ตลอดปี 2018 ที่ผ่านมา ผู้หญิงชาวตุรกี 440 คน ถูกฆ่าโดยสามีของตัวเอง ฟาฮิต ทูนา (Vahit Tuna) ศิลปินชาวตุรกีจึงติดตั้งรองเท้าส้นสูงจำนวน 440 คู่บนตึกสูงกลางกรุงอิสตันบูล เพื่อสะท้อนปัญหาความรุนแรงในครอบครัวที่เกิดขึ้นในตุรกี โดยจะจัดแสดงจนถึงเดือนกุมภาพันธ์ 2020
เหตุที่ศิลปินเลือกรองเท้าส้นสูงมาทำศิลปะจัดวางครั้งนี้ เพราะมันเป็นสัญลักษณ์ของพลังและอิสระเสรีในการใช้ชีวิตของผู้หญิง รองเท้าส้นสูงสำหรับเขาหมายถึงการที่ผู้หญิงออกไปทำงานนอกบ้านและสามารถดูแลตัวเองได้ ไม่จำเป็นต้องตกอยู่ในความดูแลของสามี
ข้อมูลจากองค์การสหประชาชาติระบุว่า ผู้หญิงชาวตุรกีกว่า 40% ต้องเผชิญกับการทำร้ายร่างกายรวมถึงความรุนแรงทางเพศจากคู่รักของตน
เหตุความรุนแรงในครอบครัวกลายเป็นประเด็นใหญ่ที่ชาวตุรกีให้ความสนใจอย่างมากในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา จากกรณีของ เอ็มมีน บูลุต (Emine Bulut) ที่ถูกสามีเก่าแทงเสียชีวิตต่อหน้าลูกสาวของทั้งคู่ เหตุการณ์ยิ่งสะเทือนใจสังคมมากขึ้นเมื่อมีการเผยแพร่วิดีโอในคาเฟ่ที่เกิดเหตุ ที่แม่และลูกสาวร้องไห้ด้วยกันก่อนที่เธอจะเสียชีวิต ทั้งยังมีอีกหนึ่งคดีที่เกิดในเวลาใกล้เคียงกัน เมื่อหญิงนาม ทูบา เออร์โกล (Tuba Erkol) ถูกสามีแทงจนเสียชีวิต เนื่องจากเธอต้องการหย่า เพราะถูกสามีทำร้ายร่างกายมาตลอดชีวิตการแต่งงาน
ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตชาวตุรกีจำนวนมาก เรียกร้องให้รัฐบาลออกมาแก้ไขปัญหานี้อย่างเป็นรูปธรรม แต่ก็มีความคิดเห็นอีกส่วนที่โทษว่าการกระทำของฝ่ายหญิงก็มีส่วนที่ทำให้ฝ่ายชายต้องลงมือฆ่า โดยยังคงมีฝ่ายอนุรักษ์นิยมที่มองว่าสังคมตุรกีกำลังกลายเป็นสังคมเกลียดผู้ชาย (misandry)
การต่อสู้ระหว่างความคิดสองฝั่งในตุรกีดำเนินมาเป็นระยะเวลาหนึ่ง ขณะที่ด้านหนึ่งเรียกร้องให้กฎหมายคุ้มครองผู้หญิงมากขึ้น อีกฝ่ายก็มองว่ากฎหมายเหล่านี้จะลดทอนคุณค่าของสถาบันครอบครัวตามมุมมองของศาสนาอิสลาม
ไม่ว่าความขัดแย้งทางความคิดและอุดมการณ์จะดำเนินไปอย่างไร แต่สิ่งที่ปฏิเสธไม่ได้ก็คือจำนวนผู้ถูกทำร้าย โดยเฉพาะที่ถึงขั้นเสียชีวิต อย่างเช่น บรรดารองเท้าส้นสูงของ Tuna กำลังพยายามตะโกนออกไปให้ชาวโลกรับรู้นั่นเอง
อ้างอิง:
https://ahvalnews.com/femicides/artist-puts-turkeys-domestic-abuse-issue-global-spotlight
https://www.boredpanda.com/440-shoes-in-turkey-memorial-for-women-killed-by-men/
ภาพ: Ozan KOSE / AFP
Tags: สิทธิสตรี, ความรุนแรงในครอบครัว
