9.00 น. ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) พร้อมทนายความ เดินทางมาตามนัดสืบพยานจำเลย นัดสุดท้าย ในคดีที่อัยการฝ่ายคดีพิเศษ 1 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง วีระกานต์ มุสิกพงศ์, จตุพร พรหมพันธุ์, ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ, นพ.เหวง โตจิราการ, ยศวริศ ชูกล่อม หรือ เจ๋ง ดอกจิก แกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) กับพวกรวม 24 คน เป็นจำเลยในความผิดฐานร่วมกันก่อการร้าย กรณีกลุ่มนปช.ชุมนุมขับไล่รัฐบาลอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เมื่อปี 2553 โดยจำเลยทั้งหมดให้การปฎิเสธ
วิญญัติ ชาติมนตรี หนึ่งในทีมทนายความกล่าวว่า การสืบพยานจำเลยครั้งนี้เป็นนัดสุดท้าย ซึ่งจำเลยทั้งหมด 24 คนเดินทางมาศาลครบทุกคน โดยวันนี้จตุพร พรหมพันธุ์ และ ณัฐวุฒิ ใสเกื้อ เป็นผู้ขึ้นให้การต่อศาล
วิญญัติระบุต่อว่า การสืบพยานจำเลยจากเดิมที่ทนายจำเลยยื่นไว้จำนวนสิบปาก แต่ศาลเห็นว่าข้อเท็จจริงที่ได้จากการพิจารณานั้นเพียงพอต่อการวินิจฉัยแล้ว หากให้ฝ่ายจำเลยนำพยานเข้าสืบอีก ก็ไม่ได้ทำให้ข้อเท็จจริงเปลี่ยนแปลงไป ศาลจึงให้งดสืบพยานจำเลยและศาลได้นัดทั้งโจทก์และจำเลยให้มาฟังคำพิพากษาในวันที่ 14 สิงหาคม 2562
คดีนี้เกิดขึ้นระหว่างเดือนมีนาคม-พฤษภาคมปี 2553 แนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ชุมนุมเรียกร้องให้ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีในขณะนั้นลาออกจากตำแหน่ง โดยการชุมนุมในช่วงแรกระหว่างเดือนมีนาคมถึงเดือนเมษายน กลุ่มนปช.ได้ตั้งเวทีปราศัยขึ้นที่สะพานผ่านฟ้า ถนนราชดำเนิน จนถึงวันที่ 10 เมษายน รัฐบาลอภิสิทธิ์โดย ศอฉ.เข้าสลายการชุมนุมภายใต้ชื่อปฎิบัติการ ”การขอคืนพื้นที่” ตั้งแต่ช่วงบ่ายถึงค่ำ จนทำให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 20 คน และบาดเจ็บกว่า 800 ราย ทางแกนนำ นปช. จึงย้ายการชุมนุมมาตั้งเวทีปราศรัยที่สี่แยกราชประสงค์ และชุมนุมต่อเนื่องมาจนถึงวันที่ 13-19 พฤษภาคม ซึ่งรัฐบาลอภิสิทธิ์ได้เริ่มปฎิบัติการสลายการชุมนุมอีกครั้งในชื่อว่า ”การกระชับพื้นที่” โดยมีผู้เสียกว่า 60 คน และบาดเจ็บนับพันราย
กระบวนการต่อสู้คดีนี้ มีการสืบพยานโจทก์กว่าร้อยปาก พยานจำเลยอีกนับสิบปาก โดยใช้ระยะเวลารวม 9 ปี นับเป็นคดีประวัติศาสตร์ของการเมืองไทย และในวันที่ 14 สิงหาคม จะเป็นวันตัดสินคดีนี้
Tags: การกระชับพื้นที่, การขอคืนพื้นที่, จตุพร พรหมพันธุ์, ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ, อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ, นปช. เสื้อแดง