ในวันที่ 8 มีนาคมของทุกปี ทั่วทุกมุมโลกจะมีการเฉลิมฉลองและเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิสตรีและความเท่าเทียมเนื่องในวันสตรีสากล (International Women’s Day) และในปีนี้ก็เช่นกัน ที่ภาคส่วนต่างๆ ในนานาประเทศได้ประกาศจุดยืน ออกแคมเปญ และประท้วงโดยสันติขึ้น โดยเฉพาะในยุโรปที่นอกจากจะแตะเรื่องช่องว่างทางรายได้ระหว่างหญิงและชาย รวมถึงความไม่เชื่อมโยงกันระหว่างรายได้กับค่าครองชีพ ในปีนี้ยังมีการเรียกร้องเรื่องสิทธิการทำแท้งและวาระอื่นๆ ด้วย
อย่างเช่นในฝรั่งเศสที่ปัญหาค่าครองชีพสูงกว่าที่ประชาชนจะแบกไหว ผู้หญิงก็ยังได้รับค่าจ้างน้อยกว่าผู้ชายถึง 26 เปอร์เซนต์ จึงมีการออกแคมเปญรณรงค์ให้แรงงานหญิงที่มีจำนวนกว่าครึ่งของแรงงานทั้งหมดในฝรั่งเศส สวมผ้าปิดปากสีม่วงหลังเวลา 15.40 น. เพื่อแสดงว่าหลังเวลาดังกล่าว พวกเขากำลังทำงานให้แบบฟรีๆ ในส่วนของภาครัฐ เอมมานูเอล มาครง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส ได้จัดตั้งรางวัล Simone Veil Prize of the French Republic ขึ้นในปีนี้ เพื่อมอบรางวัลหนึ่งแสนยูโรให้กับผู้ที่ทำงานเพื่ออุทิศให้กับสิทธิสตรีในระดับโลก โดย Simone Veil คือนักกฎหมายและนักการเมืองสตรีในยุค 70s ที่เคลื่อนไหวเพื่อสิทธิสตรีและเรียกร้องให้การทำแท้งไม่ผิดกฎหมาย
ส่วนในเยอรมนีมีแคมเปญรณรงค์ในประเด็นกฎหมายอาญามาตรา 219a ว่าด้วยการทำแท้งที่ถูกกำหนดให้ผิดกฎหมายด้วยเหตุผลเรื่องอาการ Post-abortion syndrome ซึ่งเป็นเหตุผลที่ถูกมองว่าเป็นเพียงโฆษณาชวนเชื่อของฝ่ายอนุรักษ์นิยมสุดโต่ง ทำให้มีการเรียกร้องให้สตรีสามารถเข้าถึงข้อมูลด้านการทำแท้ง และเลิกป้ายตราบาปให้ผู้หญิงที่ตัดสินใจยุติการตั้งครรภ์ รวมถึงแพทย์ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง นำไปสู่การรณรงค์ให้ออกมาเดินขบวนด้วยผ้าปิดปากที่มีสัญลักษณ์ ‘X’ หรือเขียนสัญลักษณ์ดังกล่าวบนแก้ม
นอกจากนั้นยังมีการประกาศจุดยืนของ UN Women ขององค์การสหประชาชาติซึ่งคล้ายคลึงกับของปีก่อนหน้าในธีม “Think equal, build smart, innovate for change” นั่นคือเพิ่มพลังให้กับสตรีในโลกแรงงาน รวมถึงเปิดโอกาสให้สตรีเข้าใจ เข้าถึง และมีส่วนในการพัฒนานวัตกรรมต่างๆ อย่างที่ทราบกันดีว่า มีผู้หญิงจำนวนเพียงน้อยนิดที่ทำงานในวงการวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรม คณิตศาสตร์ และการออกแบบ ส่วนในรัสเซียที่วันสตรีสากลเคยมีการเฉลิมฉลองอย่างยิ่งใหญ่ในยุคโซเวียต วันนี้กลับถูกมองว่าเป็นเพียงวันหยุดราชการเฉลิมฉลองที่ผู้ชายจะซื้อกุหลาบและทิวลิปให้ผู้หญิงรอบตัวพวกเขาเท่านั้น
การเฉลิมฉลองวันสตรีสากลเริ่มขึ้นครั้งแรกเมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 1909 ที่สหรัฐอเมริกา เพื่อเป็นเกียรติแก่ผู้หญิงในโรงงานผ้าที่ออกมาประท้วงเรียกร้องสถานะทางการทำงานที่เท่าเทียม โดยเป็นไปตามปฏิทิน Julian ที่ใช้ในรัสเซียยุคนั้น ก่อนจะเปลี่ยนมาเป็นวันเดียวกันตามปฏิทิน Gregorian โดยสหประชาชาติในปี 1975 ซึ่งปักหมุดให้วันที่ 8 มีนาคมเป็นวันสตรีสากลและมีการรณรงค์อย่างต่อเนื่องนับแต่นั้นมา
ที่มา:
https://www.euronews.com/2019/03/07/how-international-women-s-day-is-being-marked-across-europe
http://www.unwomen.org/en/news/stories/2018/10/announcer-iwd-2019-theme
https://www.france24.com/en/20190307-russians-splurge-flowers-international-womens-day