บริหารงานสไตล์ทรัมป์
04.31
สไตล์การทำธุรกิจของทรัมป์นั้นจะไม่ใช่คนที่มีอินโนเวชันสูง แต่จะเป็นนักเจรจา เป็นคนที่เก่งในการทำให้สิ่งต่างๆ เกิดขึ้นได้ด้วยการเจรจา ซึ่งเวลาพูดถึงผลงานเขาจะบอกว่า เขาจะมีคนที่เก่งจริงและไว้ใจได้ทำงานให้ตลอดเวลา ด้วยเหตุนี้ทำให้ทรัมป์เป็นคนที่มองคนเก่งและดึงดูดคนได้เก่งมาก มีการสื่อสาร พาสชันให้คนเข้าใจได้ และจะทดลองใช้คนอยู่สองสามครั้ง ถ้าพบว่าเป็นคนเก่งทรัมป์จะแอบกระตุ้นคนคนนั้นให้ทำงานได้ดีมากกว่านั้นอีก ซึ่งนั่นจะทำให้คนที่ได้ฟังเกิดความฮึกเหิม
Branding ส่วนบุคคล
08.08
จุดเด่นที่ทำให้ทรัมป์ประสบความสำเร็จในธุรกิจทุกอย่างได้ อย่างแรกก็คือ แบรนด์ดิง และเป็นแบรนด์ดิงของตัวบุคคลด้วย โดยเขาจะเอาชื่อไปอยู่ในสิ่งที่เขาทำเสมอ (Trump Tower, Trump Organization, Trump World) จนคนติดหู หลายคนคิดว่าการทำ personal branding คือการทำให้คนดัง แต่ทรัมป์บอกว่าการใส่ชื่อเราลงไปนั้นเป็นการบอกมาตรฐานของเรา อย่างเช่นชื่อของทรัมป์นั้นสามารถสื่อถึงความหรูหรา อลังการ ยิ่งใหญ่ และเป็นสิ่งที่คนอื่นทำไม่ได้ ซึ่งไม่ได้ส่งผลแค่ลูกค้า แต่ยังส่งผลต่อส่วนต่างๆ ที่ทำงานด้วยที่ต้องทำให้ได้ดีที่สุดเพื่อเขาคนนี้
คิดการใหญ่
12.28
อย่างที่สองคือสิ่งที่เขาพูดอยู่เสมอคือ Think Big เขาเคยบอกว่าทุกคนคิดการใหญ่ได้หมด และความฝันที่เป็นไปไม่ได้นั้นไม่มี มีแค่ความฝันที่ผิดจังหวะเท่านั้น คุณอาจจะต้องก้าวจากจุดที่เป็น ค่อยๆ ต่อเส้นทางออกไป หลังจากนั้นก็เล่าตัวอย่างเมื่อประมาณปี 2000 ที่เคยลงสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีแล้วถอนตัวออกก่อนจะถึงการโหวต เขาก็บอกว่ามันคือการฝันผิดจังหวะอย่างหนึ่ง มีความอยากทำแต่สิ่งต่างๆ ยังไม่เอื้อ ซึ่งในที่สุดแล้วฝันนั้นของทรัมป์ก็เป็นจริงจนได้
อย่ากลัวความล้มเหลว
17.56
สูตรความสำเร็จข้อที่สามคือ อย่ากลัวความล้มเหลว ทรัมป์พูดไว้ว่าความสำเร็จนั้นมาจากการเรียนรู้ความล้มเหลว ไม่ใช่การท่องจำคำตอบที่ถูก แม้มันจะเป็นประสบการณ์ที่เลวร้ายแต่มันก็พาไปสู่ความสำเร็จ
เรื่องหนึ่งที่เคยทำเป็นสารคดีคือ หลังจากทรัมป์รับงานจากคุณพ่อ เขาก็เร่งทำงานในสเกลใหญ่ขึ้น ทำแบบสุดโต่งจนกลายเป็นหนี้ในยุคฟองสบู่ หลายคนก็คิดว่าทรัมป์คงพังแล้ว แต่วันหนึ่งทรัมป์ก็ชวนเจ้าหนี้ธนาคารเก่า พร้อมเจ้าหน้าที่ธนาคารใหม่มาประชุมกัน แล้วก็เริ่มต้นขายโปรเจกต์ใหม่ที่ใหญ่กว่าเดิม ซึ่งทรัมป์บอกว่า ถ้าคุณไม่ให้ผมทำโปรเจกต์นี้ผมก็จะไม่มีเงินมาคืนคุณ ผมจะไม่โกงคุณ แต่คุณต้องให้โอกาสผมอีกครั้ง พวกเจ้าหนี้ก็งงกันหมด แต่ก็มีธนาคารใหม่ๆ ที่เข้าร่วมในตอนนั้นสนใจโปรเจกต์นี้ จนโน้มน้าวให้เจ้าหนี้เก่ายอมลงทุนด้วยได้
ซึ่งการทำโปรเจกต์ต่างๆ ของทรัมป์นั้นไม่ใช่การลงมือที่มาจากความรู้สึก แต่มาจากข้อมูลที่ทำรีเสิร์ชจนน่าเชื่อถือ อย่างการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมาก็ใช้วิธีรีเสิร์ชข้อมูลจนตัดสินใจออกไปหาเสียงในรัฐที่ยังไม่แน่ใจว่าจะเลือกใคร และสุดท้ายก็ได้รับชัยชนะด้วยคะแนนเสียงจากคนเหล่านั้น
ทำงานให้หนัก
27.32
ทรัมป์บอกว่าความรวยของเขานั้นไม่ใช่สิ่งที่มาง่ายๆ เขายังไม่เคยเห็นใครที่ร่ำรวยจากการทำงานง่ายๆ สักครั้ง มันต้องทำงานหนัก ทำงานละเอียด เขาเคยบอกว่าเวลาจะดีลกับคนที่มาทำงานด้วยเขาจะมองละเอียดมาก และเตรียมงานหนัก ทำทุกอย่างให้คนคนนั้นประทับใจ และเมื่อได้คนมาก็ไม่ใช่ว่าจะทำงานได้ มันก็ต้องมีการแก้ปัญหาไปเรื่อยๆ หากมีคนถามว่าอะไรสำคัญที่สุดในการเป็นผู้ประกอบการ ทรัมป์จะตอบว่าคุณพร้อมที่จะแก้ปัญหาทุกวันไหม ถ้าคุณรู้สึกว่าปัญหาเป็นเรื่องปวดหัว คุณอย่ามาเป็นผู้ประกอบการ คุณต้องมีจิตใจที่แข็งแกร่ง
เล่นไม่เลิก
29.26
สิ่งนี้คือสไตล์ของทรัมป์ที่หลายคนเห็นได้ชัดเจนที่สุด คือเมื่อไหร่ที่คุณทำอะไรสักอย่าง คุณจะต้องอดทน ไม่ยอมแพ้ พลาดก็ทำใหม่เรื่อยๆ เอาทุกวิถีทางจนมันสำเร็จขึ้นมาได้ หากตั้งใจกับอะไรแล้วต้องสู้กับมันไป และสิ่งที่ทำอยู่เสมอคือการเล่นไม่เลิกนั้นไม่ใช่การเล่นท่าเดิม แต่ต้องเปลี่ยนวิธีไปเรื่อยๆ ถ้าคุณทำอะไรออกไปแล้ว สิ่งที่สะท้อนกลับมาไม่ใช่สิ่งที่ต้องการ นั่นคือสิ่งที่คุณทำผิด คุณก็แค่ต้องแก้ใหม่เท่านั้นเอง
ซึ่งทั้งหมดที่ว่ามานั้นคือการที่คุณมีความมุ่งมั่นแน่วแน่ในสิ่งที่คุณต้องการ เมื่อคุณมีความมุ่งมั่นพอ เวลาคุณล้ม คุณจะไม่มองว่ามันเป็นปัญหาใหญ่ คุณจะไม่รู้สึกว่าการทำงานหนักเป็นงาน หากคุณต้องการสิ่งนั้นอย่างแท้จริง
ความสำเร็จของทรัมป์ ความสำเร็จของทีม
32.41
เมื่อไหร่ที่ประสบความสำเร็จเขาจะไม่คิดว่านี่คือความสำเร็จของทรัมป์ แต่เขาสำเร็จได้ด้วยทีมงาน หากคุณอยากประสบความสำเร็จคุณต้องแวดล้อมไปด้วยคนเหล่านี้ และมีนิสัยที่ชอบดู ฟัง และเรียนรู้จากคนอื่นๆ เพราะคุณไม่สามารถทำได้ทุกอย่างบนโลกได้ด้วยตัวคนเดียว หากคุณคิดว่าคุณเก่งกว่าใครทั้งหมด คุณจะเป็นได้แค่คนธรรมดา คนพิเศษเขาสู้กันด้วยทีม
Tags: ธุรกิจ, การเงิน, การลงทุน, Donald Trump, โดนัลด์ ทรัมป์, THE MONEY COACH, money financial, จักร์พงษ์ เมษพันธุ์