เรียกได้ว่าทำงานด้านสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่องเลยทีเดียว กับบริษัท ฟาสต์ รีเทลลิ่ง (Fast Retailing) บริษัทรีเทลยักษ์ใหญ่สัญชาติญี่ปุ่นที่มีแบรนด์หลักอยู่ 6 แบรนด์ ได้แก่ Uniqlo, GU, J Brand, Theory, Comptoir des Cotonniers และ Princesse tam.tam โดยมียูนิโคล่เป็นแบรนด์หลัก มีสาขาอยู่ราว 2,100 แห่งใน 14 ประเทศทั่วโลก
หลังจากที่เพิ่งประกาศว่าจะเปลี่ยนจากการใช้ถุงพลาสติกมาเป็นถุงกระดาษในทุกร้านของบริษัทฟาสต์ รีเทลลิ่งทุกสาขาทั่วโลก โดยจะเริ่มต้นจากร้านยูนิโคล่ในวันที่ 1 กันยายน 2562 ล่าสุดฟาสต์ รีเทลลิ่งก็ได้เปิดเผยนวัตกรรมการพัฒนายีนส์ในกระบวนการฟอกแบบใหม่ที่สามารถลดการใช้น้ำลงได้สูงสุดถึง 99%*
ศูนย์นวัตกรรมยีนส์ของฟาสต์ รีเทลลิ่ง (The Fast Retailing Jeans Innovation Center) ก่อตั้งขึ้นในปี 2559 ที่ลอสแองเจลิส เป็นศูนย์วิจัยและพัฒนาเพื่อพลิกโฉมคุณค่าของยีนส์ซึ่งแบรนด์ในเครือฟาสต์ รีเทลลิ่งแต่ละแบรนด์นำเสนอสู่ลูกค้า โดยมีภารกิจในการสร้างมาตรฐานใหม่ให้แก่ผลิตภัณฑ์ยีนส์ ทั้งในด้านการออกแบบและมูลค่า ตลอดจนความคาดหวังของตลาด ซึ่งกระบวนการฟอกที่แทบจะไม่ต้องใช้น้ำเลยนี้ ถือได้ว่าเป็นหนึ่งในตัวอย่างความสำเร็จตามภารกิจของศูนย์ฯ ที่ยังคงดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างสรรค์ความสมบูรณ์แบบให้กับผ้าเดนิม
มาซาอากิ มัทซึบาระ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการของศูนย์นวัตกรรมยีนส์ของฟาสต์ รีเทลลิ่ง กล่าวว่า “ศูนย์ฯ นี้ถูกสร้างขึ้นจากความปรารถนาของเรา ที่จะสร้างเดนิมที่มอบความยั่งยืนต่อสิ่งแวดล้อมได้มากยิ่งขึ้น เราคิดเรื่องการออกแบบโดยคำนึงถึงความยั่งยืนอยู่เสมอ วิสัยทัศน์ของเราเป็นสิ่งที่จะเกิดขึ้นได้ในอนาคตอันใกล้นี้ ซึ่งการผลิตเดนิมจะกลายเป็นกระบวนการที่สะอาดยิ่งขึ้นและใช้ทรัพยากรน้อยลงด้วย และทางศูนย์ฯ กำลังช่วยทำให้สิ่งนี้เป็นจริงขึ้นเพื่อลูกค้าในทุกๆ หนแห่งทั่วโลก
“เราได้คิดค้นนวัตกรรมขึ้นด้วยเทคโนโลยีที่มีอยู่ในปัจจุบัน ค้นหาวิธีการที่จะให้ผลลัพธ์ที่ดีกว่าแบรนด์อื่นๆ กระทั่งสามารถลดการใช้น้ำในกระบวนการฟอกลงได้สูงสุดถึง 99% ในระดับการผลิตแบบเต็มกำลังของเรา เราไม่ได้ตั้งใจลดปริมาณน้ำที่ใช้ในการฟอกยีนส์ลงแค่เพียง 10% หรือ 20% เพราะเรามุ่งทำให้ถึงขีดสุด เราต้องการลดการใช้น้ำลงเหลือเกือบศูนย์ ซึ่งต้องเป็นระดับนี้เท่านั้นจึงจะเป็นนวัตกรรมอย่างแท้จริง”
โดยนับตั้งแต่ปี 2563 เป็นต้นไป ยีนส์ทุกตัวของแบรนด์ในเครือฟาสต์ รีเทลลิ่งจะถูกผลิตขึ้นด้วยกระบวนการแบบใหม่นี้ ซึ่งเป็นสเกลของการผลิตที่จะเป็นหลักประกันได้ว่าเดนิมที่ยั่งยืนจะเป็นสิ่งที่ผู้บริโภคได้รับ หาซื้อได้ง่าย ในระดับราคาที่อยู่ในช่วงราคาปกติของแต่ละแบรนด์
*อ้างอิงจากการเปรียบเทียบระหว่างกางเกงยีนส์ยูนิโคล่ทรงกระบอกสำหรับผู้ชายที่ผลิตในปี 2550 กับปี 2561
ภาพ: Fast Retailing
Tags: Fast Retailing, นวัตกรรม, Uniqlo, ยูนิโคล่