ผู้เชี่ยวชาญด้านสิทธิมนุษยชนของสหประชาชาติ ได้แสดงความกังวลเป็นอย่างยิ่งต่อการหายตัวไปของ อ็อด ไชยะวง นักเคลื่อนไหวสิทธิมนุษยชนชาวลาวที่เป็นที่รู้จักกันดี ซึ่งหายตัวไปเพียงไม่กี่เดือนหลังจากการเข้าพบผู้รายงานพิเศษของสหประชาชาติในประเทศไทย
พวกเขาเรียกร้องให้รัฐบาลไทยชี้แจงขั้นตอนดำเนินการเพื่อค้นหาอ็อด ไชยะวง ซึ่งได้ขึ้นทะเบียนเป็นผู้ลี้ภัยโดยหน่วยงานผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติแล้ว และยังขอให้รัฐบาลไทยรับรองความปลอดภัยของนักเคลื่อนไหวสิทธิมนุษยชนชาวลาวคนอื่นๆ ที่อาศัยอยู่ในกรุงเทพฯ ด้วย
มีการพบเห็นอ็อดครั้งล่าสุดที่บ้านของเขาในกรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2019 จนกระทั่งวันที่ 2 กันยายน เพื่อนร่วมงานของเขาแจ้งตำรวจว่าอ็อดหายตัวไป โดยทางการไทยไม่ได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับสถานะในปัจจุบันของเขา
อ็อดเป็นอดีตสมาชิกของ ‘ฟรีลาว’ กลุ่มแรงงานลาวอพยพและที่ทำงานสนับสนุนสิทธิมนุษยชนและประชาธิปไตยในสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป. ลาว) ซึ่งตั้งอยู่ในประเทศไทย ผู้ที่ทำงานในกลุ่มฟรีลาว ในกรุงเทพฯ กล่าวว่าพวกเขาถูกจับตาและข่มขู่ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมาโดยเฉพาะอย่างยิ่งกิจกรรมที่พวกเขาวางแผนจะดำเนินการควบคู่ไปกับการประชุมสุดยอดอาเซียนที่กรุงเทพฯ
ในปี 2017 ผู้เชี่ยวชาญของสหประชาชาติแสดงความกังวลกรณีสมาชิกสามคนของกลุ่มถูกตัดสินจำคุกใน สปป. ลาวเป็นเวลา 12 ถึง 20 ปีจากการเข้าร่วมในกิจกรรมที่มีการวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาล สปป. ลาว ในขณะที่อยู่ในประเทศไทย
ฟิลิป อัลสตัน ผู้รายงานพิเศษของสหประชาชาติด้านความยากจนและสิทธิมนุษยชนได้พบกับอ็อดและคณะทำงานด้านสิทธิมนุษยชนลาวคนอื่นๆ ในกรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2562 ก่อนที่เขาจะไปเยือน สปป. ลาว
“หากการหายตัวไปของอ็อดเกิดจากการเข้าพบและร่วมทำงานด้านสิทธิมนุษยชนกับสหประชาชาติ จะถือว่าเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนซึ่งต้องมีการดำเนินการในทันที เพราะทุกคนควรมีสิทธิในการเข้าถึงและการสื่อสารกับสหประชาชาติในด้านสิทธิมนุษยชนได้” อัลสตัน กล่าว
“อ็อด ไชยะวง เป็นผู้เคลื่อนไหวในประเด็นด้านสิทธิมนุษยชน การคอร์รัปชันและปัญหาสิ่งแวดล้อมใน สปป. ลาว ซึ่งเป็นประเทศที่มีประวัติการจับกุมตามอำเภอใจและการบังคับให้สูญหาย” ไมเคิล ฟรอสท์ ผู้รายงานพิเศษของสหประชาชาติ กล่าว
“ผมหวังว่าทางการไทยจะสามารถให้ข้อมูลเกี่ยวกับสถานะของอ็อดได้อย่างรวดเร็ว จนกระทั่งถึงตอนนี้เราไม่สามารถปฏิเสธความเป็นไปได้ที่เขาจะหายตัวไปและมีความเสี่ยงที่จะถูกบังคับให้กลับประเทศที่เขาต้องเผชิญกับภัยคุกคามความปลอดอย่างร้ายแรง“
“ไม่มีใครควรถูกหมายหัว เพียงเพราะการแสดงความไม่เห็นด้วยทางการเมืองตามกฎหมายและมาตรฐานด้านสิทธิมนุษยชนสากล การหายตัวไปของอ็อดเป็นเรื่องที่น่ากังวลอย่างมากและอาจส่งผลกระทบต่อผู้คนให้ไม่กล้าใช้สิทธิเสรีภาพในการแสดงออกซึ่งความคิดเห็น” เดวิด เคย์ ผู้รายงานพิเศษแห่งสหประชาชาติในเรื่องเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นและการแสดงออก กล่าว
ผู้เชี่ยวชาญของสหประชาชาติ ยังได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับกรณีที่คล้ายคลึงกันรวมถึงการบังคับให้สูญหายและการส่งตัวกลับประเทศจากประเทศไทยไปยังเวียดนามของ Truong Duy Nhat, บล็อกเกอร์และนักข่าวชาวเวียดนาม และยังตั้งข้อกังวลเกี่ยวกับการหายตัวไปของนักกิจกรรมทางการเมืองของไทยอย่าง สุรชัย แซ่ด่าน และอิทธิพล สุขแป้น ที่หายตัวไปในเดือนธันวาคม 2561 และมิถุนายน 2559 ขณะที่ลี้ภัยอยู่ใน สปป. ลาว อีกด้วย
ลูซิโอนา ฮาซาน ประธานคณะทำงานด้านการสูญหายหรือถูกบังคับให้สูญหาย กล่าวเสริมว่า “สถานการณ์ที่อ็อดหายไปนั้นน่าตกใจและเจ้าหน้าที่ไทยควรตรวจสอบการหายตัวไปในครั้งนี้และใช้มาตรการที่จำเป็นทั้งหมดเพื่อค้นหาเขา“
นอกจากนี้ เขากล่าวด้วยว่า รัฐบาล สปป. ลาว เองก็ยังไม่ได้ดำเนินการใดๆ ในกรณีการหายตัวไปของ สมบัด สมพร ผู้นำภาคประชาสังคม ซึ่งหายตัวไปในปี 2555 แม้ว่าจะได้ให้คำมั่นสัญญาไว้ก็ตาม
โดยผู้เชี่ยวชาญสหประชาชาติได้แสดงข้อกังวลทั้งหมดนี้ต่อรัฐบาลไทยและ สปป. ลาว
ที่มา:
https://ohchr.org/EN/NewsEvents/Pages/DisplayNews.aspx?NewsID=25087
Tags: ลาว, เวียดนาม, ผู้ลี้ภัย, สิทธิมนุษยชน, ไทย, สหประชาชาติ