TikTok แอปพลิเคชันสัญชาติจีน ซึ่งเป็นแอปที่ให้ผู้ใช้โพสต์วิดีโอสั้นๆ และเป็นที่นิยมแพร่หลายในหมู่วัยรุ่นทั่วโลก ล่าสุดมียอดดาวน์โหลดผ่านแอปสโตร์และเพลย์สโตร์รวมถึง 1.5 พันล้านครั้งแล้ว โดยราว 466.8 ล้านครั้งหรือประมาณ 31% มาจากอินเดีย ส่วนจีนมาเป็นอันดับสอง มียอดดาวน์โหลดอยู่ที่ 173.2 ล้านครั้งหรือ 11.5% ขณะที่สหรัฐอเมริกาเป็นอันดับที่สาม อยู่ที่ 123.8 ล้านครั้ง หรือ 8.2%

ข้อมูลนี้มาจากบริษัทวิจัยตลาด SensorTower ซึ่งพบว่า หากนับเฉพาะยอดดาวน์โหลดในปีนี้ของ TikTok ที่มียอดดาวน์โหลดอยู่ที่ 614 ล้านครั้ง จะกลายเป็นอันดับสามของแอปฯ ประเภทที่ไม่ใช่เกมที่มีผู้ดาวน์โหลดมากที่สุด เป็นรอง WhatsApp และ Facebook Messenger ที่มียอดดาวน์โหลด 707.4 ล้านครั้ง และ 636.2 ล้านครั้ง ตามลำดับ ส่วน Facebook อยู่ที่อันดับสี่ ด้วยยอดดาวน์โหลด 587 ล้านครั้ง และอันดับห้าคือ Instagram  376.2 ล้านครั้ง

ด้านรายได้รวม มีผู้ใช้ทั่วโลกใช้จ่ายเงินในแอป TikTok ถึง 175 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดย 84.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 48.3% ของรายได้ มาจากผู้ใช้ในจีน ตามด้วยผู้ใช้ในสหรัฐอเมริกา 62.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐ  หรือ 35.7% ขณะที่ผู้ใช้ในสหราชอาณาจักรมาเป็นอันดับสาม อยู่ที่ 6.9 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 3.9%

สำหรับ TikTok เป็นแอปพลิเคชันในเครือบริษัท Bytedance เปิดตัวในจีนเมื่อเดือนกันยายน 2016 ก่อนจะทยอยเปิดตัวในตลาดต่างประเทศ ในปีถัดมา

เฉพาะปี 2019 นี้ TikTok เปลี่ยนแปลงหลายอย่าง ล่าสุดเพิ่งทดลองฟีเจอร์โซเชียลคอมเมิร์ซ ให้ผู้ใช้สามารถเพิ่มลิงก์ไปยังเว็บอีคอมเมิร์ซในหน้าโปรไฟล์ เพื่อช่วยให้ครีเอเตอร์สามารถขายของผ่านเว็บได้ และเมื่อเดือนที่ผ่านมา ยังมีการเปิดตัว EduTok ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มอีเลิร์นนิ่งในอินเดีย รวมถึงมีการแบนโฆษณาทางการเมืองในสหภาพยุโรปและสหรัฐอเมริกาด้วย

ก่อนหน้านี้ เมื่อเดือนตุลาคม วุฒิสมาชิกสหรัฐฯ สองคนยื่นคำร้องต่อเจ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรองสหรัฐฯ เพื่อให้ตรวจสอบว่าแอปพลิเคชัน TikTok ของจีนเป็นภัยต่อความมั่นคงหรือไม่ โดยตั้งคำถามต่อการเก็บข้อมูลของผู้ใช้แอปฯ และสงสัยว่าแอปฯ นี้เซ็นเซอร์ตามกฎหมายของจีนจนเป็นการจำกัดสิ่งที่ผู้ใช้ในสหรัฐอเมริกาจะได้เห็นหรือไม่ ผู้บริหารของ TikTok ตอบว่าบริษัทเป็นอิสระจากรัฐบาลจีน เก็บข้อมูลของผู้ใช้ในอเมริกันในสหรัฐฯ และไม่ต้องปฏิบัติตามกฎหมายจีน รวมทั้งไม่เคยถูกรัฐบาลจีนร้องขอให้ถอดเนื้อหาใดๆ และบริษัทจะไม่ทำถ้าถูกร้องขอ

 

ที่มา:

ภาพ: REUTERS/Dado Ruvic/Illustration

Tags: , , ,