ขณะนี้ สหราชอาณาจักรตรวจหาผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาด้วยวิธีเก็บตัวอย่างจากโพรงจมูก ซึ่งสามารถตรวจได้วันละ 8,000 คน แต่รัฐบาลสหราชอาณาจักรให้คำมั่นว่าจะเพิ่มจำนวนการตรวจขึ้นเรื่อยๆ และเป้าหมายต่อไปคือวันละ 25,000 คน เพื่อให้สามารถตรวจคัดกรองได้เร็วและกว้างขวางขึ้น
เพื่อยกระดับการคัดกรองอีกทางหนึ่ง เมื่อวันที่ 25 มีนาคมรัฐบาลสหราชอาณาจักรประกาศว่าได้สั่งซื้อชุดตรวจสอบแอนติบอดีที่ใช้เวลาในการประมวลผลราว 15 นาทีจำนวน 3.5 ล้านชิ้น และกำลังสั่งเพิ่มอีกหลายล้านชิ้น ทั้งนี้ ชุดตรวจดังกล่าวไม่ได้ใช้สำหรับการตรวจว่าร่างกายของบุคคลนั้นมีไวรัสอยู่หรือไม่ แต่ใช้สำหรับตรวจแอนติบอดีในร่างกาย ที่จะแสดงให้เห็นว่าบุคคลนั้นเคยได้รับเชื้อและหายแล้วหรือยัง เพราะหากติดเชื้อแล้วมีความเป็นไปได้สูงว่าร่างกายมีภูมิคุ้มกันต่อเชื้อไวรัสแล้ว ซึ่งเคสที่กลับมาติดเชื้อไวรัสซ้ำอีกครั้ง มีน้อยกรณีมาก
ชุดตรวจแอนติบอดีดังกล่าวมีหน้าตาเหมือนชุดตรวจครรภ์ สามารถตรวจและอ่านค่าที่พบได้ตัวเองที่บ้าน โดยชุดตรวจจะหาค่าแอนติบอดีชนิด IGM และ IGG ในร่างกาย โดยผู้ใช้จะต้องเจาะเลือดปลายนิ้ว นำไปหยดใยเครื่องประมวลผล ก่อนหยดน้ำยาที่สำหรับตรวจลงไปและเครื่องจะประมวลออกมาภายใน 15 นาที
ทั้งนี้ เครื่องตรวจดังกล่าวจะสร้างความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ สำหรับคนทั่วไปพวกเขาจะได้รู้ว่าพวกเขาเคยติดเชื้อดังกล่าวและหายแล้วหรือยัง ซึ่งถ้าเขาเคยได้รับเชื้อและหายแล้ว ร่างกายเขาจะมีภูมิคุ้มกัน และเขาจะสามารถกลับมาใช้ชีวิต ไม่ต้องทำงานที่บ้าน รวมถึงอาจพูดคุยกับคนอื่นโดยไม่ต้องพะวงถึงระยะห่างทางสังคมมากนัก และที่สำคัญชุดตรวจดังกล่าวจะช่วยให้เจ้าหน้าที่ NHS สามารถมั่นใจได้ว่า พวกเขาสามารถกลับไปทำงานได้โดยสบายใจว่าไม่มีเชื้ออยู่ในตัว และจะไม่ผู้แพร่เชื้อให้ผู้ป่วยที่มาเข้ารับการรักษา
ก่อนหน้านี้ แพทย์และพยาบาลซึ่งทำงานในสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติของสหราชอาณาจักรแทบไม่ได้รับการตรวจหาไวรัสเลย ทำให้พวกเขาไม่พอใจมาก เพราะผู้ป่วยและครอบครัวมีความเสี่ยงที่จะติดเชื้อจากพวกเขา นอกจากนี้ ยังมีความเสี่ยงที่พวกเขาจะต้องถูกกักตัว 14 วันโดยไม่จำเป็น ทั้งที่มีผู้ป่วยโรคโควิด-19 มากมายที่ต้องการการดูแล
รวมถึง คริส ฮอปสัน ผู้บริหารกองทุนหลักประกันสุขภาพของสหราขอาณาจักร (NHS) ก็เคยแสดงความกังวลต่อเจ้าหน้าที่ที่ทำงานด่านหน้าว่า การตรวจหาเชื้อมุ่งเน้นไปที่ผู้ป่วยมากกว่าเจ้าหน้าที่ แล้วเมื่อไรกันที่เจ้าหน้าที่หรือคนที่อยู่กับผู้ที่อาจจะมีไวรัสจะได้รับการตรวจ การที่พวกเขาต้องไปกักตัวเองทันทีหลังพบเคส ทำให้การทำงานสะดุดและส่งผลต่อจำนวนผู้ปฏิบัติงานของ NHS ในช่วงเวลาสำคัญยิ่ง
ไม่ใช่เพียงสหราชอาณาจักรเท่านั้น ที่สั่งซื้อเครื่องตรวจดังกล่าว ศ.ชาร์ลอน พีร์ค็อก ผู้อำนวยการกรมโรคติดต่อ กระทรวงสาธารณสุขกล่าวว่า เครื่องตรวจดังกล่าวถูกสั่งซื้อจากหลายประเทศในยุโรป เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงที่อื่นๆ ทุกคนกำลังทดลองใช้เครื่องตรวจนี้อย่างแพร่หลาย รัฐบาลและภาคเอกชนในสหรัฐอเมริกาก็กำลังให้ความสนใจในการพัฒนาเครื่องตรวจดังกล่าว รวมถึงเมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ประเทศสิงคโปร์เองก็ได้พัฒนาเครื่องตรวจรูปแบบนี้เช่นกัน
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ชุดตรวจดังกล่าวกำลังถูกทดสอบว่าสามารถตรวจได้อย่างแม่นยำจริงหรือไม่ และถ้าหากแม่นยำบุคลากรทางการแพทย์จะเป็นผู้ได้รับการตรวจกลุ่มแรก ก่อนที่จะกระจายไปขายทางแอมะซอนและร้านบูทส์ให้ประชาชนทั่วไปได้ซื้อ โดยประมาณราคาอยู่ที่ 1 ปอนด์ต่อชิ้น
“สิ่งที่สำคัญตอนนี้คือการประเมินว่าชุดตรวจหาเชื้อเหล่านี้แม่นยำมากพอที่จะให้คนทั่วไปใช้ได้หรือไม่ ถ้ามันแม่นยำ เราจะหาทางแจกจ่ายให้เร็วที่สุด ถ้าไม่ ก็จะไม่ปล่อยออกไปเลย” คริส วิตตี้ หัวหน้าบุคคลากรทางการแพทย์กล่าว
ตอนนี้ยังไม่มีกำหนดเวลาแน่ชัดว่าชุดทดสอบนี้จะเริ่มใช้ได้จริงเมื่อใด บอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า จะทำให้ชุดตรวจหาเชื้อจากแอนติบอดีใช้งานได้ให้เร็วที่สุด ถ้ามันทำได้จริง เรากำลังทดสอบอยู่
ที่มา:
ภาพจาก: REUTERS/Allison Joyce
Tags: สหราชอาณาจักร, แอนติบอดี, โคโรนาไวรัส, โควิด-19
