เมื่อเอ่ยถึงวงการภาพยนตร์สมัย 20-30 ปีที่แล้ว ต้องยอมรับว่าถือเป็นยุคทองของภาพยนตร์ฮ่องกง ดาราและผู้กำกับหลายคนมีชื่อเสียงขึ้นมามากมาย ไม่ว่าจะในแถบเอเชียด้วยกันเองหรือกว้างไกลไปในระดับโลก และขณะเดียวกันวงการภาพยนตร์ทางฝั่งไต้หวันก็ปรากฏผู้กำกับคลื่นลูกใหม่ขึ้นมา อาทิ หัวเสี่ยวเชี่ยน และ เอ็ดเวิร์ด หยาง ผู้พลิกโฉมให้ภาพยนตร์ไต้หวันเป็นที่จดจำไปทั่วโลกเช่นกัน

อาจเป็นเพราะวงการภาพยนตร์ฮ่องกงและไต้หวันซบเซาลงไปบ้างในช่วงหลายปีที่ผ่านมา จึงทำให้เราคิดถึงความทรงจำในวันวานอยู่เสมอ ดังนั้น เราอยากชวนทุกคนมารำลึกความหลังกันสักหน่อยว่า ในช่วงเวลารุ่งโรจน์เหล่านั้น ในบรรดา 5 นักแสดงนำชายเหล่านี้ คุณเคยตกหลุมรักใครด้วยบทบาทใด และเขาเคยไปปรากฏตัวบนแผ่นฟิล์มของผู้กำกับที่คุณรักหรือเปล่า

A Brighter Summer Day (1991)

จาง เจิ้น รับบท เสี่ยวซื่อ

จาง เจิ้น เริ่มต้นอาชีพนักแสดงตั้งแต่อายุยังน้อย ในปี 1991 เขาได้โลดแล่นอยู่ในผลงานของเอ็ดเวิร์ด หยาง ผู้กำกับภาพยนตร์แถวหน้า หนึ่งในหัวหอกคลื่นลูกใหม่ในวงการภาพยนตร์ไต้หวัน ตอนนั้น จาง เจิ้น ที่ยังไม่หลุดจากเค้าของความเป็นเด็กได้แสดงให้เราเห็นพรสวรรค์และความน่ารักที่มีนับแต่นั้นมา

อีกหนึ่งบทบาทที่ผู้คนน่าจะคุ้นตาก็คือ อาเฉิน เด็กหนุ่มผู้ทิ้งบ้านออกมาตามความฝัน จาก Happy Together (1997) และเริ่มมีชื่อเสียงในวงกว้างจากการแสดงในเรื่อง Crouching Tiger, Hidden Dragon (2000) ผลงานการกำกับของอั้งลี่

ส่วนเรื่อง A Brighter Summer Day เป็นภาพยนตร์ความยาวราวสี่ชั่วโมง ผลงานลำดับที่ 5 จากทั้งหมด 9 เรื่องของเอ็ดเวิร์ด หยาง ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้รับการยกย่องว่าเป็นผลงานชิ้นเอกของภาพยนตร์ร่วมสมัย และได้รับรางวัล Special Jury Prize จากเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติโตเกียว

ฉากหลังของภาพยนตร์อยู่ในไทเปช่วงต้นยุค ’60s ช่วงเวลาเดียวกันกับที่พรรคก๊กมินตั๋งแพ้สงครามกลางเมืองให้กับพรรคคอมมิวนิสต์ ทำให้ชาวจีนแผ่นดินใหม่จำนวนมากอพยพมาตั้งรกรากที่นี่ และจุดศูนย์กลางของเรื่อง อยู่ที่ ‘เสี่ยวซื่อ’ หรือเรียกสั้นๆ ว่า เซ่อร์ เด็กหนุ่มที่ครอบครัวอพยพมาจากเซี่ยงไฮ้

เซ่อร์ถูกส่งตัวไปเรียนในโรงเรียนภาคค่ำ สถานที่ซึ่งเต็มไปด้วยนักเลงหัวไม้ แต่ก็ใช่ว่าจะมีแต่นักเรียนชาย เพราะที่นี่ทำให้เขาได้พบกับ หมิง เด็กสาวที่เป็นรักครั้งแรก และมันก็นำพาเขาไปสู่การพัวพันกับแก๊งคู่อริสองกลุ่ม ซึ่งส่งผลกระทบต่อชีวิตเขาอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยง

เซ่อร์และครอบครัวอยู่ในสถานะคนพลัดถิ่น พวกเขาต้องเผชิญหน้ากับการปรับตัวให้เข้ากับสังคมใหม่ ขณะเดียวกันก็ดิ้นรนหาที่ทางของตัวเองไปด้วย มันจึงเต็มไปด้วยความสับสน เปราะบาง และคลุมเครือ โลกยังคงผันผวนไปตามแรงลม ความอัดอั้นและขมขื่มจึงนำไปสู่โศกนาฏกรรมที่ถูกกระทำโดยยุคสมัย… สี่ชั่วโมงแห่งความเรียบง่ายนี้จะจบลงด้วยความสั่นสะเทือนอย่างที่เราไม่มีวันลืม

A Moment of Romance (1990)

หลิว เต๋อหัว รับบท อาหัว

หลิว เต๋อหัว ผู้โลดแล่นอยู่ในวงการบันเทิงในหลายบทบาท ทั้งนักแสดง นักร้อง นักแต่งเพลง และโปรดิวเซอร์ภาพยนตร์ เขาคือบุคคลที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดของฮ่องกงตั้งแต่กลางทศวรรษ 1980 และแสดงภาพยนตร์มากกว่า 160 เรื่อง

จุดเริ่มต้นอาชีพนักแสดงของหลิว เต๋อหัว เกิดขึ้นในปี 1981 เขาได้เข้าร่วมโครงการฝึกอบรมศิลปินของค่ายสถานีโทรทัศน์ทีวีบี ฮ่องกง ทำให้เขามีโอกาสได้ร่วมแสดงละครโทรทัศน์ ซึ่งส่งผลให้เป็นที่รู้จักภายในเวลาอันรวดเร็ว พอมาถึงช่วงปี 1988 หลิว เต๋อหัว ก็ได้ลาออกจากสังกัดค่ายสถานีโทรทัศน์ทีวีบี เนื่องจากปัญหาเรื่องสัญญา หลังจากนั้นจึงมุ่งมั่นไปที่การแสดงภาพยนตร์เพียงอย่างเดียว

A Moment Of Romance หรือ ผู้หญิงข้าใครอย่าแตะ เป็นภาพยนตร์โรแมนติกแอ็กชั่นระดับตำนาน ที่ถึงแม้คนไม่เคยดูก็ยังต้องเคยได้ยินชื่อภาพยนตร์ในภาษาไทยกันจนคุ้นหู ผลงานการกำกับของเบนนี่ ชาน นำแสดงโดยหลิว เต๋อหัว และอู๋ เชี่ยนเหลียน ภาพยนตร์ได้รับการตอบรับที่ดีอย่างถล่มทลาย จนชื่อ “อาหัว” และ “โจโจ” กลายเป็นตัวแทนความรักสุดรันทดในยุคหนึ่ง

เมื่อแก๊งนักเลงหาความสำราญใส่ตัวด้วยการปล้น ความแน่นอนก็กลายเป็นความผิดพลาดขึ้นมาได้ แผนการควรจะเป็นไปด้วยดี แต่เมื่ออาหัว หนึ่งในผู้สมรู้ร่วมคิดเห็นตำรวจ เขาจึงเบี่ยงเบนความสนใจทั้งหมดมาที่ตัวเอง และนั่นทำให้เขาพบกับโจโจ หญิงสาวเคราะห์ร้ายที่กลายเป็นตัวประกัน

พวกพ้องคนอื่นๆ เห็นว่าควรจะกำจัดเธอทิ้งไปซะ แต่อาหัวห้ามไว้ และเชื่อว่าเธอจะไม่นำอันตรายมาสู่พวกเขาอย่างแน่นอน ซึ่งคนอื่นๆ ยังคงไม่เห็นด้วย พวกเขาจึงตามไปกำจัดเธอเงียบๆ และก็เป็นอาหัวนั่นแหละที่เข้ามาขัดขวางและช่วยเธอ

แม้ว่าคุณหนูผู้ร่ำรวยจะชิงชังเขาในทีแรก แต่ต่อมาทั้งสองกลับตกหลุมรักกันอย่างง่ายดายและโดยไม่ทันรู้ตัว อาหัวพยายามปกป้องเธอไม่ว่าจะจากอะไรก็ตาม ความรักอันใสซื่อได้เชื่อมคนทั้งสองเข้าด้วยกัน แต่มันก็ไม่ต่างอะไรจากดอกฟ้ากับหมาวัด มองอย่างไรทั้งหมดก็มุ่งสู่โศกนาฏกรรมของความรัก

Comrades: Almost a Love Story (1996)

หลี่ หมิง รับบท หลี่เสี่ยวจิน

หลี่ หมิง ชายผู้เข้าวงการบันเทิงด้วยการประกวดร้องเพลง และกลายเป็น 1 ใน 4 นักร้องชายที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในช่วงปี 1990 หรือที่คนทั่วไปรู้จักในนาม สี่ราชาแห่งวงการเพลงป็อปฮ่องกง  ซึ่งประกอบไปด้วยจาง เซียะโหย่ว, หลิว เต๋อหัว และกัว ฟู่เฉิง

หลังประกวดการร้องเพลง หลี่ หมิงได้มีโอกาสแสดงซีรีส์เพียงไม่กี่เรื่อง และผลตอบรับก็ยังไม่ได้ดีเท่าที่ควร จนกระทั่งเรื่อง The Breaking Point ออกอากาศ เขาก็โด่งดังไปทั่วฮ่องกงและไต้หวัน

ภาพยนตร์ที่ทำให้คนไทยหลงรักหลี่ หมิง ก็คงจะหนีไม่พ้น Comrades: Almost a Love Story หรือ เถียน มี มี่ 3650 วันรักเธอคนเดียว ผลงานของผู้กำกับ ปีเตอร์ ชาน แสดงนำโดยหลี่หมิง และจางม่านอวี้

ภาพยนตร์เปิดมาด้วยขบวนรถไฟที่มีชาวจีนแผ่นดินใหญ่อย่างหลีเสี่ยวจินกับหลี่เฉียว โดยสารมาด้วย พวกเขาอพยพมาอยู่ฮ่องกงเพื่อทำมาหากิน ฝ่ายหลีเสี่ยวจินนั้นมีคนรักอยู่แล้วและตั้งใจมาสร้างเนื้อสร้างตัวเพื่อกลับไปขอหญิงสาวที่รออยู่อีกแผ่นดินแต่งงาน ส่วนหลี่เฉียวนั้นก็ตั้งหน้าตั้งตาทำงาน เก็บหอมรอมริบ และหวังว่าจะมีคู่ครองในสักวัน

ความเหงาของการใช้ชีวิตอย่างโดดเดี่ยวในเมืองใหญ่ ย่อมนำมาซึ่งเรื่องรักๆ ใคร่ๆ ความบังเอิญทำให้ทั้งคู่เวียนมาพบกัน หลายๆ เหตุการณ์ของพวกเขาเกาะเกี่ยวและทาบทับกันไปมา จึงเป็นการสานความสัมพันธ์และใกล้ชิดกันไปทั้งอย่างนั้น ทั้งที่ต่างก็มีคนรักอยู่แล้ว

    แต่แม้ว่าหัวใจพวกเขาจะแนบแน่นต่อกันเพียงใด มันก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงความจริงที่ว่าสุดท้ายแล้วก็ต้องพรากกันไป มันจะหลงเหลือไว้เพียงร่องรอยของความรัก และปล่อยให้เวลาและพรหมลิขิตทำงานต่อไป

Happy Together (1997)

เลสลี จาง รับบท โหวเป่าหวัง

เลสลี จาง หนุ่มนัยน์ตาโศก อดีตนักแสดงและนักร้องชาวฮ่องกง เลสลี จาง เริ่มเข้าสู่วงการบันเทิงโดยออกอัลบั้มแรกในปี 1977 แต่มันก็ไม่ประสบความสำเร็จเท่าไรนัก จนในปี 1982 ผลงานเพลงของเขากลายเป็นอัลบั้มยอดเยี่ยม และตามมาด้วยเสียงตอบรับที่ดีมากมาย

ส่วนจุดเปลี่ยนในอาชีพการแสดงของจางเกิดขึ้นในปี 1986 ซึ่งเป็นการร่วมงานกับผู้กำกับจอห์น วู จากนั้นจึงตามมาด้วยผลงานการแสดงต่างๆ แต่บทบาทที่ได้รับการกล่าวขวัญเป็นอย่างมากคือ เตี่ยอี๋ นักแสดงอุปรากรจีนที่เป็นรักร่วมเพศ จากภาพยนตร์ในการกำกับของ เฉิน ข่ายเกอ

Happy Together ผลงานของผู้กำกับหว่อง กาไว คว้ารางวัลผู้กำกับยอดเยี่ยมจากเทศกาลหนังเมืองคานส์ปี 1997 มาได้ นำแสดงโดยเลสลี จาง และเหลียง เฉาเหว่ย

ภาพยนตร์เล่าผ่านสายตาของไหล่เยี่ยฟาเป็นหลัก เขาเดินทางจากฮ่องกงมายังประเทศอาร์เจนตินากับโหวเป่าหวัง คู่รักของเขา วางแผนจะใช้เวลาร่วมกันเพื่อสานความสัมพันธ์ให้แน่นแฟ้นกว่าเดิม และตกลงกันไว้ว่าจะพากันไปยังน้ำตกอีกัวซู แต่ปรากฏว่าเรื่องราวระหว่างพวกเขากลับยิ่งร้าวฉานกว่าเดิม ทั้งคู่เลิกกันบ่อยครั้ง และลงเอยด้วยการเริ่มต้นกันใหม่เท่าๆ กับครั้งที่เลิกกัน

แต่การวนเวียนของความสัมพันธ์ที่ช้ำแล้วช้ำอีกก็ทำให้ไหล่เยี่ยฟาเอือมระอาในที่สุด โหวเป่าหวังยังคงทำตัวแบบเดิมๆ และทำร้ายจิตใจเขาอยู่ร่ำไป ดังนั้น ไหล่เยี่ยฟาจึงออกห่างจากเขา และทำตามความตั้งใจเดิมด้วยการเดินทางไปยังน้ำตกอีกัวซูแบบตัวคนเดียว และเดินทางกลับฮ่องกงเพียงลำพัง เขาทิ้งความรักและความเศร้าโศกไว้ที่อาร์เจนตินาไปหมดแล้ว

ชีวิตอันรุ่งโรจน์ของเลสลี จาง ในฐานะนักแสดงต้องดับลงจากความแตกร้าวภายในวันเอพริล ฟูลส์ เดย์ ปี 2003 จางตัดสินใจปลิดชีวิตตัวเองดั่งความตายของนกไร้ขา* (Days of Being Wild (1990)) ทิ้งไว้เพียงบทบาทบนแผ่นฟิล์ม และบทเพลงที่เคยได้ขับขาน

2046 (2004)

เหลียง เฉาเหว่ย รับบท โจวมู่หวัน

เหลียง เฉาเหว่ย ผู้ได้รับการยอมรับว่าเป็นนักแสดงที่ดีที่สุดอีกคนหนึ่งของวงการภาพยนตร์ฮ่องกง เข้าสู่วงการบันเทิงด้วยการชักชวนของโจว ซิงฉือ มีผลงานทางโทรทัศน์ครั้งแรกในบทบาทพิธีกร ก่อนจะแจ้งเกิดเต็มตัวในฐานะนักแสดงจากซีรีส์เรื่อง Police Cadet (1984)

เหลียง เฉาเหว่ย มักได้ร่วมงานกับผู้กำกับหว่อง กาไว หากกล่าวว่าเป็นนักแสดงคู่บุญกันก็คงจะไม่เกินเลยสักเท่าไร เขาร่วมงานกับหว่องตั้งแต่ Days of Being Wild (1990) ไปจนถึง The Grandmaster (2013) นอกจากนี้ยังมีผลงานเพลงบ้างประปราย ซึ่งส่วนมากจะเป็นเพลงประกอบซีรีส์ที่เขาร่วมแสดง

2046 เป็นเสมือนภาคต่อของ Days of Being Wild และ In the Mood for Love อย่างหลวมๆ มันสืบเนื่องมาจากความสัมพันธ์อันไร้เหตุผลเหล่านั้น จนเดินทางมาสู่ห้องแห่งความลับในนิยายที่ตัวเอกเป็นคนเขียน เขาคือโจวมู่หวัน นักหนังสือพิมพ์ผู้ผิดหวังในความรัก และเดินทางระหกระเหินจากฮ่องกงมาสู่สิงคโปร์ ใช้ชีวิตเยี่ยงนักพนันและเพลย์บอย จากนั้นในอีกสามปีต่อมา เขาจึงค่อยกลับฮ่องกง

ในชีวิตของโจวมู่หวันมีหญิงสาววนเวียนอยู่ด้วยกัน 4 คน หนึ่งคือโสเภณีชั้นสูงที่ไม่มอบหัวใจให้ใคร สองคือนางโชว์ที่พบพานไม่กี่ครั้ง สามคือหญิงสาวที่ไม่อาจสมหวังในความรัก และสี่ ผู้หญิงที่ติดอยู่กับอดีตบางอย่าง

ทั้งหมดถูกผูกโยงและร้อยรัดเข้ากับกาลเวลาโดยมีโจวมู่หวันเป็นจุดศูนย์กลาง พวกเขาดิ้นรนไปกับอดีตและอนาคต มีความทรงจำเป็นตัวกัดกินจากภายใน มีความรักเป็นตัวบ่อนทำลายจากภายนอก ทุกคนล้วนแบกสัมภาระบางอย่างติดอยู่ในใจ และไม่รู้ว่าจะปลดมันลงได้อย่างไร โดยที่ไม่ทำร้ายคนรอบข้างนอกจากตัวเอง

Tags: , , ,