ไม่น่าเชื่อว่าวันวางจำหน่าย 24k Magic (อ่านว่า ทะเวนตี้โฟร์กะรัตเมจิก) อัลบั้มล่าสุดของ บรูโน มาร์ส นั้นห่างจากอัลบั้มที่แล้วถึง 3 ปี
ที่ไม่น่าเชื่อก็เพราะว่าเอาจริงๆ เราไม่เคยรู้สึกว่าบรูโนหายไปไหนเลย
นับจากชื่อเสียงที่โด่งดังเป็นพลุแตกจากอัลบั้ม Unorthodox Jukebox ที่ปรับสไตล์ดนตรีให้จัดจ้านมากขึ้น (มากๆ) จนอัลบั้มแรก Doo-Wops & Hooligans กลายเป็นเพลงชิวบอสซาฟังสบายไปเลย
อัลบั้มที่สองนี้ก็มีเพลงขายตายอยู่เต็มอัลบั้ม ทั้ง Locked Out of Heaven, Gorilla, Moonshine, When I Was Your Man และ Treasure นำมาซึ่งทัวร์คอนเสิร์ตทั่วโลก รวมถึงโชว์พิเศษช่วงพักครึ่งของการแข่งขัน Super Bowl จนสื่อหลายฉบับและคนฟังหลายคนเรียก บรูโน มาร์ส ว่าเป็นไมเคิล แจ๊กสัน แห่งยุคนี้เลยทีเดียว
และเมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายนที่ผ่านมานี้ บรูโนและผองเพื่อนก็ได้ฤกษ์ปล่อยอัลบั้มใหม่ให้ผู้ฟังได้เชยชม ทั้งดาวน์โหลด สตรีมมิง รวมไปถึงซีดี และแผ่นเสียงไวนิล
เปิดหัวอัลบั้มด้วย 24k Magic เพลงฟังก์ชวนโดดชื่อเดียวกับอัลบั้มที่บรูโนโชว์การร้องแบบกึ่งแร็ป และ Versace on the Floor เพลงรักอาร์แอนด์บีหวานแซ่บ ที่เซตภาพโทนเพลงทั้งหมดในอัลบั้มนี้ได้เป็นอย่างดี
จากซาวด์ดนตรีย้อนยุคของอัลบั้มที่แล้ว 24k Magic พาเราขุดลึกลงไปในความทรงจำมากขึ้นไปอีก ด้วยองค์ประกอบดนตรีและทางคอร์ดที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากศิลปินไอคอนหลากยุคหลายสมัย ไม่ว่าจะเป็น Perm เพลงฮิปฮอปโซลที่ชัดเจนว่าทริบิวต์ให้ เจมส์ บราวน์ / Too Good To Say Goodbye เพลงอกหักว่าที่ซิงเกิลฮิต ที่ฟังแล้วนึกถึงเพลงช้าของวงอย่าง Earth, Wind and Fire / Finesse ที่เหมือนส่วนผสมระหว่าง ไมเคิล แจ๊กสัน และวงบอยแบนด์ยุค 90s อย่าง Backstreet Boys จนแทบจะผายมือตามแบบบอยแบนด์ (ในท่อนฮุกเพลงนี้ เราสามารถร้อง Remember the Time ของ ไมเคิล แจ๊กสัน ซ้อนลงไปได้อย่างแนบเนียนเลยทีเดียว)
ไม่แน่ใจว่าความหลากหลายของสไตล์ดนตรีเป็นจุดแข็งหรือจุดอ่อนของอัลบั้มนี้ เพราะแม้สไตล์ของเพลงจะจัดจ้านและฉ่ำขึ้น แต่กลับทำให้ความเป็น บรูโน มาร์ส คลุมเครือลงเสียอย่างนั้น และพลังอันล้นเหลือในแต่ละเพลงทำให้ผู้ฟังมีอารมณ์ร่วมไปกับเพลงได้ไม่ยาก แต่ในขณะเดียวกันก็อาจสร้างความเหน็ดเหนื่อยจากการฟังต่อกันทั้งอัลบั้มไปด้วย
แต่กระนั้น สิ่งที่โดดเด่นอย่างมากในอัลบั้มนี้คือการออกแบบเสียงประสานที่ชวนให้นึกถึงวงอย่าง Boyz II Men และซาวด์ดนตรีที่อิ่มหนำ จนเชื่อเหลือเกินว่าทุกคนที่ได้ฟังก็อยากจะมีโอกาสฟังทุกเพลงแบบสดๆ ด้วยหูตัวเองสักครั้ง