สำนักข่าว Newsweek รายงานว่า เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ เผยว่า จากเหตุการณ์สายการบินยูเครนอินเตอร์เนชันแนลแอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ 752 ซึ่งตกนอกกรุงเตะราน ประเทศอิหร่านในวันพุธที่ผ่านมา เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 176 คนนั้น เกิดจากการถูกยิงด้วยขีปนาวุธ ทอร์ M-1 (SA-15) ซึ่งผลิตโดยรัสเซีย จากภาคพื้นดินสู่อากาศโดยกองทัพอิหร่านเอง ซึ่งอาจจะเกิดโดยอุบัติเหตุจากระบบการป้องกันอากาศยาน

นอกจากนี้ในรายงานข่าวของ CBS ยังกล่าวว่า เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ มีความมั่นใจว่าอิหร่านเป็นผู้ยิงเครื่องบินของยูเครนเที่ยวบินที่ 752 โดยอธิบายว่า หน่วยข่าวกรองสหรัฐฯ สามารถตรวจพบสัญญาณการยิงอาวุธจากระบบป้องกันอากาศยานก่อนที่จะเกิดเหตุเครื่องบินตก นอกจากนี้ยังมีรายงานว่าดาวเทียมมีการตรวจพบสัญญาณอินฟราเรดสองดวงบนจอเรดาร์ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นขีปนาวุธ SA-15 ตามมาด้วยการระเบิดอีกครั้งหนึ่งซึ่งเป็นการระเบิดของเครื่องบิน

ซีเอ็นเอ็นยืนยันการรายงานของซีบีเอสและนิวส์วีก และเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ สองคนยังได้บอกกับสำนักข่าวอีกว่ามีความเป็นไปได้สูงมากที่เครื่องบินลำดังกล่าวจะถูกขีปนาวุธต่อต้านอากาศยานของอิหร่านยิงตก

โอเลกสกีดานีลอฟเลขาธิการสภาความมั่นคงและการป้องกันแห่งชาติของประเทศยูเครนเขียนข้อความบนเฟซบุ๊กเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาว่าคณะสอบสวนของยูเครนกำลังพิจารณาความเป็นไปได้หลายประการที่อาจเป็นเหตุทำให้เครื่องบินตกทั้งเหตุจากเครื่องยนต์ระเบิดความผิดปกติทางเทคนิคการโจมตีของผู้ก่อการร้ายการปะทะกันกับยานพาหนะทางอากาศรวมไปถึงการถูกยิง

ในขณะเดียวกันก็มีการเผยแพร่ ภาพแสดงชิ้นส่วนของขีปนาวุธทอร์ M-1 ที่ถูกพบนอกกรุงเตหะรานในโซเชียลมีเดียซึ่งไม่มีการรับรองว่าเป็นภาพจริงหรือไม่

อ้างอิง

https://www.businessinsider.com/ukrainian-flight-752-shot-down-by-anti-aircraft-missile-2020-1

https://www.bbc.com/news/world-middle-east-51055219

https://edition.cnn.com/2020/01/09/politics/is-iran-ukraine-plane/index.html

ภาพ : Wana News Agency/REUTERS

Tags: , ,