การค้าโลกได้โอกาสทอดเวลาพักเหนื่อย เพราะสองผู้นำยักษ์เศรษฐกิจ สหรัฐฯ-จีน ยอมระงับแผนขึ้นภาษีสินค้านำเข้าตอบโต้ซึ่งกันและกัน สร้างบรรยากาศเจรจาผลประโยชน์ต่างตอบแทน ตั้งเป้าบรรลุข้อยุติภายใน 3 เดือน

นัดหมายดินเนอร์ระหว่างโดนัลด์ ทรัมป์ กับสีจิ้นผิง ที่กรุงบัวเนสไอเรสเมื่อวันเสาร์ที่ 1 ธันวาคม เป็นการพบปะครั้งสำคัญที่สุดในรอบหลายปีระหว่างประธานาธิบดีสหรัฐฯ กับประธานาธิบดีจีน โลกเฝ้าดูด้วยใจจดจ่อว่า มื้อเย็นของผู้นำชาติมหาอำนาจทั้งสอง ภายหลังการประชุมกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมของโลก จะจบลงแบบการประชุมเอเปคซึ่งปิดประชุมแบบไร้ข้อสรุปเมื่อสองสัปดาห์ก่อนหน้าหรือเปล่า

นับเป็นข่าวดีที่วงประชุม จี 20 ที่อาร์เจนตินาสามารถออกแถลงการณ์สรุปผลการประชุมได้ ข่าวดียิ่งกว่านั้นก็คือ สหรัฐฯ กับจีนเห็นพ้องกันหยุดยั้งสงครามการค้าเป็นการชั่วคราว

บนโต๊ะกินข้าวเคล้าเจรจาความเมืองมื้อนี้ ดูเหมือนประธานาธิบดีสีจะผ่อนปรนท่าที เหตุผลส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะประธานาธิบดีทรัมป์ยังเหลือไพ่ในมือมากกว่า

ผู้นำจากหลากหลายประเทศเข้าร่วมประชุม G20 (ภาพโดย Juan Mabromata / AFP)

แตะเบรกก่อนตกเหว

ทั้งทรัมป์และสีต่างรู้ดีว่า ถ้าประดาบกันด้วยมาตรการขึ้นภาษีสินค้านำเข้า นอกจากการค้าของทั้งสองฝ่ายจะพังทั้งคู่แล้ว ยังฉุดเศรษฐกิจโลกให้สะเทือนทั้งระบบด้วย ท้ายที่สุด ต่างฝ่ายจะต่างเสียประโยชน์

การหยุดตอบโต้กันไปมาและหาทางรอมชอม จึงเป็นทางเลือกที่ดีแก่ทุกฝ่าย ดังนั้น สหรัฐฯ กับจีนจึงตกลงกันที่จะพับแผนขึ้นภาษีเก็บเข้าลิ้นชักไว้ 90 วัน แล้วเปิดการเจรจา

สงครามการค้าเปิดฉากเมื่อเดือนกรกฎาคมและสิงหาคม ฝ่ายสหรัฐเริ่มเก็บภาษีสินค้าจีนมูลค่า 50,000 ล้านดอลลาร์ฯในอัตรา 25 เปอร์เซนต์สำหรับกลุ่มเครื่องจักร เซมิคอนดักเตอร์ ยานยนต์ อะไหล่อากาศยาน และชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ด้วยข้ออ้างว่าจีนขโมยทรัพย์สินทางปัญญา

จีนแก้ลำในทันทีด้วยการเก็บภาษีสินค้าอเมริกันมูลค่า 50,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในอัตรา 25 เปอร์เซนต์ สำหรับถั่วเหลือง เนื้อวัว เนื้อหมู อาหารทะเล ผัก สุรา เอทานอล และรถยนต์

ต่อมาในเดือนกันยายน สหรัฐฯ เก็บภาษีสินค้าจีนมูลค่า 200,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐในอัตรา 10 เปอร์เซนต์ สำหรับเคมีภัณฑ์ วัสดุก่อสร้าง เฟอร์นิเจอร์ และเครื่องใช้อิเล็กทรอนิกส์บางรายการ พร้อมประกาศว่า อัตราภาษีจะเพิ่มเป็น 25 เปอร์เซนต์ในวันที่ 1 มกราคม 2019

จีนแก้เผ็ดในทันใดด้วยการเก็บภาษีสินค้าอเมริกันมูลค่า 60,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในอัตรา 5-10 เปอร์เซนต์ สำหรับก๊าซธรรมชาติเหลว เคมีภัณฑ์ ผักแช่แข็ง เครื่องปรุงอาหาร

ก่อนหน้านี้ ทรัมป์ขู่ไว้ว่า ถ้ายังตกลงกับจีนไม่ได้ สหรัฐฯ จะเก็บภาษีสินค้าจีนอีกหลายรายการ รวมมูลค่า 267,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สำหรับสินค้ารายการที่เหลือ เช่น โทรศัพท์มือถือ คอมพิวเตอร์ เสื้อผ้า รองเท้า และข้าวของเครื่องใช้

ด้วยความที่จีนนำเข้าสินค้าอเมริกันน้อยกว่าที่สหรัฐฯ นำเข้าสินค้าจีน ถ้าทรัมป์เอาจริงตามคำขู่ จีนจะยังเหลือมูลค่านำเข้าที่จะตอบโต้ได้อีกแค่ประมาณ 200,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เช่น เครื่องบินพาณิชย์จากโบอิ้ง

อย่างไรก็ดี หากทรัมป์เดินหน้าแผนขึ้นภาษีสินค้าจีน ฝ่ายสหรัฐฯ ย่อมเจ็บตัวเช่นกัน เวลานี้ บรรดาบริษัทและผู้บริโภคชาวอเมริกันต่างเดือดร้อนกันถ้วนหน้า เพราะต้องซื้อสินค้าจีนในราคาที่สูงขึ้นหลังจากหลายบริษัทพากันปรับราคาสินค้านำเข้า และจีนนำเข้าสินค้าอเมริกันน้อยลง เช่น ถั่วเหลือง เป็นต้น

 

จีนผ่อนคลายท่าที

โชคยังดีสำหรับทุกฝ่าย หลังมื้อเย็นเมื่อวันเสาร์ที่ 1 ธันวาคม ทำเนียบขาวประกาศว่า ทรัมป์จะยังไม่เดินหน้าขึ้นภาษีเป็น 25 เปอร์เซนต์ในวันปีใหม่ที่จะถึงนี้ ขณะที่จีนรับปากว่าจะสั่งซื้อสินค้าจากสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นเป็น “จำนวนมาก” ครอบคลุมกลุ่มเกษตร พลังงาน อุตสาหกรรม และผลิตภัณฑ์อื่นๆ

พร้อมกันนั้น จีนให้คำมั่นว่ายินดีพิจารณาอนุมัติให้ผู้ผลิตชิปสมาร์ตโฟนรายใหญ่ที่สุดของโลก Qualcomn เข้าซื้อกิจการของบริษัท NXP Semiconductors ซึ่งบริษัทอเมริกันเจ้านี้เคยพยายามจะซื้อกิจการของจีนในเนเธอร์แลนด์เมื่อเดือนกรกฎาคม แต่หน่วยงานกำกับดูแลของจีนไม่อนุมัติ

นับจากนี้ไป โลกคงได้แต่ภาวนาว่า ขอให้สหรัฐฯ กับจีนตกลงกันได้เถิด เพราะทั้งสองฝ่ายคุยกันบนโต๊ะดินเนอร์ว่า ถ้าประเด็นคับข้องใจของวอชิงตันในเรื่องที่ปักกิ่งบังคับบริษัทอเมริกันถ่ายโอนเทคโนโลยี ฉกฉวยทรัพย์สินทางปัญญา ตั้งกำแพงการค้าที่ไม่ใช่ภาษี โจรกรรมทางไซเบอร์ และไม่ยอมซื้อสินค้าเกษตรให้มากขึ้น ไม่สามารถคุยกันจบภายใน 3 เดือน ทั้งสองฝ่ายจะขึ้นภาษีจาก 10 เปอร์เซนต์ เป็น เปอร์เซนต์ ตามแผนที่ประกาศไว้

ในการเจรจาที่เมืองหลวงของอาร์เจนตินา สีจิ้นผิงยอมประกาศให้ยาเฟนทานิลเป็นสารควบคุม หลังจากสหรัฐฯ โวยมาตลอดว่า สารสังเคราะห์โอปิออยด์ในยาจากจีนตัวนี้มีพิษภัยถึงแก่ชีวิต และยังยอมตกลงที่จะซื้อผลิตผลทางการเกษตรจากเกษตรกรชาวอเมริกันในเร็ววันนี้ด้วย

ทรัมป์ดูจะพอใจกับท่าทีผ่อนปรนของสี ระหว่างอยู่บนเครื่องบินแอร์ฟอร์ซวัน เขาโอ่กับนักข่าวว่า ข้อตกลงกับผู้นำจีนนับว่าวิเศษมาก จีนจะเปิดตลาด จีนจะเลิกเก็บภาษีนำเข้า จีนจะซื้อสินค้าเกษตรในปริมาณมหาศาลจากสหรัฐฯ ภาคเกษตรของอเมริกาจะได้ประโยชน์อย่างมากมาย

นานาชาติมองพัฒนาการล่าสุดอย่างไร ตลอดสัปดาห์นี้ ต้องคอยฟังปฏิกิริยาจากฝ่ายต่างๆ

 

อ้างอิง:

 

ภาพ Cover โดย SAUL LOEB / AFP

ภาพถ่ายโดย Juan Mabromata / AFP

Tags: , , ,