หลายองค์กรหรือบริษัทที่ทำงานอยู่ อาจเคยเจอกับบุคคลที่มีภาพลักษณ์เหมือน ‘ทำงานเก่ง’ แต่หากได้ลองคลุกคลีทำงานร่วมกัน กลับพบว่า ทั้งหมดนั้นเป็นภาพลักษณ์ที่ถูกสร้างและประดิษฐ์ขึ้นมาผ่านคำพูดอันสวยหรูเท่านั้น แต่ทำไมผู้คนกลับยังคงยกย่องเชิดชูเขาเหล่านั้นกันอยู่?

ปรากฏการณ์ดังกล่าวสามารถอธิบายได้ด้วยทฤษฎี Lemon Market ที่เชื่อว่า ผู้คนจะไม่สามารถแยกผู้เชี่ยวชาญและผู้ที่ดูเหมือนจะเชี่ยวชาญออกจากกันได้ เนื่องจากข้อมูลที่รับรู้มีอยู่ไม่เพียงพอ

Lemon Market เป็นทฤษฎีที่ถูกคิดค้นโดย จอร์จ อะเคอลอฟ (George Akerlof) นักเศรษฐศาสตร์เจ้าของรางวัลโนเบล เพื่ออธิบายเกี่ยวกับปรากฏการณ์ความล้มเหลวของตลาดรถมือสอง เนื่องจากความไม่สมมาตรของข้อมูล (Asymmetric information) ของผู้คน เพราะเมื่อใดที่คนเรามีข้อมูลไม่เท่ากัน การตัดสินใจก็ย่อมแตกต่างกันไป ซึ่งการมีข้อมูลไม่เพียงพอทำให้เราไม่สามารถตัดสินใจได้ดีอย่างที่ควร เฉกเช่นการแยกเลมอนลูกที่ดีออกจากเลมอนลูกที่แย่ไม่ได้นั่นเอง

แท้จริงแล้ว Lemon Market ในชื่อทฤษฎีไม่ได้หมายถึงเลมอนจริงๆ แต่เป็นคำแสลงที่บอกถึงคุณภาพรถของตลาดรถมือสอง โดยอะเคอลอฟจะแทนรถมือสองคุณภาพดีเป็นพีช (Peach) และรถมือสองคุณภาพต่ำเป็นเลมอน (Lemon) ปัญหาที่เกิดขึ้นคือ ในตลาดรถมือสองนั้นผู้ขายจะเป็นผู้กุมข้อมูลมากกว่าผู้ซื้อ ทำให้ผู้ซื้อไม่สามารถแยกได้ว่าคุณภาพของรถมือสองที่ตนกำลังจะซื้อนั้นเป็น ‘เลมอน’ หรือว่า ‘พีช’ นอกจากจะต้องใช้งานไประยะหนึ่ง

ในเมื่อผู้ซื้อไม่รู้ว่าจะเลือกรถจากคุณภาพออย่างไร ผู้ซื้อส่วนใหญ่จึงใช้ ‘ราคา’ เป็นเครื่องมือในการบอกคุณภาพ เพราะเชื่อว่าหากซื้อของแพงก็เท่ากับว่าเราจะได้ของคุณภาพดีมาครอบครอง โดยปัญหาที่เกิดขึ้นก็คือ ผู้ขายจะอาศัยช่องโหว่ดังกล่าวในการขาย ‘เลมอน’ ในราคาที่สูง เพื่อที่จะได้ขายของคุณภาพต่ำในราคาที่สูงแทน

ผู้ขายที่ต้องการจะขายรถมือสองดีๆ จึงไม่สามารถอยู่ในตลาดได้ และต้องหันมาขายรถมือสองคุณภาพต่ำแทน และเมื่อในด้านคุณภาพไม่สามารถแข่งขันกันได้ ‘สงครามราคา’ จึงเกิดขึ้นเมื่อมีการลดราคาเพื่อแย่งชิงลูกค้า ในฝั่งของผู้ซื้อ เมื่อเกิดปัญหาจากการซื้อรถสองคุณภาพต่ำมากเข้า ความมั่นใจ และความต้องการซื้อของตลาดรถมือสองจึงค่อยๆ หดตัวลง จนในท้ายที่สุดก็เหลือผู้ขายไม่กี่รายในตลาด

ทฤษฎี Lemon Market จึงเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ในทุกสังคม เมื่อผู้คนไม่สามารถแยกได้ว่าคนไหนมีความสามารถจริง และคนไหนแค่เพียงแค่พูดให้คนอื่นเชื่อว่าเก่งเท่านั้น ปัญหาคือเมื่อใดก็ตามที่คนที่เป็น ‘เลมอน’ พูดอะไรโง่ๆ ออกมา ผู้คนที่ขาดความรู้ในการไตร่ตรองมักเลือกที่จะเชื่อและทำตาม จนกว่าจะพิสูจน์ได้ว่าเลมอนเหล่านี้ไม่ใช่พีช เช่นเดียวกับรถมือสองที่หากไม่ลองขับดูก่อน ก็จะไม่รู้ถึงคุณภาพที่แท้จริงเลยว่าเป็นอย่างไร

ภาพ: MTV

Tags: ,