สี่โมงเย็นของวันที่ 25 มีนาคม คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ประกาศผลการเลือกตั้ง 95%

เผยแพร่เป็นไฟล์พีดีเอฟ ระบุรายชื่อผู้ที่ได้คะแนนมากที่สุดในแต่ละเขตทั้งหมด 350 เขต

แต่สิ่งที่ได้มาก็ทำให้หลายฝ่ายผิดหวัง เพราะข้อมูลที่ออกมานั้น ไม่มีตัวเลขคะแนนดิบ หรือป็อบปูลาร์โหวต ว่าแต่ละพรรคได้เสียงทั้งหมดจากประชาชนไปจำนวนเท่าไร ซึ่งนี่เป็นข้อมูลสำคัญที่พรรคต่างๆ ต้องนำมาใช้เพื่อประเมินสถานการณ์ และตั้งตารอเพื่อนับจำนวนความเป็นไปได้ของ ส.ส.บัญชีรายชื่อ (ปาร์ตี้ลิสต์)

ที่มาที่ไปของข้อมูล 3 ชุดที่มีให้วิเคราะห์ตอนนี้

ย้อนไปตั้งแต่คืนปิดหีบเลือกตั้ง ก็เกิดความปั่นป่วนในการรายงานผลตลอดมา เพราะตามแผนเดิม กกต. จะปล่อยข้อมูลให้สื่อทีวีและออนไลน์กว่า 40 ราย เพื่อรายงานผลต่อผู้ชมทางบ้าน (เช่นที่ปรากฏในเว็บไซต์ vote62.com แต่กลับเกิดปัญหาทางเทคนิคเป็นระยะๆ

ที่ผ่านมาจึงมีชุดข้อมูลทั้งหมด 3 ส่วนที่มาจาก กกต. คือ

  • ข้อมูลจาก API กกต. (ข้อมูลที่เผยแพร่ใน vote62.com และทุกๆ สื่อ ตั้งแต่หลังปิดหีบเลือกตั้งจนถึงช่วงสายของวันที่ 25 มีนาคม) ค่อยๆ เปิดเผยผลคะแนนจนถึงราว 94%

ขั้นตอนนี้ ตามความตั้งใจเดิมคือจะรายงานผลแบบเรียลไทม์ แต่เกิดปัญหาเรื่องเซิร์ฟเวอร์ล่ม ซึ่งด้านหนึ่งมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็นเพราะเตรียมงานเอาไว้ไม่รอบคอบ แต่ด้าน กกต.เองให้ข่าวว่าเป็นเพราะมีแฮกเกอร์พยายามเข้ามาป่วนระบบ ผลสรุปคือมีช่วงเวลาที่ข้อมูลหยุดชะงักเป็นระยะๆ และไหลมาอย่างช้าๆ ทำให้คะแนนที่สื่อส่วนใหญ่ได้รับนั้นช้ากว่าจอทีวีใหญ่ของ กกต.

  • ข้อมูลจาก API กกต. (ข้อมูลที่เผยแพร่ใน vote62.com และทุกๆ สื่อ ตั้งแต่ช่วงสายของวันที่ 25 มีนาคมจนปัจจุบัน) ซึ่งเปิดเผยผลคะแนน 94%

เนื่องจากต่อมาพบว่า ข้อมูลในข้อ 1 มีจุดผิดพลาด เพราะยังมีคะแนนของ ‘พรรคเพื่อนไทย’ ทั้งที่ผู้สมัครทั้งหมดโดนตัดสิทธิไปแล้ว คะแนนทั้งหมดจึงต้องกลายเป็นบัตรเสีย นำมาสู่การปรับแก้และอัปเดต และส่งตัวเลขคะแนนทั้งหมดเข้า API อีกครั้ง และเป็นข้อมูลที่ปรากฏทั่วไปในปัจจุบัน

  • ข้อมูลในรูปแบบไฟล์พีดีเอฟ (จากเว็บไซต์ กกต.) เปิดเผยเฉพาะ ‘รายชื่อ’ ส.ส. ที่ชนะใน350 เขต คิดจากคะแนน 95% แต่ไม่เปิดเผยคะแนนดิบ

สี่โมงเย็นของเช้าวันที่ 25 มีนาคม กกต.ก็เผยแพร่ผลการเลือกตั้งมาอีกชุด ระบุว่าเป็นผลอย่างไม่เป็นทางการจากการนับคะแนน 95% เพียงแต่ข้อมูลเซ็ตหลังนี้ เปิดเผยแต่รายชื่อผู้ได้คะแนนสูงสุดของ ส.ส.เขตทั้ง 350 เขต ไม่มีตัวเลขคะแนนดิบ ซึ่งเป็นข้อมูลส่วนสำคัญ

ดังนั้น ในเวลานี้ เราจึงมีผลที่เป็นคะแนนดิบ 94% และมีรายชื่อผู้ได้คะแนนสูงสุด 350 เขตที่คำนวณจากคะแนน 95%

ที่น่าสนใจคือ 1% ที่แตกต่างนี้ ทำให้จำนวนที่นั่ง *เฉพาะ ส.ส. เขต* เปลี่ยนไป ดังนี้

  1. เพื่อไทย จาก 135 ที่นั่ง กลายเป็น 137 ที่นั่ง

  2. พลังประชารัฐ จาก 98 ที่นั่ง กลายเป็น 97 ที่นั่ง

  3. ภูมิใจไทย ได้ 39 ที่นั่ง

  4. ประชาธิปัตย์ จาก 34 ที่นั่งกลายเป็น 33 ที่นั่ง

  5. อนาคตใหม่ จาก 29 ที่นั่ง กลายเป็น 30 ที่นั่ง

  6. ชาติไทยพัฒนา จาก 7 ที่นั่ง กลายเป็น 6 ที่นั่ง

  7. ประชาชาติ ได้ 6 ที่นั่ง

  8. รวมพลังประชาชาติไทย ได้ 1 ที่นั่ง

  9. ชาติพัฒนา ได้ 1 ที่นั่ง

เมื่อดูให้ละเอียดลงไป เขตที่ผลแตกต่างกันระหว่าง API ที่มีคะแนน 94% กับเอกสาร กกต. ที่คิดจากคะแนน 95% มีรายละเอียดดังนี้

สำหรับคะแนนส่วนที่เหลือ 5% นั้น คือจำนวนผู้มาใช้สิทธิอีกมากกว่า 1.9 ล้านคน ซึ่งเทียบเท่าที่นั่ง ส.ส.อีกราว 26 ที่นั่งซึ่งเป็นจำนวนที่จะสร้างการเปลี่ยนแปลงได้อีกมาก

 

ที่มาข้อมูล:

ข้อมูล 94%: https://vote62.com/

ข้อมูล 95%: https://www.ect.go.th/ewt/ewt/ect_th/download/article/article_20190326085517.pdf

Tags: , ,