โลกของนวัตกรรมและเทคโนโลยีในปัจจุบันนั้นหมุนเร็วจนเรียกได้ว่า แทบจะทุกวินาทีจะมีสิ่งใหม่เกิดขึ้นเสมอ หนึ่งในนวัตกรรมที่เติบโตอย่างรวดเร็วและต่อเนื่องนั่นก็คืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อย่างโทรศัพท์มือถือ ที่มีการพัฒนาและแข่งขันกันอย่างดุเดือด อีกนวัตกรรมหนึ่งที่เติบโตไม่แพ้กัน คือนวัตกรรมการผลิตยางในอุตสาหกรรมยานยนต์ ซึ่งน่าสนใจว่ามีการเติบโตที่เป็นพลวัตเร็วเป็นอันดับ 3 รองจากโทรศัพท์และแท็บเล็ต

หากพูดถึงนวัตกรรมการผลิตยาง ก็คงไม่แปลกหากทุกคนจะคิดถึงเรื่องรถยนต์เป็นหลัก เพราะอุตสาหกรรมยานยนต์นั้นถูกพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง และ ‘ยาง’ สำหรับล้อรถยนต์ก็เป็นสิ่งที่ถูกพัฒนามาตามยุคสมัยที่เปลี่ยนไปด้วยเช่นกัน กู๊ดเยียร์ คือหนึ่งในบริษัทผลิตยางที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในโลก ผู้คอยพัฒนานวัตกรรมการผลิตยางและเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมยางมาตลอด 120 ปี

ย้อนกลับไปเมื่อปี 1898 แฟรงค์ ไซเบอร์ลิ่ง ได้ก่อตั้งบริษัทกู๊ดเยียร์ ไทร์ แอนด์ รับเบอร์ ขึ้น ตั้งแต่อดีต กู๊ดเยียร์ คอยคิดค้นนวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อตอบโจทย์อนาคตอยู่เสมอ ตั้งแต่จากสนามแข่งรถ จนมาถึงหุ่นสำรวจ Modular Equipment Transporter (MET) ของยานอะพอลโลซึ่งออกไปปฏิบัติภารกิจสำรวจดวงจันทร์อันโด่งดัง

ผลิตภัณฑ์ของกู๊ดเยียร์ได้เข้าไปมีส่วนร่วมในความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ที่ตื่นตาตื่นใจของมนุษยชาติมาแล้วหลายเหตุการณ์ และนี่คือตัวอย่างนวัตกรรมสำคัญของกู๊ดเยียร์ ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน และก้าวต่อๆ ไปในอนาคต

มรดกทางนวัตกรรมจากอดีต

เจ้าแรกในหลายด้าน

เมื่อ พ.ศ. 2382 ชาร์ลส์ กู๊ดเยียร์ ได้คิดค้นสิ่งประดิษฐ์ชิ้นสำคัญที่เข้ามาพลิกโฉมการใช้ชีวิตประจำวันของผู้คนไปตลอดกาล นั่นก็คือกระบวนการคงรูปของยาง (Vulcanization of rubber) บริษัทที่ก่อตั้งตามชื่อของเขาจึงนับว่าเป็นแห่งแรกที่คิดค้นสิ่งใหม่หลายอย่าง ทั้งยางสำหรับรถยนต์เพื่อผู้ขับขี่ทั่วไปของฟอร์ด โมเดล ที (Ford Model T พ.ศ. 2451) ยางอัดลมรุ่นแรกสำหรับอากาศยาน (พ.ศ. 2452) และยางรุ่นแรกเพื่อการสำรวจดวงจันทร์โดยนักบินอวกาศนาซ่า (พ.ศ. 2514)

ความสำเร็จบนสนามแข่ง

กู๊ดเยียร์ถือเป็นเจ้าสนามการแข่งรถมอเตอร์สปอร์ตมาโดยตลอด ใน พ.ศ. 2541 ยางของกู๊ดเยียร์ชนะการแข่งขันรถฟอร์มูลา วัน กรังด์ปรีซ์ถึง 368 ครั้ง ซึ่งนับว่ามากที่สุดในกลุ่มผู้ผลิตยาง เป็นเวลากว่า 60 ปีที่ยางของกู๊ดเยียร์เป็นหนึ่งในอุปกรณ์หลักของสนามแข่งรถแนสคาร์ (NASCAR) และล่าสุดยังเป็นยางที่มีเอกสิทธิ์ให้ใช้ในรายการแข่งรถสามซีรีส์หลัก

ปรากฏการณ์ของกู๊ดเยียร์ในยุคปัจจุบัน

ยางคอมปาวด์จากน้ำมันถั่วเหลือง

กู๊ดเยียร์ได้พัฒนาคอมปาวด์ยาง (Compound Rubber) จากน้ำมันถั่วเหลืองเพื่อการพาณิชย์ได้เป็นครั้งแรก โดยทีมนักวิทยาศาสตร์และวิศวกรผู้เชี่ยวชาญของกู๊ดเยียร์ได้ร่วมกันคิดค้นคอมปาวด์ยางที่ผลิตจากน้ำมันถั่วเหลืองซึ่งเป็นสิ่งที่ได้จากธรรมชาติ ช่วยประหยัดต้นทุน ไม่สร้างมลพิษทางอากาศอย่างก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และสามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้

ซิลิกาจากขี้เถ้าแกลบ

กู๊ดเยียร์ให้ความสำคัญกับความรับผิดชอบต่อชุมชน ตลาด และสิ่งแวดล้อม จึงได้เริ่มใช้ซิลิกาที่ได้จากขี้เถ้าที่เหลือจากการเผาแกลบ เพื่อเพิ่มความทนทานและลดแรงต้านทานการหมุนของล้อในยางรถยนต์สำหรับผู้บริโภคทั่วไปบางรุ่น ซึ่งขี้เถ้าแกลบถือเป็นวัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เป็นวัสดุทางเลือกที่ประหยัดต้นทุนเมื่อเทียบกับคอมปาวด์จากสารเคมี

ตัวเซนเซอร์ในยาง

เมื่อเทคโนโลยีกลายเป็นสิ่งจำเป็นที่ขาดไม่ได้ในชีวิตประจำวันของพวกเราทุกคน กู๊ดเยียร์ได้คิดค้นและพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่สอดคล้องกับมาตรฐานอุตสาหกรรมปัจจุบัน โดยผลงานล่าสุดที่น่าสนใจเป็นอย่างมากคือ ยางอัจฉริยะที่มีเซนเซอร์ฝังเอาไว้ ช่วยให้ผู้ขับขี่วัดและบันทึกข้อมูลสำคัญ และบริหารเรื่องการดูแลยางได้ เนื่องจากข้อมูลเรียลไทม์จะเข้าไปประมวลในอัลกอริทึม ช่วยให้ผู้ขับขี่ติดตามสภาพยาง อุณหภูมิ และแรงดันได้แบบเรียลไทม์ ช่วยให้ผู้ขับขี่ได้รู้และคอยเอาใจใส่สภาพรถยนต์ได้สะดวกและรวดเร็วมากขึ้น และจะส่งผลให้คำนึงถึงความปลอดภัยตามมาได้เป็นอย่างดี ทั้งต่อตัวผู้ขับขี่เองและผู้อื่นบนท้องถนนด้วยเช่นกัน

บทบาทในอนาคตกับโลกใหม่แห่งการขับเคลื่อน

สิ่งที่กู๊ดเยียร์มุ่งมั่นพัฒนา

  • ยางอัจฉริยะ – ด้วยเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์หรือเอไอ ในอุตสาหกรรมยานยนต์ปัจจุบันมีพัฒนาการที่ก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว กู๊ดเยียร์จึงให้ความสำคัญกับการพัฒนายางให้ฉลาดเท่าทันยานยนต์ โดยเฉพาะเมื่อผู้บริโภคต้องการสัมผัสประสบการณ์แบบ 360 องศา พร้อมอิสระการขับขี่ที่มากขึ้น

  • การใช้เส้นทางหรือรถโดยสารร่วมกัน – กู๊ดเยียร์ได้ร่วมมือกับสตาร์ตอัป เช่น Stratim และ Tesloop โดยมุ่งพัฒนาโซลูชั่นเพื่อการขับขี่หรือใช้เส้นทางร่วมกัน เพื่อให้ผู้บริโภคมั่นใจได้ถึงการขับขี่ที่ปลอดภัย สะดวกสบาย และวางใจได้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

  • แนวคิดเพื่ออนาคตแห่งการขับเคลื่อน – กู๊ดเยียร์ได้วางแผนที่นำความเจริญก้าวหน้ามาให้ต่อเนื่อง โดยตั้งเป้าพัฒนาอุตสาหกรรมให้รองรับสภาวะแวดล้อมสังคมเมืองที่ยั่งยืน ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือ แนวคิดปฏิวัติอุตสาหกรรมด้านผลิตภัณฑ์ เช่น ยางรุ่นอีเกิ้ล 360 เออร์เบิน (Eagle 360 Urban) และออกซิจีน (Oxegene) ซึ่งนำเสนอมาจากแนวคิดของกู๊ดเยียร์ที่ต้องการสร้างแรงบันดาลใจให้กับการดำเนินชีวิตของผู้คนในอนาคต

ยางรุ่นอีเกิ้ล 360 (Eagle-360) รุ่นอีเกิ้ล 360 เออร์เบิน (Eagle-360 Urban) และรุ่นอินเทลลิกริป 
เออร์เบิน (IntelliGrip Urban)
เมื่อเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์หรือเอไอ พัฒนาขึ้นมากตลอดช่วงหลายปีที่ผ่านมา ยางต้นแบบหรือยางคอนเซ็ปต์รุ่นอีเกิ้ล-360 เออร์เบิน ของกู๊ดเยียร์ จึงได้รับการออกแบบมาเพื่อให้สนองต่อการขับเคลื่อนในอนาคต โดยยางคอนเซ็ปต์ ทรงกลมรุ่นนี้ ได้นำเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดทั้งหลายมาใช้ประโยชน์ อาทิ เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) และระบบสื่อสารระหว่างยานพาหนะกับทุกสิ่ง (vehicle-to-everything “V2X”) ช่วยพัฒนาให้เกิดยานยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติแห่งอนาคต โดยออกแบบมาให้มีคุณสมบัติสำคัญ ๆ ได้แก่ ความคล่องตัว การเชื่อมต่อนวัตกรรมชีวลอกเลียน (Biomimicry) หรือเทคโนโลยีที่สามารถเลียนแบบธรรมชาติได้ ผลักดันให้เกิดการขับเคลื่อนอัตโนมัติที่ยานพาหนะสามารถเคลื่อนไหวได้ทุกทิศทาง เสริมสร้างความปลอดภัยให้กับผู้โดยสาร พร้อมรับมือกับพื้นที่จำกัด เช่น ที่จอดรถที่แคบๆ หรือถนนหนทางในเมืองที่แตกต่างและยากจะคาดเดาได้

ตลอดระยะเวลา 120 ปี กู๊ดเยียร์ยังคงทำหน้าที่บุกเบิก คิดค้นนวัตกรรมใหม่เพื่อตอบโจทย์อนาคตอยู่เสมอๆ และไม่จำกัดตัวเองอยู่แค่เพียงการผลิตยาง แต่คิดค้นเพื่อสร้างอนาคตและคุณภาพชีวิตของผู้คนให้ดีขึ้น โดยการเปิดรับเทคโนโลยีต่างๆ ที่มีบทบาทต่อชีวิตคนมากยิ่งขึ้นและพัฒนามันให้เกิดประโยชน์ต่อสังคมมากที่สุด

แม้ในปัจจุบันกู๊ดเยียร์จะสามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าทุกกลุ่มได้อย่างครอบคลุมเป็นอย่างดีแล้ว แต่กู๊ดเยียร์ก็ยังคงมุ่งมั่นพัฒนายางเพื่อตอบสนองความต้องการที่ท้าทายใหม่ๆ ของลูกค้าในอนาคตด้วยเช่นกัน

Tags: , , ,