“ความสุขที่แท้จริงของชีวิตคืออะไร”

เชื่อว่าหลายคนคงใช้เวลาคิดคำตอบของคำถามสั้นๆ นี้นานกว่าอีกหลายคำถามยาวๆ ที่เคยเจอ เพราะไลฟ์สไตล์ที่ต่างไปทำให้ความสุขในชีวิตของแต่ละคนไม่เหมือนกัน ความสุขของบางคนอาจหมายถึงความสำเร็จ ในขณะที่อีกหลายคนอาจจะหมายถึงการใช้เวลาว่างในแบบที่ตัวเองชอบ และต่อให้เป็นความสุขของคนคนเดียวกัน เมื่อถามคำถามนี้ในช่วงเวลาที่ต่างกัน คำตอบที่ได้ก็อาจไม่เหมือนเดิม

แต่ในความต่างของคำตอบนั้น มีสิ่งหนึ่งที่ตรงกันเมื่อพูดถึงความสุขที่แท้จริง นั่นคือพื้นฐานที่ว่า ความสุขที่ยั่งยืนจะต้องส่งผลกับตัวเราทั้งทางร่างกาย จิตใจ คนรอบข้าง และสิ่งแวดล้อมรอบตัวเรา

ความเข้าใจถึงพื้นฐานของความสุขที่ทุกคนมีร่วมกันจึงเป็นที่มาของนวัตกรรมแบบ Mixed-use Lifestyle โมเดลใหม่ของวงการอสังหาริมทรัพย์จาก แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น (MQDC) ที่แบ่งองค์ประกอบของความสุขออกเป็น 4 เรื่อง หรือ Eternal 4 ถ่ายทอดคอนเซปต์นี้ให้เป็นรูปธรรมผ่าน The Forestias โปรเจ็กต์ที่อยู่อาศัยซึ่งเป็นส่วนผสมที่ลงตัวระหว่างธรรมชาติและสังคม โดยวัดจากเหตุผลสี่ข้อที่เป็นที่มาของความสุขที่ยั่งยืน

เพราะมนุษย์มีความสุขเมื่อได้อยู่กับธรรมชาติ

The Forestias ใช้คอนเซปต์ 50 Shades of Nature มาตอบโจทย์ความสุขในเรื่องความใกล้ชิดกับธรรมชาติ โดยสร้างพื้นที่สีเขียวที่ไม่ได้เป็นแค่สวน แต่เป็นป่าที่มีระบบนิเวศสมบูรณ์และมนุษย์สามารถอยู่อาศัยได้ ทั้งยังแบ่งสัดส่วนพื้นที่ในโครงการให้เป็นผืนป่ามากกว่า 50 เปอร์เซ็นต์

สิ่งที่พิสูจน์ถึงความเป็นผืนป่าอย่างแท้จริง คือพื้นที่ป่าที่นี่แบ่งออกเป็นสี่ระดับ ได้แก่ ป่าทึบ (Deep Forest) ป่าเพื่อผู้อยู่อาศัย (Resident Forest) ป่าแอดเวนเจอร์และศูนย์รวมกิจกรรม (Forest Center) และพาวิลเลี่ยนสไตล์ธรรมชาติ (Forest Pavillion) ที่เป็นศูนย์รวมของพืชพันธุ์มากกว่า 38 สายพันธุ์ และสัตว์กว่า 123 สายพันธุ์ ทั้งยังเปิดโอกาสให้ทุกคนเข้ามาพักผ่อนและตักตวงความสุขจากธรรมชาติบนพื้นที่กว่า 300 ไร่ของโครงการได้

เพราะมนุษย์มีความสุขเมื่อได้อยู่ครอบครัว

ในขณะที่คนเมืองส่วนหนึ่งแยกมาอยู่คนเดียวหรือครอบครัวเดี่ยว แต่ The Forestias มองลึกไปกว่านั้น โดยมองว่าความสุขที่ใกล้ตัวที่สุดก็คือการได้ใช้เวลากับครอบครัว จึงนำเอาแนวคิด Connecting 4 Generations มาใช้ดีไซน์พื้นที่อยู่อาศัยครอบคลุมถึงสี่เจเนอเรชั่น โดยดีไซน์ให้เกิดความสมดุล ทั้งความเป็นส่วนตัวและความสะดวกในการไปมาหาสู่ระหว่างกัน เพื่อให้เกิดความอบอุ่นระหว่างเจเนอเรชั่นและความสุขของทุกคนในครอบครัว

เพราะเมืองที่ดีคือเมืองที่มีพื้นที่สำหรับทำกิจกรรมร่วมกันในครอบครัวทุกเจเนอเรชั่น

เพราะเชื่อว่า Community of Dreams คือชุมชนที่ผู้คนสามารถมีปฏิสัมพันธ์ระหว่างกันและเข้าถึงธรรมชาติแวดล้อมได้อย่างสะดวก The Forestias จึงส่งเสริมให้ผู้อาศัยมีปฏิสัมพันธ์กันทั้งกับผู้คน ธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม เป็นเมืองที่ให้คนได้มาออกกำลังกาย ทั้งเดิน ปั่นจักรยาน มีลานเล่น ทำกิจกรรมนอกบ้าน มีตลาด สวนพักผ่อน และศึกษาธรรมชาติต้นไม้และสัตว์บนผืนป่าเปิด หรือตั้งแคมป์ รวมถึงการนำเอาเทคโนโลยีมาสร้างระบบนิเวศที่เป็นสมาร์ตซิตีอยู่ในตัว อย่างการสร้างเลนสำหรับรถที่ไม่มีคนขับ หรือการสั่งของได้ด้วยโดรน

เพราะความสุขที่แท้จริงต้องเป็นความสุขที่ยั่งยืน

เทคโนโลยีที่ใช้ในโครงการ The Forestias มีพื้นฐานมาจากความเชื่อที่ว่า นวัตกรรมที่เกิดขึ้นไม่ได้เป็นไปเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีเท่านั้น แต่ยังต้องส่งเสริมให้มนุษย์ดูแลรักษาธรรมชาติและเกิดความยั่งยืนในการพัฒนาด้วย จึงได้ผลลัพธ์เป็น Sustainnovation for Well-being คอนเซปต์ในการนำเทคโนโลยีมาใช้ในโครงการ ไม่ว่าจะเป็นระบบ Central Utilities Plant หรือ CUP ที่จะลดจำนวนหน่วยทำความร้อนที่จะเกิดขึ้นในที่อยู่อาศัย ทำให้ลดอุณหภูมิจากภายนอกได้ 2-3 องศา และลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ออกสู่อากาศถึง 30,000 ตันต่อปี หรือระบบการวางผังใต้ดินแบบ Underground Tunnel ที่นำระบบน้ำ ไฟ เครื่องปรับอากาศ ไว้ใต้ดิน เพื่อให้คงความเป็นธรรมชาติในโครงการไว้

นวัตกรรมเพื่อความสุขทั้งหมดนี้ คือสิ่งที่จะเกิดขึ้นใน The Forestias โปรเจ็กต์เมืองแห่งความสุขที่ตั้งอยู่บริเวณบางนา-ตราด กิโลเมตรที่ 5-7 ตามคอนเซปต์ Mixed-use Lifestyle ที่จะแล้วเสร็จภายในปี 2565 ซึ่งจะเป็นทั้งที่อยู่อาศัย พื้นที่รีเทล อาคารสำนักงาน ศูนย์สุขภาพ ร้านอาหาร แหล่งช็อปปิ้ง ศูนย์เรียนรู้ โรงเรียนอนุบาล พื้นที่กิจกรรมสำหรับชุมชน และผืนป่าที่สมบูรณ์ขนาดใหญ่ที่สุดในเอเชีย

และที่สำคัญ พื้นที่สีเขียวนี้น่าจะเป็นพื้นที่ที่ช่วยตอบคำถามว่า “ความสุขที่แท้จริงของชีวิตคืออะไร” ได้อย่างชัดเจนขึ้น

ติดตามรายละเอียดและข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่

Website : www.theforestias.com

Facebook : The Forestias

Instagram : @theforestias

Tags: , , , , ,