ความรักแบบปั๊บปี้เลิฟในวัยเด็ก เพลงผ้าเช็ดหน้า ของไทรอัมส์คิงดอม วิวของเมืองนครพนมในยุคเก่าก่อน และความสัมพันธ์ของคู่แฝดพี่น้องที่ทั้งน่ารัก ลึกซึ้ง และร้าวราน คือองค์ประกอบในตัวอย่างของ เธอกับฉันกับฉัน หนังรักวัยรุ่นเรื่องล่าสุดจากค่าย GDH ที่ขโมยหัวใจหลายคนได้ตั้งแต่แรกดู
อาจเป็นเรื่องบังเอิญที่กระแส Y2K กำลังมาแรงในช่วงนี้ ทำให้หนังที่มีฉากในปี 1999 ซึ่งเป็นปีที่หลายคนเชื่อว่าจะเกิดวิกฤต Y2K นั้นยิ่งน่าดูเข้าไปใหญ่ แต่ถ้าถามเรา เหตุผลแรกที่ชวนให้ตีตั๋วเข้าไปชม คือนี่เป็นหนังเรื่องแรกของผู้กำกับคู่แฝด วรรณแวว และ แวววรรณ หงษ์วิวัฒน์ ที่ผ่านงานกำกับซีรีส์ของนาดาวอย่าง Great Men Academy ภายใต้การโปรดิวซ์ครั้งแรกอีกเช่นกันของผู้กำกับหนังพันล้าน โต้ง-บรรจง ปิสัญธนะกูล
เหตุผลที่สอง คือสองนักแสดงหลัก ใบปอ-ธิติยา จิระพรศิลป์ และโทนี่-อันโทนี่ บุยเซอเรท์ ที่มีเสน่ห์ล้นเหลือตั้งแต่ในตัวอย่างหนัง และทำให้เรามั่นใจได้เลยว่าคู่นี้จะ ‘มาแน่’ ไม่ต่างจากคู่พระนางในหนังจีดีเอชเรื่องก่อน
บ่ายแก่ของวันที่เธอกับฉันกับฉันใกล้เข้าฉายเต็มที เราจึงนัดพบใบปอกับโทนี่ที่ตึกจีดีเอชเพื่อทำความรู้จักกับพวกเขาให้มากขึ้นกัน
ใบปอกับโทนี่
“หนูไม่เคยคิดภาพตัวเองว่าเป็นนักแสดงเลย” ใบปอเล่าด้วยรอยยิ้ม เมื่อเราถามถึงจุดเริ่มต้นของการเป็นนักแสดงของทั้งคู่
“หนูรู้สึกว่าโอกาสในการได้มาทำหายาก พอได้ทำจริงๆ เลยสนุกไปกับมัน เอนจอยให้มากที่สุด จริงๆ ความฝันของหนูตั้งแต่เด็กคือดีไซเนอร์ อยากออกแบบเสื้อผ้า เพราะช่วงประถมหนูชอบวาดรูป ชอบแฟชัน และชอบแต่งตัว แต่ตอนนี้ไม่ชอบวาดรูปแล้ว แต่ยังชอบแต่งตัวอยู่”
โทนี่ก็ไม่ต่างกัน เขาบอกว่านักแสดงคือสิ่งสุดท้ายที่เขาคิดจะเป็น ก่อนหน้านี้ โทนี่ฝันอยากเป็นนักฟุตบอล ก่อนจะจับพลัดจับผลูเข้ามาในวงการบันเทิงได้เพราะเขาคือตัวเลือกสุดท้ายในบท ‘หมาก’ พระเอกของเธอกับฉันกับฉัน
“ตอนแรกผมก็ไม่แน่ใจว่าจะได้หรือเปล่า เพราะเขาต้องการคนอีสาน ลุคของผมก็ไม่ได้เป็นหมากสักเท่าไร แต่เขาบอกว่าที่เลือกผมเพราะผมน่าจะมีเสน่ห์บางอย่างที่ทำให้ตัวละคร Alive (มีชีวิต) มากขึ้น” เด็กหนุ่มเล่า
ส่วนบทคู่แฝดของเรื่อง อย่างที่หลายคนรู้ว่าก่อนหน้านี้ผู้กำกับวรรณแววและแวววรรณอยากได้ฝาแฝดจริงๆ มารับบท ‘ยู’ กับ ‘มี’ แต่สุดท้ายบทนี้ก็ตกเป็นของใบปอที่ต้องแสดงทั้งสองบท เธอยังเป็นนักแสดงคนเดียวที่เอาชนะคู่แฝดทุกคู่ในกระบวนการแคสต์ได้อีกด้วย
“การใช้ฝาแฝดจริงๆ ทำให้ทำงานง่ายขึ้น แต่พอใช้หนูคนเดียวทุกอย่างยากขึ้นหมดเลย ทั้งเรื่องการแสดง การถ่ายทำ มันจะคูณสองหมด แต่ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมเขาเลือกเรา” ใบปอหัวเราะเขิน “มันเหนือฝันของเรามากเลยกับการได้เล่นภาพยนตร์ และยิ่งเป็นค่าย GDH อีก ก็ดีใจที่เขาไว้ใจให้เรามาทำตรงนี้”
เธอกับฉัน(กับฉัน)
ลำพังนักแสดงคนเดียวเล่นบทคู่แฝดก็ว่ายากแล้ว ใบปอ-ในฐานะนักแสดงหน้าใหม่ที่ไม่เคยผ่านงานแสดงมาก่อน-ก็นับว่าท้าทายคูณสอง
สิ่งที่โหดหินที่สุดก็หนีไม่พ้นการแสดงสลับบทบาทกัน
“พอได้ไปออกกองจริงๆ เราต้องแสดงสลับกันแบบปุบปับ หมายความว่าหนูจะต้องมีสติตลอดเวลาและต้องอึดด้วย ในทุกๆ ซีนจะต้องมีแฝดคนในคนหนึ่ง หรือมีสองคน ซึ่งหนูก็ต้องอยู่ On Set ตั้งแต่หกโมงเช้าจนถึงสี่ทุ่ม ถ่ายเดือนหนึ่งแต่หนูรู้สึกนานกว่านั้นมาก”
“ของผมคือการขี่มอเตอร์ไซค์ พายเรือ และพูดอีสานครับ” โทนี่เสริมในมุมของตัวเองบ้าง “สิ่งที่ยากอีกอย่างคือการคีปคาแรกเตอร์ตัวหมาก เพราะเขาต่างจากผมมากๆ อย่างนิสัยที่เป็นคนเข้าหาคนง่าย แต่ผมเวลาเข้าหาใครอาจจะไม่ได้ง่ายเท่าเขา จะมีกำแพงนิดนึง” เด็กหนุ่มยิ้ม
“แล้วใบปอล่ะ ต่างจากยูกับมียังไง” เราถามอีกฝั่ง
“ยูจะเป็นคนที่สดใส ร่าเริง ดีดตลอดเวลา ซึ่งห่างไกลจากตัวหนูมาก หนูไม่ใช่คนหวานๆ จะเหมือนตัวละครมีมากกว่า ที่เป็นคนห้าวๆ คูลๆ อันที่จริง พอได้ลองเป็นทั้งสองคาแรกเตอร์แล้ว หนูค้นพบว่าจริงๆ ตัวหนูเองคือตรงกลางระหว่างสองคนนี้ ถ้าคนที่ยังไม่รู้จักหนูจะมองว่าหนูเหมือนมี แต่พอได้มารู้จักแล้วจริงๆ หนูก็มีความยูอยู่นิดนึง”
ความน่าสนใจอีกอย่างคือการดำเนินเรื่องยุค Y2K ท่ามกลางฉากหลังเป็นกรุงเทพฯ และนครพนม ใบปอเล่าว่าสำหรับเด็กที่เกิดและเติบโตในยุค 2000s อย่างพวกเขา วิธีทำความเข้าใจวัยรุ่นในยุคนั้นได้ง่ายคือการไถ่ถามประสบการณ์ของพ่อแม่
“ป๊าบอกว่าช่วงนั้นต้องไปถอนเงินจากธนาคารมาเก็บไว้ ซื้อของมาตุนจากห้างสรรพสินค้า แต่หนูก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไปทำไม ถ้าสุดท้ายเขาคิดว่าโลกจะแตกอยู่ดี” เธอระเบิดหัวเราะ ก่อนโทนี่จะเสริมต่อว่าตัวเขาเองอินกับแฟชัน สิ่งบันเทิง และวัฒนธรรมป็อปในยุคนั้นอยู่แล้ว การทำให้อินจึงไม่นับว่าเป็นเรื่องยากสำหรับเขา ต้องยกเครดิตให้กับทีมอาร์ตของเรื่องด้วยที่เนรมิตกรุงเทพฯ และนครพนมในยุค Y2K ได้อย่างเนียนตา
ในฐานะคนที่เติบโตมากับยุคนั้น เรายิ้มและพยักหน้ารับคำอย่างไม่ปฏิเสธ
วัยรุ่น Y2K กับวัยรุ่น 2000s
พอเป็นหนังรักครั้งแรกของเด็กๆ เราจึงอดสงสัยไม่ได้ว่าตัวใบปอกับโทนี่ในวัย 18 ปี มองความรักอย่างไร
เด็กสาวนิ่งคิดไปสักพัก ก่อนตอบว่า “ความรักคือความสบายใจของกันและกัน เป็นคนที่คอยส่งเสริมให้เราเป็นคนที่ดีขึ้น หรืออาจจะไม่ต้องดีขึ้น แต่อย่างน้อยก็ไม่ฉุดเราลงไป”
“แต่ก่อนผมเป็นคนที่กลัวความรักมากอะพี่” ฝ่ายชายเล่าบ้าง “ด้วยความที่มันเป็นการให้ใจกับคนคนหนึ่งไป 100% แล้วพอไม่ได้เป็นไปอย่างที่เราคิด บางครั้งก็ผิดหวัง แต่เอาจริงๆ ถ้าเรามีความรักที่ดี ผูกพันกัน ส่งเสริมกันอย่างที่ใบปอบอก มันก็เป็นเรื่องดีนะครับ”
นอกจากเส้นเรื่องรักแรก เธอกับฉันกับฉัน ยังเล่าถึงความสัมพันธ์คู่แฝด ครอบครัว และการรับมือของความผิดหวัง ซึ่งเป็นสิ่งที่วัยรุ่นไม่ว่าจะยุคไหนต้องเจอเป็นธรรมดา
“หนูจะไม่พูดถึงยูกับมีแล้วกันเพราะกลัวสปอยล์ แต่ถ้าหนูผิดหวัง หนูจะเป็นคนที่ยอมรับ อยู่กับมัน และค่อยๆ ก้าวข้ามผ่านไป คือสุดท้ายแล้วถ้าผิดหวังจริงๆ เราก็ทำอะไรไม่ได้ เราต้องอยู่กับตรงนั้น แล้วเดี๋ยวสักวันหนึ่งก็จะดีขึ้นเอง”
“แล้ววัยรุ่นยุคนี้เขาผิดหวังเรื่องอะไรกัน” เราถามต่อ
“สำหรับหนู น่าจะเป็นความผิดหวังเรื่องคน บางคนจะพูดหรือทำอะไรที่เราไม่ได้คาดหวังว่าเขาจะพูดหรือทำแบบนั้นกับเรา เพราะฉะนั้นหนูว่าเราอย่าไปคาดหวังเลยจะดีที่สุด” ใบปอตอบ
“อาจเป็นเพราะว่าหนูเคยคาดหวังกับอะไรมากๆ แล้วผิดหวังน่ะค่ะ ยกตัวอย่างเรื่องมหา’ลัย หนูติดรอบพอร์ตแล้วรอประกาศรอบสัมภาษณ์ ซึ่งจะประกาศเร็วๆ นี้แล้ว หลายคนก็มาบอกหนูว่ายังไงก็ติดอยู่แล้ว แต่ถ้าสุดท้ายไม่ติดขึ้นมาจริงๆ หนูคิดว่าตัวเองจะรับมือกับความผิดหวังตรงนั้นไม่ได้ เพราะฉะนั้นหนูจะไม่คาดหวัง ซึ่งจริงๆ เป็นความกลัวว่าจะผิดหวังมากกว่า หนูเลยเลือกจะไม่คาดหวังเลย”
“รู้สึกว่าการเข้าวงการตั้งแต่เด็กๆ กินเวลาในช่วงชีวิตวัยรุ่นของเราไหม” เราชวนคุย
“เยอะมากเลยครับ” โทนี่ตอบ ก่อนใบปอจะเสริม
“เคยมีฟีลลิ่งอย่างนั้นค่ะ เพราะช่วงนี้เป็นช่วงเวลาที่เหมือนทุกคนกำลังโต ช่วงที่จะได้ค้นหาตัวเอง ช่วงที่จะได้สนุกกับการใช้ชีวิตม.ปลาย เอนจอยกับการใช้เวลา ได้ใช้เวลาอยู่กับเพื่อน ก่อนหน้านี้หนูก็เป็นเด็กม.ปลายโรงเรียนมัธยมโรงเรียนหนึ่ง แต่พอเราได้มาทำงานเราต้องแบ่งเวลาตรงนั้นมาด้วย แน่นอนว่าชีวิตวัยรุ่นของเรามันหายไป
“เมื่อก่อนเราไปเที่ยว ไปคาเฟ่กับเพื่อน แต่พอถึงจุดหนึ่งเพื่อนไม่ค่อยชวนเราไปแล้ว หนูก็นอยด์ตัวเองว่าเราอยากมีเวลาไปตรงนั้นบ้าง แต่หนูรู้สึกว่าการเข้ามาทำงานตรงนี้ ไม่ใช่ทุกคนที่จะเข้ามาได้ เราได้อย่างก็ต้องยอมเสียสละอีกอย่าง เพราะในอนาคตสิ่งที่ต่อยอดจริงๆ มันคืองานตรงนี้ เราไม่ได้รู้สึกเสียใจที่ได้มาทำ เราแฮปปี้ที่ได้ทำค่ะ เพราะฉะนั้น มันก็ไม่มีอะไรน่าเสียดายทั้งนั้น เพราะถือว่าเราได้ทำงานเร็วกว่าคนอื่น ได้ใช้ชีวิตเร็วกว่าคนอื่น”
“สิ่งที่ผมมองว่าเสียดายคือยิ่งเวลาผ่านไป เรายิ่งโตขึ้น มันไม่มีทางกลับไปใช้ชีวิตแบบเด็กได้แล้ว” โทนี่เล่ามุมของตัวเอง “แต่สิ่งที่เราทำได้คือการมองสิ่งที่เราทำอยู่ตรงนี้ในแง่ดี เพราะอย่างที่ใบปอบอก มันไม่ใช่ใครก็ได้ที่จะมีโอกาสทำตรงนี้ เราก็ทำให้ดีที่สุดดีกว่า”
คำว่าดีที่สุดของทั้งคู่ไม่ได้จำกัดอยู่เฉพาะกับการทำงานใน เธอกับฉันกับฉัน แต่ยังหมายความรวมถึงเส้นทางในวงการบันเทิงที่จะเดินต่อไปในอนาคตด้วย
“ผมอยากจะเป็นนักแสดงต่อไป เพราะถึงคนจะชมว่าเก่งแล้ว แต่ผมว่ามันยังไม่ถึงที่สุดของเรา ผมคิดว่าการทำงานนี้คือ Work in Progress เป็นการทำงานที่เราจะพัฒนาไปเรื่อยๆ” โทนี่ตอบยิ้มๆ
“อย่างที่บอกว่า หนูไม่เคยเห็นภาพว่าตัวเองจะเป็นนักแสดง แต่พอได้มาลองทำจริงๆ แล้ว หนูรู้สึกว่าสิ่งสุดท้ายที่หนูคาดหวังกับการเป็นนักแสดงคือหนูอยากให้คนรักตัวละครที่เราเล่น เห็นว่าเราเต็มที่กับการเป็นตัวละครมาก” ใบปอสมทบ
“เช่นหลังจากปล่อยตัวอย่างออกไปมีคนเห็นว่าหนูตั้งใจเล่นยูกับมีให้ต่างกันด้วยการใช้ช่องเสียงที่ต่างกัน เขาเห็นละเอียดถึงขั้นนี้ มันเติมเต็มเรา รู้สึกว่าที่เราเหนื่อยไปนั้นคุ้มแล้ว
“ตั้งแต่วันแรกจนถึงวันสุดท้ายที่ออกกอง เรารู้สึกว่าเราเติบโตไปพร้อมกับตัวละครจริงๆ ทั้งในแง่ตัวเราและในแง่ตัวละคร การทำงานตรงนี้เปลี่ยนชีวิตของหนูไปเลย เพราะก่อนหน้านี้หนูเป็นแค่เด็ก ม.ปลาย คนหนึ่งที่เครียดกับเรื่องเพื่อนหรือคำถามว่าวันนี้จะกินข้าวกับอะไรดี แต่พอได้มาทำงานจริงๆ มันคือรสชาติของการเป็นผู้ใหญ่เลย (หัวเราะ)
“หนูรู้สึกว่าโลกมีอะไรรอเราอยู่เยอะมากๆ แต่สุดท้ายมันก็เป็นแบบทดสอบแหละ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น สิ่งที่เกิดขึ้นแล้วดีเสมอ”
Fact Box
- เธอกับฉันกับฉันเป็นภาพยนตร์ของ ‘จีดีเอช’ ออกฉายเมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2566
- หาก ‘แฟนฉัน’ บอกเล่าเรื่องราวของเด็กยุค 80s โดยใช้นักแสดงเด็กหน้าใหม่ยกเซต ‘เธอกับฉันกับฉัน’ ก็เป็นภาพยนตร์ที่เล่าเรื่องราวของเด็กยุค Y2K ซึ่งรวบรวมป็อปคัลเจอร์ในยุคนั้นอย่าง ‘เกมบอย’ เพลงยุค ‘โดโจ’ หรือการเฝ้ารอฝนดาวตก ‘ลีโอนิดส์’ ช่วงเวลาน้อยครั้งนักที่เด็กจะได้รับอนุญาตให้นอนดึก
- a day ได้รับมอบหมายให้ทำนิตยสาร ‘เธอกับฉันกับฉัน’ ฉบับพิเศษ เป็นของสะสม ชวนให้นึกถึงนิตยสาร ‘เธอกับฉัน’ เมื่อ 2 ทศวรรษก่อน