ปัจจุบันตลาดอสังหาริมทรัพย์ระดับไฮเอนด์ในกรุงเทพฯ มีการแข่งขันค่อนข้างสูง ผู้พัฒนาโครงการมักนำโมเดลต่างประเทศมาใช้ จนอาจทำให้ขาดเอกลักษณ์บางอย่างไป และอาจไม่สอดคล้องกับพื้นที่โดยรอบหรือวิถีชีวิตของคนในชุมชนรอบข้าง

โครงการ เดอะ เรสซิเดนซ์ แอท แมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงเทพฯ (The Residences at Mandarin Oriental, Bangkok) นับเป็นหนึ่งในโครงการระดับไฮเอนด์ที่ให้ความสำคัญกับการอยู่ร่วมกับชุมชน แม้จะเป็นโครงการคอนโดมิเนียมสูง 52 ชั้น ก็ตาม แต่ในทุกรายละเอียดตั้งแต่การออกแบบ การคัดเลือกวัสดุ ต้องผสมกลมกลืนไปกับชุมชนและวิถีชีวิตริมแม่น้ำเจ้าพระยาของผู้คนในย่านเจริญนคร

ด้วยความต้องการเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างชุมชนคุณภาพ ที่สมบูรณ์แบบทั้งคุณภาพการอยู่อาศัย เทคโนโลยีอาคาร และความกลมเกลียวของผู้อยู่อาศัยในแบบชุมชน (เอกลักษณ์สังคมไทย) แต่ก็ยังตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์แบบคนเมืองในปัจจุบันที่ชอบความเป็นส่วนตัว ด้วยจำนวนเพียงแค่ 146 ยูนิต และสะดวกสบายในการช้อปปิ้งและเพียบพร้อมไปด้วยร้านอาหารและคาเฟ่ เพราะเป็นส่วนหนึ่งของไอคอนสยาม

ที่สำคัญได้แมนดาริน โอเรียนเต็ล (Mandarin Oriental) แบรนด์โรงแรมระดับตำนานมาเป็นพาร์ทเนอร์ การันตีเรื่องการบริการและความหรูหราอย่างมีรสนิยมตามมาตรฐานระดับโลก โดยโครงการ เดอะ เรสซิเดนซ์ แอท แมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงเทพฯ นับเป็นโครงการแห่งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเป็นแห่งที่ 7 ของโลก

แรงบันดาลใจจากการเดินทางล่องแม่น้ำเจ้าพระยา

เพื่อให้สมกับเป็นที่สุดของโครงการคอนโดมิเนียมริมแม่น้ำเจ้าพระยา แรงบันดาลใจในการออกแบบตัวอาคาร มาจากการเดินทางล่องแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งเป็นเสมือนเส้นเลือดที่หล่อเลี้ยงชีวิตและช่องทางการค้านับแต่อดีตของกรุงเทพฯ ซึ่งสิ่งที่สร้างความประทับใจจากการล่องแม่น้ำเจ้าพระยาทั้งในช่วงเวลารุ่งอรุณและยามอาทิตย์อัศดง คือประกายอันระยิบระยับของแสงสะท้อนบนผิวน้ำ รูปทรงของบ้านเรือนไทย และสุนทรียภาพของวัฒนธรรมริมน้ำ รวมถึงคุ้งน้ำที่กว้างใหญ่สุดสายตาราวกับเป็นต้นกำเนิดของสรรพชีวิตของแม่น้ำสายนี้

โดยวิถีชีวิตริมน้ำแบบไทยและประกายแสงเงินแสงทองที่ส่องระยิบระยับบนผิวน้ำสื่อถึงความรุ่มรวยนับแต่อดีต ได้หลอมรวมเป็นแรงบันดาลใจในการออกแบบสถาปัตยกรรมของ เดอะ เรสซิเดนซ์ แอท แมนดาริน โอเรียนเต็ล ตั้งแต่การใช้รูปทรงและเฉดสีเหล่านี้ในการออกแบบ โดยเป็นการออกแบบเชิงสัญลักษณ์และมีความเป็นอมตะเหนือกาลเวลา รูปทรงที่บิดโค้งของระเบียงห้องสะท้อนถึงรูปทรงพื้นฐานของแนวคิดการออกแบบ ตกแต่งด้วยกระจกผสานเข้ากับการไล่ระดับโครงสร้างที่ซ้อนเหลื่อมกัน ซึ่งจะก่อให้เกิดแสงตกกระทบในมุมที่แตกต่างในเฉดสีทอง เงิน และทองแดง ที่เป็นเฉดสีในสถาปัตยกรรมไทย ซึ่งผสมกลมกลืนไปกับรูปทรงอาคารสมัยใหม่ได้อย่างลงตัว

ขณะที่การตกแต่งภายในได้ จอยซ์ แวง ดีไซเนอร์ระดับโลกชาวฮ่องกง เจ้าของจอยซ์ แวง สตูดิโอ ที่โดดเด่นด้านการออกแบบตกแต่งให้สอดคล้องกับสภาพแวดล้อมและการสร้างชุมชน โดยเธอมีผลงานเป็นที่ยอมรับทั้งในเอเชีย ยุโรป และสหรัฐอเมริกา

จอยซ์ได้สร้างนิยามใหม่ของชีวิตที่หรูหรา ผ่านการสร้างสรรค์พื้นที่ใช้สอย การจัดระบบแสงสว่าง และการใช้วัสดุตกแต่งที่สอดคล้องกัน เพื่อให้เกิดความเชื่อมโยงของพื้นที่ขนาดใหญ่ในส่วนต่างๆ และไลฟ์สไตล์ระดับไฮเอนด์ ผ่านการเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์และวัสดุประกอบ งานศิลป์โบราณรุ่นลิมิเต็ดเอดิชั่นที่หาได้ยาก และงานฝีมือช่างพื้นบ้านจากหลายแหล่งทั่วโลกโทนสีหลักในการตกแต่งของจอยซ์คือ แซนด์เบจ อลูมิเนียม รอยัลบราวน์ และควอทซ์สโตน เพื่อสื่อถึงประกายอันระยิบระยับของวิถีชีวิตริมแม่น้ำเจ้าพระยา ผสานกับงานศิลป์และงานฝีมือซึ่งมีทั้งประติมากรรม การตกแต่งรายละเอียดบนพื้นห้องด้วยลวดลายพิเศษแบบพระราชวังเฟรเดอริคส์บอร์ก ซึ่งได้แรงบันดาลใจจากพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ธรรมชาติ ประเทศเดนมาร์ก และการปูพื้นด้วยหินอ่อนจากป่าแบล็คฟอร์เรสต์ การใช้วอลล์เปเปอร์ผ้าไหมลายนูนแบบสามมิติ ไปจนถึงการออกแบบองค์ประกอบห้องครัวด้วยแบรนด์ระดับโลก Gaggenau เพื่อมอบดีไซน์ที่หรูหราเป็นพิเศษในทุกพื้นที่ใช้สอย

เอกลักษณ์ความเป็นเอเชียและความสะดวกสบายอย่างมีระดับ

แค่ได้ยินชื่อ แมนดาริน โอเรียนเต็ล (Mandarin Oriental) ก็รับรู้ได้ถึงความเป็นแบรนด์โรงแรมระดับโลกที่มีมาตรฐานการบริการคือที่สุด ยิ่งมาเป็น เดอะ เรสซิเดนซ์ แอท แมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นแห่งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเป็นแห่งที่ 7 ของโลก ก็ยิ่งเป็นสุดยอดโครงการที่การันตีความสะดวกสบายและการบริการระดับมืออาชีพได้เลย

เนื่องจากแมนดาริน โอเรียนเต็ล โฮเต็ล กรุ๊ป เป็นเจ้าของและผู้บริหารโรงแรม รีสอร์ท และเรสซิเดนซ์ที่หรูหราที่สุดในโลก เป็นที่ยอมรับอย่างกว้างขวางในฐานะผู้สร้างสรรค์โครงการอสังหาริมทรัพย์ที่ต้องการมากที่สุดของโลก ที่โดดเด่นด้วยการสร้างความหรูหราอย่างมีเสน่ห์ผ่านบรรยากาศที่นำเอกลักษณ์ของสภาพแวดล้อมโครงการมาสร้างประสบการณ์ให้กับผู้พักอาศัยอย่างไม่รู้ลืม

โดยจะมีพนักงานคอยให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง ครอบคลุมตั้งแต่การต้อนรับ บริการในที่จอดรถ การรักษาความปลอดภัย การบริหารสินทรัพย์ และพนักงานควบคุมการเข้าออกในส่วนเรสซิเดนซ์ ซึ่งพนักงานทุกคนได้รับการฝึกอบรมตามมาตรฐานขั้นสูงของเครือแมนดาริน โอเรียนเต็ล ผู้พักอาศัยยังสามารถจองบริการพิเศษเพิ่มเติมได้ผ่านทางพนักงานต้อนรับ โดยชำระค่าบริการพิเศษเพิ่มเติม อาทิ บริการที่ปรึกษาด้านการช้อปปิ้ง บริการทำความสะอาดห้อง บริการซักรีด หรือผู้ช่วยด้านการท่องเที่ยว เป็นต้น

และที่ขาดไม่ได้คือความเป็นส่วนตัวและความเงียบสงบด้วย เนื่องจากโครงสร้างลิฟต์ในส่วนแกนอาคารมีทั้งลิฟต์โดยสารและลิฟต์สำหรับที่จอดรถของส่วนเรสซิเดนซ์โดยเฉพาะ ซึ่งทำให้ห้องชุดแต่ละยูนิตมีลิฟต์ให้บริการถึง 2 ตัว และแต่ละชั้นจะมีลิฟต์ให้บริการถึง 8 ตัว โดยลิฟต์ทุกตัวจะส่งผู้อยู่อาศัยตรงเข้าห้องชุดได้ทันทีเพื่อมอบความเป็นส่วนตัวและความสะดวกสบายสูงสุด นอกจากนี้ยังมีลิฟต์บริการเสริมสำหรับให้พนักงานสามารถดูแลห้องชุดแต่ละยูนิตได้อย่างรวดเร็ว เพื่อมอบบริการแห่งการพักอาศัยที่หรูหราเหนือระดับตลอดเวลา

ที่สำคัญลูกค้าของโครงการจะได้รับสิทธิ์ใน Residences Elite Programme ของแมนดาริน โอเรียนเต็ลโดยอัตโนมัติ ซึ่งจะได้รับบริการและสิทธิประโยชน์มากมายตลอดเวลาเมื่อพักอาศัยอยู่ในโครงการ และหากเดินทางไปเข้าพักที่โรงแรมในเครือแมนดาริน โอเรียนเต็ล ทั่วโลก จะได้รับสิทธิพิเศษ เช่น การเข้าพักในฐานะแขกวีไอพี การอัพเกรดห้องพัก บริการอาหารเช้าและบริการสัญญาณอินเตอร์เน็ต WiFi ฟรีตลอดการเข้าพัก เป็นต้น

เทียบเท่าที่พักระดับสากล

เดอะ เรสซิเดนซ์ แอท แมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงเทพฯ ผ่านการรังสรรค์อย่างพิถีพิถันเทียบเท่าที่พักระดับสากล เช่น ไฮด์ พาร์ค ในนิวยอร์ก สหรัฐฯ และ ลอนดอน ประเทศอังกฤษ โดยมีความสมบูรณ์แบบในทุกองค์ประกอบ เนื่องจากห้องชุดทั้ง 146 ยูนิตถูกออกแบบหันหน้าสู่แม่น้ำเจ้าพระยา พร้อมระเบียงห้องขวางถึง 12 ตารางเมตรที่ติดตั้งระบบบังแดด และเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งจากแบรนด์ระดับโลก

โดยครัวเป็นแบบบิวท์อินจากแบรนด์ Bulthaup และ Gaggenau ส่วนอ่างเป็นของของ FRANKE และเครื่องใช้ไฟฟ้าจาก Siemens ส่วนภายในห้องน้ำ เลือกใช้อุปกรณ์ระบบน้ำมาตรฐานเดียวกับโรงแรมระดับ 5 ดาว พร้อมอุปกรณ์ติดตั้งจากแบรนด์ Hansgrohe, Waterworks และอ่างอาบน้ำระบบน้ำวน อ่างล้างหน้า ใช้หินธรรมชาติ ในการสกัดให้ออกมาเป็นรูปแบบที่ต้องการ ทำให้ลายในทุกห้องไม่เหมือนกัน เพราะเป็นลายที่เกิดจากธรรมชาติพร้อมชุดสุขภัณฑ์จาก TOTO

ขณะที่ภายใน Master Bedroom ห้องที่เป็นการตกแต่งโดยจอยซ์ แวง จะมีไฮท์ไลท์พิเศษคือบริเวณหัวเตียงจะมีวอลล์เปเปอร์ผ้าไหมระดับพรีเมียม ที่ลวดลายทั้งหมดเกิดจากการปักด้วยมือ เป็นงาน Craftsmanship จากแบรนด์ Fromental แบรนด์หรูจากประเทศอังกฤษ ซึ่งจะมีธีมสีให้เลือกทั้งหมด 3 เฉดสี ที่ล้อไปกับพรม และเฟอร์นิเจอร์ภายในห้องนอนนั้นๆ ด้วย ส่วนบานประตู บานตู้ต่างๆ จะมีการสลักลายเป็นสัญลักษณ์ที่ล้อไปกับโลโก้พัด ของแมนดาริน โอเรียลเต็ลอีกด้วย

ที่มองข้ามไม่ได้คือกระจกหน้าต่างแบบลามิเนทเคลือบ LOW-E ที่สามารถสะท้อนความร้อน ช่วยควบคุมปริมาณความร้อนที่เข้าสู่ภายในอาคารได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ส่งผลให้ภายในห้องเย็นสบาย ลดการทำงานและยืดอายุของระบบปรับอากาศ รวมทั้งประหยัดค่าไฟฟ้า โดยที่ยังให้ความสว่างภายในอย่างเพียงพอ

ด้านพื้นที่ส่วนกลางก็ออกแบบให้มีความรู้สึกเหมือนชุมชน การจัดสรรพื้นที่และการเชื่อมต่อ ที่แยกส่วนใช้งานเป็นสัดส่วน แต่พร้อมเปิดให้เชื่อมถึงกัน โดยโครงการมีสวนสีเขียวกว่า 1,600 ตารางเมตร นับว่าเป็นสัดส่วนพื้นที่สีเขียวต่อจำนวนผู้อยู่อาศัยที่สูง มีสระว่ายน้ำสไตล์ลากูนและสระจากูซซี่อยู่บนชั้น 4 และ 5 พร้อมลานสนามสำหรับการจัดงานเลี้ยงหรือกิจกรรมต่างๆ ห้องเด็กเล่น ห้องเล่นเกม ห้องเซาว์น่า ห้องอบไอน้ำ ห้องสมุด Library และห้อง Trunk Show Room ซึ่งสามารถปรับเป็นห้องจัดงานเปิดตัวสินค้า การนำเสนอผลงาน และกิจกรรมอีเว้นท์ครั้งพิเศษได้ตามโอกาส

รวมทั้งพื้นที่ Garden Loft ที่มีบริการมื้ออาหารโดยการจองล่วงหน้าผ่านทางพนักงานต้อนรับในส่วนเรสซิเดนซ์ได้ โดยเฉพาะที่ชั้น 36 เป็นห้อง Oriental Salon สำหรับใช้เป็นพื้นที่เจรจาธุรกิจหรือการพบปะที่ต้องการความเป็นส่วนตัว และชั้นเดียวกันยังมี Sky Pavilion และห้องจัดเลี้ยงส่วนกลาง

ที่ขาดไม่ได้เลยคือการสร้างคุณภาพชีวิตอย่างยั่งยืนด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัย โดยระบบคุณภาพอากาศภายในโครงการ ใช้สิ่งที่เรียกว่า Energy Recovery Ventilation หรือ ERV ซึ่งเป็นอีกหนึ่งกลไกนวัตกรรมที่เป็นไฮไลท์สำคัญของระบบบ้านอัจฉริยะ โดยระบบนี้จะช่วยให้เกิดการถ่ายเท หมุนเวียนอากาศที่ดีเข้ามาในที่อยู่อาศัย ช่วยเพิ่มปริมาณอ็อกซิเจนในห้องปรับอากาศให้เหมาะสมกับปริมาณผู้ที่อยู่อาศัย อีกทั้งยังช่วยประหยัดพลังงานจากการแลกเปลี่ยนความร้อนและความชื้นระหว่างอากาศภายในและภายนอก ทำให้ระบบปรับอากาศทํางานน้อยลง

นอกจากนี้เพื่อการอยู่อาศัยอย่างมีความสุขก็มีระบบป้องกันเสียงรบกวน ระบบป้องกันอัคคีภัย ระบบเติมอากาศและระบายอากาศประสิทธิภาพสูง เพื่อการหมุนเวียนอากาศที่สดชื่นและมีคุณภาพแก่ผู้ใช้อาคารพร้อมการสร้างระบบเขื่อนป้องกันน้ำท่วม และพื้นที่ส่วนทั้งหมดถูกสร้างให้สูงกว่าระดับควบคุมน้ำท่วมถึง 4 เมตร และมีท่าเทียบเรือส่วนตัวสำหรับผู้ที่ต้องการเดินทางทางแม่น้ำเจ้าพระยาเป็นอีกหนึ่งทางเลือก

เดอะ เรสซิเดนซ์ แอท แมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงเทพฯ นับเป็นโครงการที่พักอาศัยระดับโลก ที่ได้พาทเนอร์ทั้งการบริการ และการออกแบบ โดยนำข้อดีของความเป็นไทยมาผสมผสานในส่วนต่าง ๆ เสมือนเป็นการส่งเสริมเอกลักษณ์ความเป็นไทย เพื่อสร้างชุมชนระดับสูงที่แตกต่างในกรุงเทพฯ

Fact Box

เดอะ เรสซิเดนซ์ แอท แมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงเทพฯ เป็นโครงการห้องชุดพักอาศัยระดับหรูริมแม่น้ำเจ้าพระยาสูง 52 ชั้น มีห้องชุดรวม 146 ยูนิต ได้รับการออกแบบและก่อสร้างตามมาตรฐานสูงสุดของโลก และด้วยทำเลที่ตั้งโครงการที่ดีเลิศ จึงทำให้เดอะ เรสซิเดนซ์ แอท แมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงเทพฯ คือหนึ่งในโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่ดีที่สุดของโลก โครงการตั้งอยู่ในพื้นที่ของอภิมหาโครงการ ดิ ไอคอนสยาม และจะเป็นโครงการที่พักอาศัยแบรนด์ “แมนดาริน โอเรียนเต็ล” แห่งแรกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และแห่งที่ 7 ของโลก ในมาตรฐานที่เทียบเท่าโครงการที่พักอาศัยที่ดีที่สุดในนิวยอร์ก ลอนดอน โตเกียว หรือ เซี่ยงไฮ้ ได้รับการออกแบบและก่อสร้างด้วยมาตรฐานความหรูหราระดับสูงสุด โดยระบบบริหารจัดการโครงการ พร้อมให้บริการและอำนวยความสะดวกกับผู้พักอาศัยอย่างดีเยี่ยม โครงการ เดอะ เรสซิเดนซ์ แอท แมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงเทพฯ ได้รับรางวัลชนะเลิศในสาขาการออกแบบภายในสำหรับที่อยู่อาศัย (Best Residential Interior Design) จากงานประกาศผลรางวัล South East Asia Property Awards 2016

Tags: , , , ,