The Coffee Academïcs ร้านกาแฟดังจากฮ่องกงที่เปิดพื้นที่ให้คนได้เรียนรู้เรื่องกาแฟ

เดอะ คอฟฟี่ อคาเดมิคส์ (The Coffee Academïcs) เป็นร้านกาแฟชื่อดังจากย่านคอร์สเวย์เบย์ในฮ่องกง เจ้าของผู้ก่อตั้งร้านกาแฟแห่งนี้เป็นสถาปนิกที่ชอบการดื่มกาแฟ เธอชื่อ เจนนิเฟอร์ ลิว โดยเธอต้องการให้เป็นพื้นที่สำหรับการเรียนรู้และเป็นพื้นที่ทางความคิดสำหรับกลุ่มคนรักกาแฟ

ภายในเวลาไม่กี่ปี The Coffee Academïcs กลายเป็นที่รู้จักของคนฮ่องกงและนักท่องเที่ยว ได้รับการจัดอันดับจาก BuzzFeed ให้เป็นหนึ่งใน ‘25 ร้านกาแฟที่จะต้องไปเห็นก่อนคุณจะตาย’ และในปี 2559 The Telegraph ยกให้เป็นหนึ่งในร้านกาแฟที่ดีที่สุดในโลก และอยู่ในคู่มือแนะนำร้านของมิชลินไกด์ในปี 2560  

โปรไฟล์ดีขนาดนี้ การไปเปิดสาขาต่างประเทศจึงมีความน่าสนใจ อย่างน้อยชาติอื่นๆ ก็ต้องพอจะรู้จัก The Coffee Academïcs กันบ้าง โดยตอนนี้มี 14 สาขาทั่วโลก เช่น ที่ สิงคโปร์ จีน ญี่ปุ่น เกาหลี มาเลเซีย อินโดนีเซีย และเนเธอร์แลนด์ 

ล่าสุด The Coffee Academïcs ได้เปิดสาขาในไทย ที่โครงการ เวลา หลังสวน สินธรวิลเลจ โดยการร่วมมือกับบริษัท อิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น แมเนจเม้นท์ จำกัด ภายใต้การบริหารงานของพอลล์ กาญจนพาสน์ ที่ตัดสินใจเอาร้านกาแฟแบรนด์นี้เข้ามาเพื่อให้คอกาแฟชาวไทยได้ประสบการณ์ที่แปลกใหม่ และได้ลิ้มรสเมล็ดกาแฟคุณภาพดีที่ผ่านการคัดสรรมาเฉพาะ

สำหรับสาขาแรกในไทยการตกแต่งจะดูหรูหราแต่ก็อบอุ่นในคราวเดียวกัน กระจกรอบด้านให้ความโปร่งโล่ง การมีแสงเช้าหรือแสงเย็นที่ส่องเข้ามาจึงเป็นเรื่องที่ดี โต๊ะเก้าอีไม้โทนสีน้ำตาล และมีกลิ่นอายที่นึกถึงความเป็นฮ่องกงจากกระเบื้องโมเสกตรงบาร์กาแฟ 

จากความตั้งใจสู่เมนูกาแฟสุดพิเศษ

จุดเด่นในด้านกาแฟคือการคัดสรรเมล็ดกาแฟอาราบิก้าพิเศษ คุณภาพดีจากไร่กาแฟ 50 แห่งทั่วโลก เช่น เปรู ปานามา เคนยา รวมถึงอินโดนีเซียและเยเมน ผ่านการทดสอบคุณภาพด้วยวิธีการคัปปิ้งอย่างละเอียดและพิถีพิถันจากทีมงานคุณภาพ ซึ่งได้รับการรับรองตามมาตรฐาน Q-greder และจากผู้คั่วกาแฟมืออาชีพ ทำให้กาแฟของทางร้านได้รับคะแนนด้านการเบลนด์กาแฟจาก Coffee Review  90+ คะแนน และคะแนนด้านเมล็ดกาแฟ 83+ คะแนนจากสมาคมกาแฟ

เมนูกาแฟที่เป็นสูตรเฉพาะที่ทางร้านสาขาไทยเป็นผู้คิดขึ้นเรียกว่า “ไทยแลนด์ เบลนด์” โดยเลือกใช้เมล็ดกาแฟจากแหล่งปลูกในเชียงใหม่ ลาวและบราซิล ทำให้ยังคงกลิ่นอายของความเป็น The Coffee Academïcs แต่แทรกด้วยความสดใสและนุ่มนวลในแบบไทยๆ 

สำหรับเมนูกาแฟซิกเนเจอร์ มี 4 ตัว ที่ได้นำความหวานจากธรรมชาติจากประเทศต่างๆ มาใช้ซึ่งทำให้รสชาติของกาแฟมีความเฉพาะตัว เริ่มที่ อะกาเว ( Agave) เมนูลาเต้ที่ใช้ความหวานจากต้นอะกาเวของเม็กซิโก นำผมาสมกับเครื่องเทศของไทยอย่างพริกไทยดำ ทำให้ได้รสชาติหวานหอมปนเผ็ดเล็กน้อย ต่อมาเป็น จาวา (Jawa) เมนูลาเต้มัคคิอาโต้ ที่ใช้น้ำตาลโตนดของอินโดนีเซีย ผสมกลิ่นหอมของใบเตย โอกินาวา (Okinava) คาปูชิโน่ที่ใช้น้ำตาลทรายแดงจากจังหวัดโอกินาวาในประเทศญี่ปุ่น และ  มานูก้า (Manuka) กาแฟลาเต้ที่ใช้น้ำผึ้งมานูก้าแท้จากประเทศนิวซีแลนด์

และที่น่าสนใจคือเมนูกาแฟบางตัวจะเสิร์ฟมาในแก้วไวน์ ทำให้ดูหรูหราพรีเมียม แต่ในความคิดเราว่าน่าจะอยากให้คนดื่มได้กลิ่นกาแฟแบบเต็มๆ มากกว่า 

เมนูอาหารแบบ all day breakfast

นอกจากรสชาติกาแฟที่เป็นเอกลักษณ์ ร้านนี้ยังมีอาหารสไตล์ all day breakfast โดยสาขาในไทยได้มีการปรับรสชาติให้ถูกปากคนไทยมากขึ้น ได้มีการนำเมนูอาหารมาปรับให้ถูกปากคนไทยและยังใช้วัตถุดิบท้องถิ่น เช่น ผัก มะเขือเทศ ดอกไม้ และ เครื่องเทศต่างๆ เนื้อสัตว์พรีเมียม และไข่ออแกร์นิกจากสิรินทร์ ฟาร์ม

เมนูน่าสนใจก็อย่าง Crab & Avocado Salad  สลัดอะโวคาโดราดด้วยน้ำสลัดปูรสชาติเข้มข้น หรือจะเป็น The Academïcs Breakfast ที่จัดเต็มด้วย แฮม ไข่ดาว ไส้หรอก ขนมปัง รับรองว่าจุใจอย่างแน่นอน