กองทัพเรือสหรัฐฯ เสนอเดินแผนใหม่ในเดือนพฤศจิกายน อวดความพร้อมปฏิบัติการป้องปรามและรับมือกำลังทางทะเลของจีน รวมทั้งหยุดยั้งจีนที่กำลังท้าทายความเป็นจ้าวของอเมริกาในย่านอินโด-แปซิฟิก
กองเรือแปซิฟิกกำลังเสนอแผนการซ้อมรบหลายภารกิจพร้อมกันทั่วบริเวณที่กำลังรบทางทะเลของสหรัฐฯ หน่วยนี้รับผิดชอบ นั่นคือ มหาสมุทรแปซิฟิก โดยทุ่มกำลังเข้ามาในแถบทะเลจีนใต้ ใช้เวลาประมาณหนึ่งสัปดาห์ในเดือนพฤศจิกายน
ปรามจีน-รัสเซีย
ยุทธการนี้มีชื่อว่าอะไร ยังไม่มีการเปิดเผย แต่แหล่งข่าวด้านกลาโหมหลายรายเผยกับซีเอ็นเอ็นว่า ปฏิบัติการรอบนี้จะใช้ทั้งเรือรบ เครื่องบินรบ และกองทหาร เพื่อแสดงให้จีนเห็นว่า สหรัฐฯ สามารถตอบโต้การท้าทายได้อย่างรวดเร็วในหลายยุทธภูมิพร้อมๆ กัน
แผนการซึ่งอยู่ระหว่างเสนอขอไฟเขียวจากเพนตากอน ก็คือการส่งเรือและเครื่องบินเข้าไปใกล้ทะเลอาณาเขตของจีนในทะเลจีนใต้และช่องแคบไต้หวัน เพื่อยืนยันเสรีในการเดินเรือในทะเลหลวง
ถ้ากระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ อนุมัติ เรือรบและเครื่องบินรบอเมริกันก็จะเปิดปฏิบัติการในระยะประชิดกับกำลังทางทหารของจีน กระนั้น แหล่งข่าวบอกว่า สหรัฐฯ ไม่ได้มีเจตนาที่จะไปรบกับจีน
อันที่จริง ในช่วงปีที่ผ่านมา สหรัฐฯ ดำเนินยุทธการเสรีในการเดินเรือในทะเลจีนใต้มาโดยตลอด ทั้งๆ ที่จีนประท้วงอยู่เสมอว่าเป็นปฏิบัติการที่ยั่วยุ ถึงกับเคยหวุดหวิดเกิดเหตุกระทบกระทั่งกันกลางทะเลเมื่อสัปดาห์ก่อน
นอกจากมุ่งเป้าปรามจีนที่เล่นบทแข็งกร้าวในการอ้างกรรมสิทธิ์เหนือทะเลจีนใต้แล้ว ปฏิบัติการของกองเรือแปซิฟิกในเดือนพฤศจิกายน อาจครอบคลุมถึงชายฝั่งตะวันตกของอเมริกาใต้ ซึ่งจีนได้เข้าไปลงทุนเพิ่มมากขึ้น ยิ่งกว่านั้น แผนการนี้อาจขยายไปถึงเขตแดนของรัสเซียด้วย
แผนดังกล่าวเป็นผลจากกรอบยุทธศาสตร์ความมั่นคงแห่งชาติฉบับใหม่ของเพนตากอน ซึ่งเน้นรับมือกับการท้าทายทางทหารของจีนกับรัสเซีย
สัมพันธ์ทหารเสื่อมถอย
ในระยะหลัง บรรยากาศของการคุมเชิงกันระหว่างสหรัฐฯ กับจีน ดูจะทวีความเข้มข้น
เมื่อวันจันทร์ที่ 1 ตุลาคม เพนตากอนแถลงว่า เรือพิฆาต Luyang ของจีนบ่ายหน้าเข้าหาเรือพิฆาตติดจรวดนำวิถี USS Decatur ในระยะห่างแค่ 41 เมตร ขณะฝ่ายสหรัฐฯ กำลังดำเนินปฏิบัติการเสรีในการเดินเรือใกล้กับเกาะปะการัง 2 เกาะในหมู่เกาะสแปรตลีย์
ขณะเกิดเหตุ เรือสหรัฐฯ อยู่ห่างจากเกาะปะการังดังกล่าวราว 12 ไมล์ ทะเลอาณาเขตตามกฎหมายระหว่างประเทศนั้นมีระยะ 12 ไมล์จากชายฝั่งของดินแดนอธิปไตย
ในเมื่อจีนอ้างกรรมสิทธิ์เหนือหมู่เกาะนั้นทั้งหมด จีนจึงถือว่าสหรัฐฯ รุกล้ำเขตแดน ดังนั้น เรือจีนจึงปรี่เข้าขับไล่ ทำให้เรือสหรัฐฯ ต้องเบนหัวเรือผละหลบออกไป
เมื่อต้นสัปดาห์ที่แล้ว รัฐบาลจีนยังยกเลิกการเข้าเทียบท่าฮ่องกงของเรือโจมตีสะเทินน้ำสะเทินบก USS Wasp ด้วย หลังจากนั้น กองทัพเรือสหรัฐฯ เผยภาพเรือลำดังกล่าวซ้อมยิงด้วยกระสุนจริงในทะเลจีนใต้
ย้อนไปเมื่อเดือนกันยายน วอชิงตันคว่ำบาตรกองทัพจีนที่สั่งซื้อเครื่องบินรบ Su-35 และจรวดชนิดยิงจากภาคพื้นสู่อากาศ S-400 จากรัสเซีย และในเดือนเดียวกัน ทหารจีน 3,200 นายพร้อมกับอากาศยาน 30 ลำยังเข้าร่วมการซ้อมรบกับกองทัพรัสเซียครั้งใหญ่ที่สุดนับแต่หลังสงครามเย็นด้วย
นี่ยังไม่นับกรณีสหรัฐฯ ขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนหลายรอบเป็นมูลค่ามหาศาล ซึ่งจีนได้ตอบโต้ด้วยมาตรการอย่างเดียวกัน ซึ่งสงครามการค้าทำให้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ถึงกับออกปากว่า ประธานาธิบดีสีจิ้นผิงคงไม่ใช่เพื่อนของเขาเสียแล้ว
‘สำแดงกำลัง’ กระทบการค้า
ปฏิบัติการดังกล่าวจะส่งผลสะเทือนอย่างไร นักวิเคราะห์ตั้งข้อสังเกตว่า สหรัฐฯ จะจัดเลือกตั้งกลางเทอมในวันที่ 6 พฤศจิกายน ถ้ากองเรือแปซิฟิกเดินหน้าแผนนี้ในช่วงนั้น แล้วจีนตอบโต้ นั่นอาจส่งผลต่อคะแนนนิยมของพรรครีพับลิกันของทรัมป์ก็เป็นได้
ขณะเดียวกัน หากความสัมพันธ์ระหว่างประเทศทั้งสองตึงเครียดยิ่งขึ้น การเจรจาหาทางรอมชอมในสงครามการค้าก็อาจยากลำบากเข้าไปใหญ่
ที่มาภาพหน้าแรก: A.J. VAN FREDENBERG / NAVY OFFICE OF INFORMATION / AFP
อ้างอิง:
Tags: สงครามการค้า, กองทัพเรือสหรัฐฯ, กองเรือแปซิฟิก, ทะเลจีนใต้