จากรายงานอันดับเมืองที่ปลอดภัยที่สุดในโลกประจำปี 2019 โดย Economist Intelligence Unit โดยแยกพิจารณาใน 4 ประเด็นด้วยกันก็คือ Digital Security พิจารณาจากความเสี่ยงจากมัลแวร์ต่างๆ ในระบบคอมพิวเตอร์ Health Security พิจารณาในด้านสุขภาวะ Infrastructure Security พิจารณาจากโครงสร้างพื้นฐานที่ออกแบบว่าทนต่อแรงกระแทกตามธรรมชาติหากเกิดภัยพิบัติหรือไม่ และ Personal Security พิจารณาจากระดับอาชญากรรมและความรุนแรงที่เกิดขึ้น ก่อนจะรวมคะแนนและจัดอันดับเป็นเมืองที่ปลอดภัยที่สุดในโลก

ปรากฏว่าในส่วนของ Digital Security เมืองโตเกียว ประเทศญี่ปุ่นได้อันดับหนึ่ง 94.4 คะแนน (เต็ม 100) ตามมาด้วยสิงคโปร์ ชิคาโก วอชิงตัน ดีซี และอันดับ 5 เท่ากันสองเมืองคือลอสแองเจลิสและซาน ฟรานซิสโก ส่วนเมืองที่ได้คะแนน Digital Security ต่ำที่สุดได้แก่ ย่างกุ้ง, โฮจิมินห์ ซิตี้, ไคโร, ธากา (บังคลาเทศ) และลากอส (ไนจีเรีย)

ในส่วนของ Health Security เมืองโอซากา ประเทศญี่ปุ่น ได้อันดับหนึ่ง 88.5 คะแนน ตามมาด้วยโตเกียว โซล ส่วนอันดับ 4 มีสองเมืองคืออัมสเตอร์ดัมและสต็อกโฮล์ม ส่วนเมืองที่ได้คะแนน Health Security ต่ำที่สุดได้แก่ ลากอส, การาจี (ปากีสถาน), ย่างกุ้ง, ธากา, และไคโร 

ในส่วนของ Infrastructure Security อันดับหนึ่งคือ สิงคโปร์ 96.9 คะแนน ตามมาด้วยโอซากา บาร์เซโลนา โตเกียว และมาดริด ส่วนเมืองที่ได้คะแนน Infrastructure Security ต่ำที่สุดได้แก่ การากัส (เวเนซุเอลา), ธากา, ลากอส, นิว เดลี, และย่างกุ้ง 

ในส่วนของ Personal Security อันดับหนึ่งได้แก่ สิงคโปร์ 95.3 คะแนน  ตามมาด้วยโคเปนเฮเกน ฮ่องกง โตเกียว และเวลลิงตัน (นิวซีแลนด์) ส่วนเมืองที่ได้คะแนน Personal Security ต่ำที่สุดได้แก่ ลากอส, การากัส, การาจี, ย่างกุ้ง และโบโกตา (โคลอมเบีย

และในภาพรวมเมืองที่ปลอดภัยที่สุดในโลกประจำปี 2019 ในทุกด้านปรากฏว่าเมืองโตเกียว ประเทศญี่ปุ่นได้คะแนนสูงสุด 92.0 ถือเป็นเมืองที่ปลอดภัยที่สุดในโลก ตามมาด้วยสิงคโปร์ โอซากา อัมสเตอร์ดัม และซิดนีย์ ในขณะที่เมืองที่ปลอดภัยน้อยที่สุดได้แก่ ลากอส, การากัส, ย่างกุ้ง, การาจี และธากา 

สำหรับประเทศไทยในส่วนของ Digital Security อยู่ในอันดับที่ 40, Health Security อยู่ในอันดับที่ 45, Infrastructure Security อยู่ในอันดับที่ 48, Personal Security อยู่ในอันดับที่ 52, และในภาพรวมทั้ง 4 แคตตากอรี่ ประเทศไทยอยู่ในอันดับที่ 47

ข้อมูลจาก Economist Intelligence Unit 

Tags: