สัปดาห์ที่แล้ว เมื่อวันที่ 15 พ.ค. 2019 ทรัมป์ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน สั่งให้รัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์ปิดกั้นการทำธุรกรรมทางเทคโนโลยีที่อาจเสี่ยงต่อความมั่นคงของชาติได้ หัวเว่ยถูกขึ้นบัญชีดำ จากนั้นรัฐบาลก็แบนหัวเว่ยทันที โดยห้ามบริษัทอเมริกันทำธุรกิจกับยักษ์ใหญ่ด้านโทรคมนาคมของจีน โดยไม่ได้รับอนุญาตจากรัฐบาลสหรัฐฯ

ความเคลื่อนไหวที่ทำให้สั่นสะเทือนไปทั่วโลกมาจากคำประกาศของกูเกิลเมื่อวันที่ 20 พ.ค. ว่า จะไม่ให้หัวเว่ยใช้ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ของกูเกิลอีก ผลก็คือทำให้สมาร์ตโฟนรุ่นใหม่ ๆ ของหัวเว่ยจะไม่สามารถใช้แอปพลิเคชันบางตัวของกูเกิลได้อีกต่อไป แต่หัวเว่ยยังใช้เวอร์ชั่นที่เป็นโอเพ่นซอร์สได้

หัวเว่ยออกแถลงการณ์ตอบโต้ทันทีว่า จะสร้างระบบปฏิบัติการซอฟต์แวร์ที่ปลอดภัยและยั่งยืนอีกต่อไป เพื่อให้ผู้ใช้ทั่วโลกได้รับประสบการณ์ที่ดีที่สุด” โดยหัวเว่ยได้พัฒนาระบบปฏิบัติการนี้มาอย่างน้อย 3 ปีแล้ว

ช่วงเย็นของวันที่ 20 พ.ค. ตามเวลาท้องถิ่น โฆษกกระทรวงพาณิชย์ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า อาจจะให้ใบอนุญาตชั่วคราวแก่หัวเว่ยสำหรับการให้บริการเครือข่ายที่มีอยู่ หัวเว่ยมีเวลา 3 เดือนจนถึงวันที่ 19 สิงหาคม ในการอัปเดตซอฟต์แวร์

ระยะเวลา 3 เดือนนี้ให้หัวเว่ยดำเนินการตามความจำเป็นสำหรับอุปกรณ์ของหัวเว่ย ที่มีการซื้อขายหรือติดตั้งก่อนวันที่ 16 พฤษภาคม เช่น อัปเดตแพตช์หรือซอฟต์แวร์ต่างๆ นอกจากนี้เป็นช่วงเวลาที่ให้หัวเว่ยบำรุงรักษาอุปกรณ์เครือข่ายที่มีอยู่ สาเหตุส่วนหนึ่งมาจาก การที่ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตและไวไฟมากมายในพื้นที่ชนบทและพื้นที่ที่มีประชากรต่ำยังคงใช้อุปกรณ์ของหัวเว่ย หากห้ามใช้จะกระทบต่อระบบ

กระทรวงพาณิชย์ระบุว่า “ใบอนุญาตชั่วคราวทำให้ผู้ให้บริการมีเวลาจัดการ และกระทรวงยังสามารถหามาตรการระยะยาวที่เหมาะสมสำหรับชาวอเมริกันและบริษัทโทรคมนาคมต่างชาติที่ตอนนี้ใช้อุปกรณ์ของหัวเว่ยในบริการที่สำคัญได้” แต่หัวเว่ยยังคงไม่สามารถซื้อผลิตภัณฑ์ของสหรัฐอเมริกาเพื่อสร้างสินค้าใหม่ของตัวเองได้

ขณะที่หัวเว่ยยังไม่ได้แสดงความเห็นใดกับการประกาศล่าสุดของกระทรวงพาณิชย์สหรัฐ ด้านกูเกิลบอกว่าจะทำงานร่วมกับหัวเว่ยในช่วง 90 วันนี้เพื่ออัปเดตซอฟต์แวร์ความปลอดภัยสำหรับอุปกรณ์ที่ใช้ระบบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ แต่ก็มีแผนที่จะยอมปฏิบัติตามคำสั่งของกระทรวงพาณิชย์เมื่อสิ้นสุดเวลา 90 วัน

อย่างไรก็ตามการผ่อนปรนเล็กน้อยนี้ไม่ได้ลดความตึงเครียดระหว่างจีนและสหรัฐอเมริกา หัวเว่ยยืนยันว่าการแบนหัวเว่ยจะสร้าง “อันตรายต่อเศรษฐกิจอย่างสำคัญ” สำหรับชาวอเมริกัน จีนได้ตีความว่าเป็นการยกระดับสงครามการค้า

นอกจากกูเกิลแล้ว อินเทลและควอลคอมม์ก็ได้ประกาศว่าจะปฏิบัติตามคำสั่งนี้เช่นกัน ยุติการให้บริการและให้การสนับสนุนบริษัทโทรคมนาคมยักษ์ใหญ่ของจีน

คำสั่งห้ามนี้มาจากประเด็นด้านความมั่นคงต่อหัวเว่ย เนื่องจากหัวเว่ยมีความใกล้ชิดกับพรรคคอมมิวนิสต์จีน ผู้เชี่ยวชาญกังวลว่ามีความเป็นไปได้ที่รัฐบาลจีนจะสอดแนมสหรัฐอเมริกาด้วยอุปกรณ์ของหัวเว่ย แม้ว่าหัวเว่ยจะปฏิเสธมาโดยตลอด ประเทศอื่นๆ ก็มีความกังวลแบบเดียวกัน เช่น รัฐบาลญี่ปุ่นห้ามรัฐทำสัญญากับหัวเว่ย

ที่มา:

https://www.theverge.com/2019/5/20/18633171/huawei-software-updates-phones-google-android-commerce-department

https://www.engadget.com/2019/05/18/us-may-soften-ban-on-huawei

https://www.nytimes.com/2019/05/20/technology/google-android-huawei.html

https://www.reuters.com/article/us-huawei-tech-usa-license/u-s-commerce-department-scales-back-restrictions-on-huawei-idUSKCN1SQ27T

https://edition.cnn.com/2019/05/20/tech/huawei-google-android/index.html

https://www.engadget.com/2019/05/20/is-huawei-really-screwed-without-android/

Tags: , , ,