โลกนี้มีคนอยู่สองแบบ คือคนที่เห็นว่างานแต่งงานนั้นสำคัญ กับคนที่ไม่เห็นอย่างนั้น และในช่วงระบาดของโควิด-19 เรายิ่งได้เห็นภาพนี้ชัดเจน ไม่ว่าจะด้วยเรื่องฤกษ์ยามหรือเรื่องกำหนดการและเงินๆ ทองๆ หลายคู่ที่เลือกจัดงานแต่งงานก็มีราคาที่ต้องจ่าย เช่นกรณีคู่ดาราไทยที่กลายเป็นปั่นป่วนเพราะพบว่าพนักงานเสิร์ฟในงานติดเชื้อโควิด-19 หรือบุคลากรทางการแพทย์ในมาเลเซียกว่า 73 คน ที่ติดโควิด-19 เพราะไปร่วมงานแต่งงานเมื่อช่วงต้นเดือนมีนาคม 

บางคู่ถึงอยากจัดก็จัดไม่ได้ เช่นคู่รักในซานฟรานซิสโกที่สถานที่จัดงานอย่างซิตี้ฮอลขอยกเลิกนัดหมาย ทั้งคู่จึงเปลี่ยนแผนมาจัดงานเล็กๆ ที่บ้าน แต่ก็ยังทำไม่ได้เพราะอยากตกแต่งงานสวยๆ แต่ร้านดอกไม้ก็ปิด หลายสิ่งติดขัดไปหมด ในที่สุดแผนการจึงต้องล้มเลิก

แน่นอนว่าระหว่างนี้มีหลายคู่ที่ตัดสินใจเลื่อนงานแต่งออกไป แต่ก็ยังมีอีกหลายคู่ที่รู้สึกว่างานแต่งของพวกเขานั้นจำเป็นต้องเกิดขึ้นแล้ว จึงพยายามปรับตัวไปตามวิกฤตการณ์ เช่นคู่รักเหล่านี้ ที่มีวิธีในการหลบเลี่ยงโรคระบาดต่างๆ กันไป

แต่งงานแบบมีระยะห่าง

เริ่มกันที่วิธีเว้นระยะห่างอย่างตรงไปตรงมา ก็คือยังคงจัดงานอยู่ แต่ให้แขกและคู่บ่าวสาวยืนห่างๆ กันเข้าไว้ เช่นงานแต่งงานในกรุงโรม ประเทศอิตาลี ที่สถานการณ์โรคระบาดรุนแรงเป็นอันดับต้นๆ แต่คู่บ่าวสาวก็ยังเลือกที่จะจัดงานกันด้านหน้าโบสถ์โดยมีแขกเหรื่อเป็นญาติสนิท ทุกคนยืนแสดงความยินดีกันอยู่ห่างๆ และเข้าไปใกล้ชิดก็เพียงแต่ตอนถ่ายรูปร่วมกันเท่านั้น

ภาพโดย Remo Casilli / Reuter

งานแต่งกลางถนน 

เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมามีคู่แต่งงานในนิวยอร์กที่แต่งงานกลางถนน ขณะที่เพื่อนๆ ยืนอยู่ข้างถนนหรือโผล่หน้าออกมาจากห้องบนตึกเพื่อร่วมแสดงความยินดี เช่นเดียวกัน มีอีกคู่ที่คิดเหมือนกันในแคนาดา

อนาสตาเซีย และโจชัว เดวิส ก็เลือกที่จะจัดงานฉลองแต่งงานกลางถนนมันเสียเลย โดยงานแต่งนี้เกิดขึ้นบนถนนพิตต์ มีโดวส์ ในเมืองบริติช-โคลัมเบีย บ่าวสาวคู่นี้วางแผนงานกันมากว่าครึ่งปี พอถึงช่วงโรคระบาดจึงมีการเปลี่ยนแผนกันเล็กน้อย จากที่จะเชิญแขกมากกว่าร้อยคน ก็เหลือเพียงคนสนิทจำนวน 15 คนเท่านั้น

หลังจากทำพิธีเล็กๆ ในห้องนั่งเล่นที่บ้านฝ่ายชาย เพื่อนๆ ที่ไม่ได้เข้าไปร่วมพิธีในห้องนั่งเล่นก็พากันขับรถมาจอดบริเวณข้างถนน โผล่หน้าออกจากกระจกรถมาแสดงความยินดีหรือไม่ก็อยู่แต่ในบริเวณรถของตัวเอง ทั้งยังพากันเปิดเพลงให้บ่าวสาวได้เต้นรำเปิดฟลอร์กันกลางถนน ก่อนแยกย้ายไม่มีใครได้กอดกัน มีแต่แสดงความยินดีในระยะห่าง 2 เมตร 

สวมมาสก์ระหว่างแต่ง

ขณะที่หลายคู่พบว่าการรักษาระยะห่างในช่วงเวลาแต่งงานนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายๆ พวกเขาจึงเลือกป้องกันตั้งแต่ระดับพื้นฐานที่สุดด้วยการสวมหน้ากากอนามัย เจ้าสาวที่หาเรฟเฟอร์เรนซ์แต่งหน้ากันไว้เพียบก็อาจจะซึมๆ กันหน่อย แต่แน่นอน ความปลอดภัยสำคัญที่สุด

วิธีนี้ทำกันในหลายคู่ และคู่ของ บารา อมาร์นีห์ และอิหมาด ชาราฟ ชาวปาเลสไตน์เป็นอีกคู่แต่งงานที่สื่อให้ความสนใจ ทั้งคู่แต่งงานกันในเมืองเบธเลเฮม เขตเวสต์ แบงค์ —เมืองที่โควิด-19 ระบาดหนักที่สุดในปาเลสไตน์ แต่บ่าวสาวเชื่อว่าชีวิตจำเป็นต้องดำเนินไป และหลังจากออกมางานแต่งงานและถือว่ากลายเป็นผู้มีความเสี่ยงต่อโรคแล้ว ทั้งคู่กล่าวว่าจะใช้เวลากักตัว 14 วัน เป็นเวลาแห่งการฮันนีมูน

ภาพโดย Mussa Quawasma / Reuters

งานแต่งงานออนไลน์

แม้แผนการจะเปลี่ยนไป แต่คู่รักชาวแคนาเดียนที่อาศัยในเม็กซิโก ลูเซีย ซอล และ เอียน คาร์เลฟฟ์ ก็ไม่ลืมที่จะใช้เทคโนโลยีให้เป็นประโยชน์ ทั้งคู่สามารถเชิญแขกกว่า 300 ร้อยคนจากเมืองต่างๆ ทั่วโลกมาเป็นสักขีพยานความรักผ่านโปรแกรม Zoom ซึ่งคึกคักกว่าที่คิดเพราะแขกต่างพูดคุยกันเสียงดัง จนตอนที่จะประกอบพิธีคู่บ่าวสาวต้องหรี่เสียงในโปรแกรมลง 

เอียนแจ้งกำหนดการอย่างง่ายๆ ลงในเฟซบุ๊กส่วนตัวว่าเขาจะแต่งงานในวันรุ่งขึ้นเวลา 5 โมงเย็น เขาเรียกมันว่างาน ‘virtual wedding’ และใครที่สนใจก็เพียงแค่ส่งที่อยู่อีเมลให้เขา เขาจะส่งลิงก์เข้างานไปให้เอง งานแต่งดำเนินไปอย่างเรียบง่าย เพื่อนของพวกเขาบางคนร่วมงานโดยยังสวมชุดนอนอยู่ด้วยซ้ำ

ภาพจากเฟสบุ๊ก Ian Karleff

งานแต่งไดรฟ์-ธรู

อีกหนึ่งงานแต่งที่โลกต้องจำเป็นของคู่รักชาวมาเลเซีย ในกัวลาลัมเปอร์ ที่เวดดิ้งแพลนเนอร์ Dinas Bridal เป็นคนคิดไอเดียเก๋ จัดที่นั่งให้คู่บ่าวสาวแต่งกายเต็มยศนั่งรออยู่กับแบ็คดรอปสีขาวและเซ็ตติ้งเรียบง่าย ก่อนที่แขกจะต้องวนรถเข้ามาแวะเวียนแสดงความยินดี ถ่ายรูป และใส่ซองลงกล่อง เป็นอันเสร็จพิธี วนรถออกได้

Dinas Bridal ได้แชร์ภาพบรรยากาศสวยๆ ในงาน บวกกับความคิดสร้างสรรค์ในการจัดงานทำให้มีคนแชร์ภาพออกไปเป็นจำนวนมาก ไม่แน่ว่าหลายคนอาจได้ไอเดียในการจัดงานของตัวเองบ้างแล้วก็ได้—หากมั่นใจว่าจะยังจัดอยู่

ภาพจากเฟซบุ๊ก Denas Bridal

Tags: ,