ถึงวันนี้ปฏิเสธไม่ได้ว่า เบื้องหลังขององค์กรสมัยใหม่ที่เต็มไปด้วยความคิดสร้างสรรค์ เต็มไปด้วยพลังอันเปี่ยมล้น มี ‘คาเฟอีน’ อยู่เบื้องหลัง ไม่ว่าจะเป็นแก้วคาเฟอีนเดี่ยว หรือการแชร์คาเฟอีนแบบกลุ่ม ตามด้วยบทสนทนาเรื่องกาแฟเล็กๆ ล้วนประทับใจคนทุกเพศ ทุกวัย ทุกช่วงอายุ และทำให้บทสนทนาธุรกิจ หรือการทำงานจากนั้นลื่นไหลตามไปด้วยได้ ทั้งหมดอาจเกิดจาก ‘ร้านกาแฟ’ ประจำออฟฟิศ หรือ ‘มุมกาแฟ’ ที่องค์กรจัดไว้ให้

แต่บางออฟฟิศก็ไม่ได้ใส่ใจเรื่องนี้ ร้านกาแฟเป็นเพียงเพิงขายกาแฟเล็กๆ เปิดให้ญาติพี่น้องของผู้บริหารมาเช่าที่ จนสุดท้าย กลายเป็นมนุษย์เงินเดือนต่อคิวยาวเต็มไปหมด บางที่อาจมีร้านกาแฟเชนดีๆ ก็จริง แต่โต๊ะเต็มตลอดเพราะมีผู้บริหารบางคนใช้เป็นที่นั่งทำงานรากงอกตลอดทั้งวัน ขณะที่บางเรื่องเล็กๆ อย่าง ‘ไวไฟ’ ไม่เสถียร หรือพนักงานหน้าหงิก ก็ล้วนทำให้บางคนห่างหาย

เทรนด์ใหม่ทั่วโลกขณะนี้ คือการทำ Co-working Café ไว้ในองค์กร เป็นส่วนผสมของสองเรื่อง หนึ่งคือ ร้านกาแฟ ที่มีเม็ดกาแฟมีคุณภาพ มีบรรยากาศร้านกาแฟน่ารักๆ อย่างเต็มเปี่ยม และอีกส่วนคือการเป็น Workspace เป็นพื้นที่ทำงานชั้นดี มีโต๊ะหนักเพียงพอ มีที่ชาร์จไฟเหลือล้น และมีสเปซที่พร้อมสรรพ ไม่เพียงแต่ ‘คนใน’ เท่านั้น แต่อาจเป็นพื้นที่ ‘ปิดดีล’ ธุรกิจสำหรับคนนอกได้ด้วย

แล้วควรจัดพื้นที่ Co-working Café อย่างไร

เว็บไซต์ Allwork แนะนำว่า ควรจัดบรรยากาศให้น่าทำงาน ผ่านการตกแต่งภายใน การเลือกโทนสีที่สบายตา รวมถึงการมี ‘พื้นที่สีเขียว’ เล็กๆ ให้คิดเสียว่าเป็นพื้นที่ที่เหมาะกับการถ่ายสตอรี่ลงอินสตาแกรม

ขณะเดียวกัน การจัดที่นั่งก็สำคัญไม่แพ้กัน องค์กรควรเลือกเก้าอี้ที่นั่งสบาย โต๊ะ-เก้าอี้ สามารถวางแล็ปท็อปอย่างได้สัดส่วน และอย่าลืมหลักการ Ergonomic เพื่อให้พนักงานมีโอกาสเอนหลังได้ ยืดหลังได้ ไม่เป็นออฟฟิศซินโดรม ซึ่งจะส่งผลกับการทำงานในอนาคต

นอกจากนี้ อย่าลืมว่า ‘กาแฟดี’ และ ‘ของว่างดี’ จะเป็นส่วนผสมอันสำคัญเพื่อผลักดันงานออกมาให้สมบูรณ์แบบ ก่อนอื่นเลย อย่าลืมว่ากลิ่นกาแฟที่หอมอบอวลนั้นจะเป็นที่ดึงดูดให้คนอยากเข้ามา เช่นเดียวกับกลิ่นขนมอบคุณภาพดี ก็ทำให้ความคิดสร้างสรรค์พลุ่งพล่านเช่นกัน

เพราะวันนี้ หมดยุคการทำงานแบบนั่งเป็น ‘คอก’ ที่พนักงานแต่ละคนตอกบัตรเข้างาน เข้าไปนั่งอยู่ในพื้นที่ตนเอง มีพื้นที่ทำงาน มีโต๊ะทำงานของตัวเองจนเย็นแล้วตอกบัตรกลับบ้านแล้ว หากแต่โลกกำลังเปลี่ยนไปสู่การทำงานด้วย Co-working Café มากขึ้นเรื่อยๆ

แล้ว ‘เทรนด์’ ของ Co-working Café เป็นอย่างไร

ว่ากันว่าในอนาคต คาเฟ่จะรองรับความหลากหลายมากขึ้น ในบางธุรกิจ คาเฟ่จะถูกออกแบบให้เข้ากับพนักงานมากขึ้น เป็นต้นว่าร้านกาแฟสำหรับสาย ‘เทค’ สายการเงิน สายความคิดสร้างสรรค์ ซึ่งการนั่งทำงานในร้านกาแฟเฉพาะสำหรับแต่ละวิชาชีพ จะทำให้สมองโลดแล่นมากขึ้น

ขณะเดียวกัน คาเฟ่ที่ดีจะไม่ลืมเทรนด์ว่าด้วย ‘ความยั่งยืน’ หรือ ‘Sustainability’ ตั้งแต่การใช้วัสดุรีไซเคิล หรือมีเรื่องราวว่าด้วยการประหยัดพลังงาน เรื่องการ ‘รักษ์โลก’ อย่างสุดใจ

นอกจากนี้ อีกเรื่องสำคัญคือร้านกาแฟจะต้องทำหน้าที่เป็น Hybrid Workspaces เพราะในอนาคต เส้นแบ่งของ Co-working Space และ Co-working Café จะเลือนรางลงเรื่อยๆ ฉะนั้น การที่มีพื้นที่โต๊ะ-เก้าอี้เพียงพอ หรือมีห้องประชุมย่อย มีมุมประชุมย่อย มีพื้นที่สำหรับคุยโทรศัพท์ส่วนตัว จะเสริมจุดแข็งของคาเฟ่ได้เป็นอย่างดี

อีกเรื่องที่สำคัญ คาเฟ่ไม่ใช่เรื่องของสถานที่อย่างเดียว แต่คือ ‘ผู้คน’ ฉะนั้น อย่าลืมว่าหากมีการจัดอีเวนต์ เวิร์กช็อป และสร้างเน็ตเวิร์กผ่านคาเฟ่ในอนาคต ก็จะทำให้คาเฟ่นั้นมีชีวิตชีวาไม่น้อย

และหลักการสำคัญในระยะยาว หนีไม่พ้นเรื่อง ‘สุขภาพ’ อย่าลืมว่าคาเฟ่อาจต้องจัดโต๊ะ เก้าอี้ ที่นั่งแล้วไม่ปวดหลัง ไม่ปวดไหล่ ไม่ปวดขา และควรจัดมุมเล็กๆ สำหรับรีแล็กซ์ ทำสมาธิ เวลาเครียดกับงานไว้ด้วย นอกจากนี้ การจัดหาเมนูอาหาร-เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพก็สำคัญ

อย่าลืมว่าเรื่องพวกนี้กำลังจะเป็นหัวใจของการทำงานในอนาคต เป็นหนึ่งในพื้นที่ในการดึงดูดให้คนเก่งๆ ให้คนมีความสามารถเข้ามาทำงาน

หากทำได้ องค์กรของคุณก็จะเป็นองค์กรในฝันของใครหลายๆ คนทันที

อ้างอิงข้อมูลจาก

– https://allwork.space/2023/09/caffeine-connection-and-career-growth-coworking-cafes-are-brewing-productivity/

https://www.restaurantfurniture.net/resources/guides/how-turn-cafe-into-coworking-space

Tags: , , , ,