TOYOTA ผู้นำแห่งยนตรกรรมระดับโลก
สำหรับผู้ที่ชื่นชอบในยนตรกรรม คงทราบดีว่าบริษัทรถยนต์ที่มีประวัติอันยาวนานมากว่า 90 ปี อย่าง โตโยต้า ไม่เคยหยุดที่จะพัฒนาเทคโนโลยีและดีไซน์ของรถออกมาเพื่อตอบโจทย์การใช้งานอยู่เสมอ รถทุกรุ่นที่ถูกผลิตออกมาจะคำนึงถึงประสิทธิภาพ และความต้องการของผู้ใช้ที่เปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัย โดยยังคงไว้ซึ่งเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยและความใส่ใจในสิ่งแวดล้อม อันเป็นเอกลักษณ์ของโตโยต้าที่ครองใจผู้ใช้เสมอมา เพราะสำหรับโตโยต้า “การเปลี่ยนแปลง คือ การพัฒนาเพื่อสิ่งที่ดียิ่งกว่า”
Toyota C-HR คือหนึ่งในการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของโตโยต้า ที่นำเอารถ SUV พร้อมสุดยอดเทคโนโลยีตามมาตรฐานระดับโลกของโตโยต้า ผสานกับรูปลักษณ์โฉบเฉี่ยวกว่าเดิม จนกลายมาเป็นที่สุดของยนตรกรรมซับคอมแพคเอสยูวี ที่ท้าทายทุกข้อจำกัดการดีไซน์ พร้อมสร้างประสบการณ์การขับขี่ที่ดีขึ้นยิ่งขึ้น จนได้รับความนิยมในหมู่นักขับอย่างรวดเร็ว
วิสัยทัศน์ของการเป็นผู้นำในการออกแบบด้านยนตรกรรมของโตโยต้า ไม่ได้หยุดอยู่แค่นั้น แต่ยังก้าวเข้าสู่ถนนสายแฟชั่น ด้วยการพัฒนารถยนต์ที่มาพร้อมดีไซน์ เมื่อปี 2018 Toyota C-HR ได้ Collaboration กับแบรนด์สปอร์ตแวร์ชื่อดังระดับโลก อย่าง Adidas มาแล้วครั้งหนึ่ง ซึ่งเป็นความร่วมมือก้าวสำคัญที่ฉีกทุกข้อจำกัดของการดีไซน์ ที่ทำให้แฟชั่นสามารถอยู่ร่วมกับรถยนต์ได้อย่างลงตัว
KARL LAGERFELD แฟชั่นดีไซเนอร์ระดับตำนาน
คาร์ล ลาเกอร์เฟลด์ ผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของแบรนด์แฟชั่นระดับโลก ซึ่งมีอีกหนึ่งฉายาว่า King of Collaborations โดยผลงานการคอลแลปที่ผ่านมาล้วนเป็นแบรนด์ระดับท็อปของโลกที่ผู้ชื่นชอบในแฟชั่นทุกคนใฝ่ฝันจะได้ครอบครอง รวมถึงเคยร่วมงานกับแบรนด์แฟชั่นยักษ์ใหญ่ของประเทศไทยอย่าง Jaspal เมื่อปี 2018
พรสวรรค์ทางด้านการออกแบบของคาร์ล ไม่จำกัดอยู่แค่แฟชั่น แต่ยังขยายขอบเขตของความคิดสร้างสรรค์ด้านแฟชั่นไปสู่งานดีไซน์ การถ่ายภาพ การวาดภาพประกอบ และยังเป็นแฟชั่นดีไซเนอร์คนแรกในประวัติศาสตร์วงการแฟชั่น ที่ออกแบบกลิ่นน้ำหอมให้กับ Chole ในปี 1975 อีกด้วย ซึ่ง คาร์ล ได้เคยกล่าวไว้ว่า “แฟชั่น…นั้นไม่ได้ เป็นเพียงแค่เรื่องของเสื้อผ้า แต่มันคือการเปลี่ยนแปลง ที่เกิดขึ้นได้กับทุกสิ่งทุกอย่าง”
การพบกันของสุดยอดครีเอทีฟแห่งวงการรถยนต์และวงการแฟชั่น
ในปี 2020 นี้ TOYOTA C-HR by KARL LAGERFELD คือ การรวมตัวครั้งสำคัญของสองทีมครีเอทีฟที่มีวิสัยทัศน์ตรงกันในเรื่องของการเปลี่ยนแปลงเพื่อสิ่งที่ดียิ่งขึ้น นำไปสู่มิติใหม่ของ TOYOTA C-HR ที่จะถูกยกระดับความโดดเด่นขึ้นไปอีกขั้น
TOYOTA ผู้นำด้านยนตรกรรม และ KARL LAGERFELD ดีไซน์เนอร์ผู้เป็นตำนาน ได้สร้างปรากฏการณ์ใหม่ให้กับวงการรถยนต์และวงการแฟชั่น ด้วยการรวบรวมความเป็นที่สุดแห่งเทคโนโลยีของโตโยต้าและงานแฟชั่นดีไซน์ ถ่ายทอดลงใน TOYOTA C-HR by KARL LAGERFELD ได้อย่างสมบูรณ์แบบ เพื่อความเป็นที่สุดของยนตรกรรมซับคอมแพคเอสยูวี ที่ท้าทายทุกข้อจำกัดการดีไซน์ พร้อมสร้างประสบการณ์การขับขี่ที่ดีขึ้นยิ่งขึ้นไว้ด้วยกันในหนึ่งเดียว
การดีไซน์สไตล์ปารีส (Parisian Rock Chic) ที่มีมากกว่าความสวย แต่เต็มไปด้วยความหมายที่เล่าถึงจิตวิญญาณของที่สุดของยนตรกรรมแห่งปัจจุบัน ที่สะท้อนอนาคต (Embracing the present, Invention the future) จะเปลี่ยนถนนของคุณให้กลายเป็นรันเวย์ ด้วยเอกลักษณ์เฉพาะตัวของการจับคู่สีโทนสีขาวดำผสมผสานการดีไซน์อย่างประณีตลงตัว ทำให้ TOYOTA C-HR ซึ่งที่มีรูปลักษณ์โฉบเฉี่ยวอยู่แล้ว ดูเรียบหรูยิ่งขึ้นกว่าเดิม แต่ในขณะเดียวกันก็ให้ความรู้สึกถึงความทันสมัย ไร้กาลเวลา เปรียบเสมือนงานออกแบบของคาร์ล ที่ยังคงความคลาสสิกและโดดเด่นบนรันเวย์อยู่เสมอ
ดีไซน์ภายนอกตัวรถสร้างความโดดเด่นแบบไม่ซ้ำใครด้วยสีทูโทนขาวดำ โดยมีจุดเด่นคือ หลังคาสีขาวมุกพร้อมชุดตกแต่งหลังคาสีดำ, กระจกมองข้างสีขาวมุก, ไฟตัดหมอกหน้าแบบ LED, ล้ออัลลอย 17 นิ้วสีดำเงา, โลโก้ KARL LAGERFELD บริเวณท้ายรถ, สติ๊กเกอร์สีขาวมุกตกแต่งข้างรถทั้ง 2 ด้านพร้อมโลโก้ KARL LAGERFELD, ชุดสปอยเลอร์กันชนหน้าและหลัง สีขาวมุกพร้อมชุดตกแต่งกันชนสีดำ และชุดสเกิร์ตข้างสีขาวมุก
ภายในห้องโดยสารยังคงคอนเซ็ปต์การตกแต่งสีทูโทนพร้อมโลโก้ KARL LAGERFELD บริเวณคอนโซลด้านหน้าผู้โดยสาร, เบาะหนังเกรดพรีเมียมและวัสดุสังเคราะห์ สไตล์สปอร์ต พร้อมโลโก้ KARL LAGERFELD, สคัฟเพลท C-HR by KARL LAGERFELD บริเวณด้านหน้า และ สคัฟเพลท KARL LAGERFELD บริเวณด้านหลัง
ในส่วนของเครื่องยนต์ TOYOTA C-HR by KARL LAGERFELD ยังคงประสิทธิภาพความแรงที่มาพร้อมระบบความปลอดภัย จากขุมกำลังไฮบริดเครื่องยนต์เบนซิน 2ZR-FXE 4 สูบ แถวเรียง DOHC 16 วาล์ว 1.8 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 98 แรงม้า ที่ 5,200 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 142 นิวตันเมตร ระบบจ่ายน้ำมันหัวฉีดอิเล็กทรอนิกส์ EFI รองรับน้ำมัน E20 ทำงานกับมอเตอร์ไฟฟ้า ให้กำลังสูงสุด 72 แรงม้า ซึ่งเมื่อรวมพละกำลังเครื่องยนต์
แรงดันไฟฟ้าสูงสุด 600 โวลต์ ให้กำลัง 53 กิโลวัตต์ แรงบิดสูงสุด 163 นิวตันเมตร พร้อมแบตเตอรีไฮบริดแบบใหม่ระบายความร้อนได้ดีขึ้น ระบบเกียร์อัตโนมัติ E-CVT พร้อม Shift Lock และระบบดิสก์เบรกอันทรงประสิทธิภาพ
บทสรุปของการ Collaboration จากสองทีมครีเอทีฟที่เต็มไปด้วยศักยภาพ
จากความเชื่อของโตโยต้า “การเปลี่ยนแปลง คือ การพัฒนาเพื่อสิ่งที่ดียิ่งกว่า” และคำกล่าวของคาร์ล ลาเกอเฟลด์ ที่ว่า “แฟชั่น…นั้นไม่ได้ เป็นเพียงแค่เรื่องของเสื้อผ้า แต่มันคือการเปลี่ยนแปลง ที่เกิดขึ้นได้กับทุกสิ่งทุกอย่าง”
ทำให้เกิดความร่วมมือของครีเอทีฟสองแบรนด์ที่มีดีเอ็นเอในการทำงานที่คล้ายกันในความกล้าที่จะเปลี่ยนเพื่อสิ่งที่ดีที่สุด ก่อให้เกิด TOYOTA C-HR by KARL LAGERFELD ยนตรกรรมที่ปฏิวัติทุกการดีไซน์ด้วยการนำเทคโนโลยีอันเป็นที่สุดตามมาตรฐานระดับโลกของโตโยต้าผสมผสานเข้าไว้กับศิลปะการออกแบบทางด้านแฟชั่นที่ไม่เคยล้าสมัยของคาร์ล ลาเกอร์เฟลด์ สะท้อนภาพลักษณ์ของผู้ขับขี่ ซึ่งเป็นคนรุ่นใหม่ที่ไม่ชอบทำอะไรซ้ำใครและมีความกล้าที่จะแตกต่าง
นอกจากนี้ TOYOTA C-HR by KARL LAGERFELD ยังมาพร้อมกับ LIMITED EDITION SET ที่ร่วมออกแบบโดยทีมงานของ KARL LAGERFELD ประกอบไปด้วย พวงกุญแจ หมวก กระเป๋าถือ และกระเป๋าเดินทาง เอกสิทธิพิเศษสำหรับผู้ที่เป็นเจ้าของรถ TOYOTA C-HR by KARL LAGERFELD ที่มีเพียงไม่กี่คนในประเทศไทยที่จะได้ครอบครอง โดยสามารถเป็นเจ้าของความพิเศษในจำนวนจำกัดนี้ ทางช่องทางออนไลน์ ผ่าน Application Toyota Privilege More เท่านั้น
Tags: Toyota, TOYOTA C-HR, KARL LAGERFELD, CHRbyKARLLAGERFELD