แม้หัวเว่ย (Huawei) จะโดนแบนจากทั้งสหรัฐฯ และล่าสุดอังกฤษก็เพิ่งประกาศแบนอุปกรณ์ 5G ตั้งแต่สิ้นปีนี้เป็นต้นไป และให้บริษัทที่มีอุปกรณ์ติดตั้งเครือข่าย 5G ของหัวเว่ยอยู่แล้ว ต้องถอดออกภายในปี 2027 

แต่หัวเว่ยก็เอาตัวรอดด้วยกลยุทธ์ 1+8+N ซึ่งจะเป็นกลยุทธ์สำคัญของหัวเว่ยในธุรกิจเทคโนโลยี และเป็นการสร้างอีโคซิสเต็มของหัวเว่ยเองตลอดระยะเวลาอีก 10 ปีข้างหน้า คล้ายๆ กับที่บริษัทเทคโนโลยีเจ้าอื่นก็มีอีโคซิสเต็มของตัวเองเช่นกัน

เพราะหัวเว่ยมีจุดเด่นที่เป็นบริษัทที่ให้บริการและผลิตภัณฑ์หลากหลาย มีระบบเครือข่าย ซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์เป็นของตนเอง ครอบคลุมตั้งแต่คลาวด์ โครงสร้างพื้นฐานด้านการสื่อสาร และดีไวซ์อย่าง สมาร์ทโฟน แท็บเล็ต แล็ปท็อป เป็นต้น 

กลยุทธ์ ‘1+8+N’ เกิดขึ้นจากแนวคิดที่ต้องการสร้าง ‘ชีวิตเอไอ ไร้รอยต่อ’ หรือ ‘Seamless AI Life’ โดยเป็นการต่อยอดสมาร์ทโฟนของหัวเว่ยไปสู่สมาร์ทดีไวซ์อื่นๆ เพื่อบูรณาการการใช้งาน แบ่งปันคอนเทนต์ และเสริมศักยภาพของแต่ละอุปกรณ์ให้ดียิ่งขึ้น

โดยเลข 1 หมายถึง สมาร์ทโฟน ที่เป็นหัวใจในการเชื่อมต่อและควบคุมการทำงานของดีไวซ์อื่นๆ ส่วนเลข 8 หมายถึง สมาร์ทดีไวซ์อื่นๆ อีก 8 อย่างที่จะเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน ได้แก่ แล็ปท็อป แท็บเล็ต สมาร์ทวอทช์ หูฟังไร้สาย แว่นตา ทีวีหรือหน้าจออัจฉริยะ ลำโพง และรถยนต์ และ N หมายถึง อินเทอร์เน็ตในทุกสรรพสิ่ง (IoT) ที่ทำให้เราเชื่อมต่อกับอุปกรณ์อื่นๆ ที่ทำให้เราใช้งานได้หลากหลาย และอำนวยความสะดวกให้กับชีวิตของเราทั้งความบันเทิง การทำงาน สุขภาพ เป็นต้น โดยเครื่องหมาย “+” หมายถึง เครือข่ายการเชื่อมต่อในบริเวณกว้าง (WAN) และเทคโนโลยีการเชื่อมต่อระยะใกล้ เช่น Huawei Share และ HiLink ที่จะทำให้อีโคซิสเต็มของหัวเว่ยสมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น ทำงานได้ลื่นไหล เต็มประสิทธิภาพ และไร้รอยต่อ

แต่อย่างที่ทราบว่าสมาร์ทโฟนของหัวเว่ยในปัจจุบัน ไม่มีสิ่งที่เรียกว่า Google Mobile Service (GMS) ซึ่งก็จะไม่มีแอปอย่าง Google Maps, Google Play, youtube, gmail ที่ติดตั้งมาจากโรงงาน ทำให้หัวเว่ยพัฒนาระบบของตัวเองนั่นคือ HUAWEI Mobile Service (HMS) ซึ่งก็มีจะมีแอปหรือฟีเจอร์ที่คล้ายๆ กับของกูเกิล เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้สมาร์ทโฟนของหัวเว่ย

 

โดย HUAWEI Mobile Service ก็จะทำให้ผู้ใช้สมาร์ทโฟนหรืออุปกรณ์อื่นๆ ของหัวเว่ยเกิดความสะดวกและรวดเร็วในการเชื่อมต่อและใช้งานอุปกรณ์หลายๆ อันพร้อมกัน ผ่านเครือข่าย 5G ระบบปฏิบัติการ EMUI และการต่อยอดไปถึงบริการ HUAWEI Assistant 

ที่สำคัญยังมีฟีเจอร์ HUAWEI Share ซึ่งสามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์ แบ่งปันข้อมูล แชร์ศักยภาพการทำงานระหว่างอุปกรณ์ ผ่านการแตะอุปกรณ์เข้าด้วยกันเพียงสัมผัสเดียว (One Tap) หมดปัญหาความยุ่งยากของการเชื่อมต่อระหว่างอุปกรณ์และแก้ปัญหาความไม่เสถียรไปโดยปริยาย

Fact Box

  • หัวเว่ย มีแคมเปญ Together 2020 จัดโปรโมชั่นผลิตภัณฑ์ครบชุดทั้งสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตในทุกระดับ ตอบโจทย์การใช้งานทุกเพศทุกวัย พร้อมของสมนาคุณและส่วนลดสูงสุดถึง 20% สําหรับซื้ออุปกรณ์เสริมของหัวเว่ยหรือแก็ดเจ็ต รวมถึงสิทธิพิเศษมากมาย เช่น ผ่อนชำระ 0% นานสูงสุดถึง 24 เดือนสำหรับบัตรเครดิตและผลิตภัณฑ์ที่ร่วมรายการ ณ Huawei Experience Store ที่ร่วมรายการ โดยโปรโมชั่นนี้จะสิ้นสุดในวันที่ 31 ก.ค. 63
  • สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับกลยุทธ์ 1+8+N และแคมเปญ “Together in Just One Tap” สามารถคลิกดูได้จากลิงค์นี้: https://consumer.huawei.com/th/campaign/together-2020/1-8-n/

 

Tags: ,