้หญิงญี่ปุ่นเพิ่งออกมาเรียกร้องให้ยกเลิกกฎที่บังคับให้ต้องใส่รองเท้าส้นสูงไปทำงาน ผ่านแคมเปญ #KuToo นายทาคุมิ เนะโมโตะ (Takumi Nemoto) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสุขภาพ แรงงาน และสวัสดิการสังคมของญี่ปุ่น ก็ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นว่าการให้ผู้หญิงใส่ส้นสูงไปทำงานเป็นเรื่อง ‘จำเป็นและเหมาะสม’
“มันเป็นสิ่งที่สังคมต่างให้การยอมรับ ภายใต้กรอบของความจำเป็นและเหมาะสมตามบริบทวิชาชีพ”
เขากล่าวเช่นนี้ในการประชุมรัฐสภาเมื่อวันพุธที่ 5 มิถุนายน โดยแคมเปญ #KuToo นี้เริ่มต้นขึ้นเมื่อวันที่ 3 มิถุนายนที่ผ่านมา ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่บัณฑิตจบใหม่กำลังเริ่มหางานในบริษัทต่างๆ พอดี ยูมิ อิชิกาวะ (Yumi Ishikawa) ผู้ริเริ่มแคมเปญ ได้ยื่นคำร้องต่อกระทรวงแรงงานฯ เรียกร้องให้มีกฎหมายห้ามไม่ให้นายจ้างบังคับให้ผู้หญิงใส่รองเท้าส้นสูง เพราะว่าเป็นการเลือกปฏิบัติทางเพศหรือละเมิดสิทธิ
ขณะที่ในการประชุมเดียวกันนั้น คานาโกะ โอตสึจิ (Kanako Otsuji) สมาชิกพรรค Constitutional Democratic กล่าวในการประชุมว่ากฎข้อนี้มันล้าหลังไปแล้ว รวมถึงเอมิโกะ ทาคากาอิ (Emiko Takagai) รองรัฐมนตรีอาวุโสของนายเนโมโตะเอง ก็กล่าวว่า ไม่ควรจะมีการบังคับให้ผู้หญิงใส่ส้นสูงอีกต่อไป
การเรียกร้องเดียวกันนี้เคยเกิดขึ้นในอีกหลายประเทศ โดยสำนักข่าว The Guardian ได้รวบรวมไว้อย่างคร่าวๆ เช่นเมื่อปี 2016 ในสหราชอาณาจักร หลังจากที่พนักงานต้อนรับคนหนึ่งถูกไล่กลับบ้านเนื่องจากใส่รองเท้าไม่มีส้นมาทำงาน นำมาซึ่งการเรียกร้องให้ยกเลิกการบังคับใส่ส้นสูง โดยเฉพาะในกลุ่มผู้หญิงที่ต้องทำงานบริการ เช่น ยกของ เดินระยะไกล หรือขึ้นลงบันได ฯลฯ แต่รัฐบาลปฏิเสธที่จะแก้ข้อกฎหมายนี้
เช่นเดียวกับเมื่อต้นปีที่ผ่านมาสายการบิน นอร์วีเจียน แอร์ ก็เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์เมื่อทางสายการบินเรียกร้องให้พนักงานต้อนรับหญิงต้องแสดงใบรับรองแพทย์ ว่ามีปัญหาสุขภาพจริงเท่านั้น หากต้องการจะใส่รองเท้าส้นเตี้ยในการทำงาน
แต่สำหรับข่าวดีก็มีเช่นกัน เมื่อปี 2017 ที่บริติชโคลัมเบีย ประเทศแคนาดาได้ประกาศให้บริษัททั้งหลายเลิกบังคับพนักงานหญิงให้ใส่ส้นสูงไปทำงาน เนื่องจากเป็นอันตรายต่อสุขภาพและเป็นการเลือกปฏิบัติ ส่วนการเปลี่ยนแปลงในประเทศญี่ปุ่น เป็นเรื่องที่ต้องติดตามกันต่อไป
อ้างอิง:
https://www.bbc.com/news/world-asia-48534453
Tags: Japan, #KuToo