เป็นเวลามากกว่า 3 ทศวรรษที่ผู้หญิงในซาอุดิอาระเบียไม่ได้รับสิทธิที่จะขับรถยนต์ แม้จะไม่มีการออกกฎหมายห้าม แต่ก็ถือว่าขัดกับหลักศาสนาที่การฝ่าฝืนจะมีความผิด มีนักสิทธิสตรีพยายามต่อสู้และท้าทายกับความไม่เท่าเทียมนี้มานานกว่า 25 ปี ด้วยการขับรถยนต์ออกไปบนท้องถนนและตามที่ต่างๆ โดยลำพัง มีทั้งที่ถูกจับกุมหรือลงโทษปรับด้วยข้อหาขับรถยนต์โดยไม่ได้รับอนุญาต และหลายครั้งตกเป็นเป้าความไม่พอใจของคนในสังคม
การขับรถยนต์ในซาอุดิอาระเบียต้องขอใบอนุญาตจากรัฐ ซึ่งจะมีแต่ผู้ชายเท่านั้นที่ได้รับ ครอบครัวชนชั้นกลางส่วนใหญ่มักมีรถยนต์สองคัน คันแรกขับโดยหัวหน้าครอบครัวซึ่งเป็นผู้ชาย และคันที่สองสำหรับสมาชิกครอบครัวที่เป็นผู้หญิงและเด็ก โดยมีสารถีประจำรถที่เป็นผู้ชายคอยทำหน้าที่รับส่ง
ในเดือนกันยายนปีที่แล้ว รัฐบาลซาอุฯ ตัดสินใจออกนโยบายซึ่งประกาศในราชกฤษฎีกา ยกเลิกการห้ามผู้หญิงขับรถยนต์ ถือเป็นส่วนหนึ่งของนโยบายปฏิรูปประเทศยุคใหม่ โดยจะมีผลบังคับใช้ในเดือนมิถุนายนที่จะถึงนี้ มีผู้คาดว่าการยกเลิกข้อห้ามดังกล่าวจะส่งผลเปลี่ยนแปลงชีวิตของผู้หญิงในซาอุฯ เป็นจำนวนมากกว่าสิบล้านคน
วาฟา นาเดีย (Wafaa Nadia) ผู้เชี่ยวชาญด้านสื่อมองว่า การที่รัฐบาลเริ่มผ่อนคลายข้อห้ามต่างๆ ที่ใช้ควบคุมผู้หญิง จะทำให้ผู้หญิงซาอุฯ ค่อยๆ ปรากฏตัว และในอนาคตอันใกล้นี้ พวกเธอจะเข้ามามีบทบาทสำคัญในแวดวงต่างๆ ทั้งการเมือง เศรษฐกิจ สังคม การแพทย์ วิทยาศาสตร์ และสื่อสารมวลชน เธอบอกว่าการรับรองสิทธิสตรีจะทำให้ผู้หญิงซาอุฯ มีโอกาสประสบความสำเร็จในชีวิตมากขึ้น
ขณะที่สิทธิสตรีของซาอุฯ เริ่มเตาะแตะไปข้างหน้า ผู้หญิงในจอร์แดนก็กำลังท้าทายกฎเหล็กอันศักดิ์สิทธิ์ในการประกอบอาชีพ ในจอร์แดนมีการแบ่งอาชีพหญิงชายอย่างชัดเจน งานซ่อมรถยนต์ ช่างไฟฟ้า ช่างประปา ถูกกำหนดให้เป็นอาชีพสำหรับผู้ชาย ช่างเสริมสวย งานขายเครื่องสำอางค์ งานในร้านขายเสื้อผ้าเครื่องแต่งกาย เป็นอาชีพสำหรับผู้หญิง การข้ามเส้นถือเป็นเรื่องน่าอับอายและไม่พึงกระทำ
บัลกีส์ บานิ ฮานิ (Balqees Bani-Hani) วัย 34 ปีเป็นผู้หญิงที่กล้าท้าทายข้อห้ามดังกล่าว เธอเป็นผู้หญิงคนแรกของจอร์แดนที่เป็นทั้งช่างซ่อมรถยนต์และเจ้าของอู่รถ ซึ่งเปิดดำเนินการเมื่อปลายปี 2560 แม้จะถูกวิพากษ์วิจารณ์จากคนจำนวนมาก และบอกให้กลับไปทำอาชีพที่เป็นของผู้หญิง แต่เธอยืนยันที่จะเป็นช่างซ่อมรถยนต์ เธอบอกว่า ทำงานนี้ด้วยใจรัก และเข้าใจความอึดอัดใจของผู้หญิงเวลาที่นำรถยนต์ไปซ่อมในอู่ที่มีแต่ช่างผู้ชาย เธอบอกด้วยว่า ต้องการทำในสิ่งที่โดดเด่นและสร้างผลกระทบกับสังคม
อู่ซ่อมรถของเธอเป็นที่ชื่นชอบของลูกค้าที่เป็นผู้หญิง ซึ่งส่วนใหญ่พบปัญหา เมื่อรถยนต์เสียจะต้องร้องขอสามีหรือลูกชายให้นำรถไปซ่อมให้ และมักถูกผัดผ่อนอยู่เสมอ อู่ซ่อมรถยนต์ของบัลกีส์เป็นพื้นที่ปลอดภัยสำหรับผู้หญิง ลูกค้าสามารถนำรถยนต์มาซ่อมและนั่งรอได้อย่างสบายใจและรู้สึกปลอดภัย เพราะช่างที่ซ่อมรถยนต์เป็นผู้หญิงด้วยกัน
บัลกีส์ตั้งเป้าหมายว่าจะฝึกอบรมบรรดาผู้หญิงให้เป็นช่างซ่อมรถยนต์ และจะเปิดสาขาอู่ซ่อมรถยนต์ของเธอไปทั่วประเทศ และหวังว่าจะสามารถสร้างงานจำนวนมากให้กับผู้หญิงจอร์แดนได้
เธอบอกว่า ไม่เห็นด้วยกับความคิดที่ว่า ผู้หญิงต้องเป็นอิสระอย่างสมบูรณ์จากผู้ชาย แต่มีบางอย่างที่ต้องร่วมมือกัน เช่น การซ่อมเครื่องยนต์ของรถยนต์รุ่นใหม่ๆ ซึ่งเธอต้องอาศัยความเชี่ยวชาญของช่างผู้ชายช่วยถ่ายทอดความรู้ให้
Tags: ซาอุดิอาระเบีย, จอร์แดน, สิทธิสตรี, ผู้หญิงขับรถ