หลังอนุสาวรีย์เอ็ดเวิร์ด โคลสตัน (Edward Colston) พ่อค้าทาสและอดีตสมาชิกรัฐสภาคนสำคัญของเมืองบริสตอล ถูกโค่นและโยนทิ้งลงแม่น้ำ สภาเมืองทั่วสหราชอาณาจักรก็เริ่มเผชิญแรงกดดันจากผู้ประท้วงต่อต้านการเหยียดสีผิวและเชื้อชาติ ให้พิจารณาถอดอนุสาวรีย์บุคคลสำคัญที่เกี่ยวข้องกับการค้าทาสอย่างจริงจังเสียที
กลุ่ม ‘Topple the Racists’ ได้เสนอรายชื่ออนุสาวรีย์บุคคลสำคัญที่เกี่ยวข้องกับการค้าทาสมากกว่า 70 รายชื่อ ซึ่งประกอบไปด้วยเซอร์ฟรานซิส แดรก (Sir Francis Drake) นักสำรวจและนักเดินเรือชาวอังกฤษ วิลเลียม แกลดสโตน (William Gladstone) อดีตนายกรัฐมนตรี และ เซอร์โทมัส กาย (Sir Thomas Guy) อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและผู้ก่อตั้งโรงพยาบาลกาย (Guy’s Hospital) ในกรุงลอนดอน ซึ่งผลให้สภาเมืองหลายแห่งในสหราชอาณาจักร โดยเฉพาะสมาชิกสภาเมืองจากพรรคแรงงาน ยอมพิจารณาความเหมาะสมของอนุสาวรีย์เหล่านี้อีกครั้ง
ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา รูปปั้นของโรเบิร์ต มิลิแกน (Robert Miligan) พ่อค้าทาสและผู้ก่อตั้ง West India Dock ท่าเรือค้าทาสที่สำคัญ ได้ถูกผู้ประท้วงแขวนป้ายข้อความ ‘Black Lives Matter’ ก่อนจะถูกโค่นลงมา ขณะที่รูปปั้นของเซอร์วินสตัน เชอร์ชิล (Sir Winston Churchill) ถูกพ่นข้อความ ซึ่งการกระทำดังกล่าว ได้กระตุ้นให้ชาวอังกฤษจำนวนมากหันมาตั้งคำถามกับประวัติศาสตร์ของตนและเผชิญหน้ากับมรดกจากลัทธิล่าอาณานิคม เช่น London Metropolitan University ได้ปลดชื่อพ่อค้าทาสออกจากชื่อคณะ และสหภาพนักศึกษาของ University of Liverpool ยื่นเรื่องของเปลี่ยนชื่อหอพักที่ตั้งตามบุคคลที่มีประวัติเกี่ยวกับการค้าทาส
รวมไปถึง อัลเลด โธมัส (Aled Thomas) ลูกหลานของวีรบุรุษสงครามเซอร์ โธมัส พิคตัน (Sir Thomas Picton) อดีตผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ประจำตรินิแดด (Trinidad) ได้กล่าวสนับสนุนให้ถอดอนุสาวรีย์ของบรรพบุรุษและเสนอให้นำไปเก็บรักษาในพิพิธภัณฑ์ในเมืองคาร์ดิฟแทน นอกจากนี้ เขาได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการศึกษาและการเรียนรู้จากความผิดพลาดของบรรพบุรุษ
“แม้ว่าพวกเราจะเกี่ยวข้องกับตระกูลพิคตัน แต่เราไม่เมินเฉยต่อความโหดร้ายที่เซอร์ โธมัส พิคตัน ได้กระทำไว้ในอดีต อันที่จริง เรารู้สึกละอายใจด้วยซ้ำ ที่ต้องยอมรับว่าเราสืบเชื้อสายมาจากเขา แต่เราก็ไม่อาจเปลี่ยนความจริงที่ว่า ตัวเรามาจากไหนและบรรพบุรุษของเราเป็นใคร หรือแม้กระทั่งเปลี่ยนสิ่งที่เกิดขึ้นไปแล้วในอดีต แต่สิ่งที่เราทำได้ในตอนนี้ คือ เรียนรู้ความผิดพลาดนั้นซะ”
นอกจากนี้ เขายังสนับสนุนให้เกิดการก่อตั้งพิพิธภัณฑ์การค้าทาสแห่งชาติ (National Slavery Museum) เพื่อรวบรวมอนุสาวรีย์บุคคลที่เกี่ยวข้องกับการค้าทาสและบอกเล่าเรื่องราวของพวกเขาให้แก่คนรุ่นหลังสืบต่อไป
ที่มา:
Keir Gravil via REUTERS
Tags: สหราชอาณาจักร, ค้าทาส