ไทยรัน (Thai Run) สตาร์ทอัปผู้ให้บริการเทคโนโลยีด้านการวิ่ง พัฒนารูปแบบค้นหาภาพนักวิ่ง จากเดิมทีต้องหาภาพนักวิ่งจากเบอร์ประจำตัว มาใช้ระบบจดจำใบหน้า และมุ่งสู่การเป็นแพลตฟอร์มกลางระหว่างนักวิ่งและช่างภาพ ช่วยนักวิ่งค้นหารูปที่ถูกใจได้ง่ายและสะดวก และช่างภาพก็สร้างรายได้จากภาพวิ่งได้

รศ.ดร. บุญญฤทธิ์ อุยยานนวาระ ซีอีโอ บริษัท ไทยดอทรัน จำกัด เปิดเผยว่า ที่ผ่านมา การรับสมัครงานวิ่งมีปัญหาต่างๆ มากมาย ตั้งแต่ขั้นตอนการสมัครที่ยุ่งยากซับซ้อนและอาจเกิดข้อผิดพลาดได้ โดยเฉพาะการรับหมายเลขประจำตัวผู้วิ่ง (BIB) ที่มักมีการนำ BIB ไปใช้ในทางที่ผิด เช่น การซื้อขาย BIB ทำให้ไม่สามารถระบุตัวนักวิ่งที่แท้จริงได้

“เราพัฒนาเทคโนโลยีด้านการวิ่งที่เริ่มทำมาตั้งแต่ปี 2016 ใช้ครั้งแรกในงานวิ่ง บางแสน 21 ฮาร์ฟ มาราธอน มีการใช้เทคโนโลยี Face ID ในการรับสมัคร และระบบค้นหาภาพนักวิ่งจากงานจากหมายเลขประจำตัวผู้วิ่ง”

“เดิมทีการรับสมัครนักวิ่งมีขั้นตอนที่ยุ่งยาก ต้องกรอกข้อมูลเยอะ ยืนยันการชำระเงิน ส่งไปส่งมาหลายรอบ อาจเกิดความผิดพลาดในการสมัครวิ่งหรือยืนยันตัวบุคคล เราเลยพัฒนาเทคโนโลยีขึ้นมาเองเพื่อลดขั้นตอนนี้ พร้อมกับช่วยยืนยันตัวนักวิ่งได้ถูกต้องแม่นยำตรงกับที่สมัครมาตอนแรก”

รศ.ดร. บุญญฤทธิ์ บอกว่า ระบบของไทยรันได้พัฒนาและต่อยอดจากเดิม โดยเฉพาะระบบการค้นหาภาพผ่านแพลตฟอร์มของไทยรัน photo.thai.run จากเดิมที่มีแค่การค้นหาภาพโดยใช้หมายเลขประจำตัวผู้วิ่ง (BIB) เพื่อหาภาพที่ถูกใจ เพิ่มเติมระบบ Face Search ที่ค้นหาภาพจากใบหน้า เพียงแค่ดาวโหลดภาพตัวเองใส่เข้าไปในระบบ แล้วระบบจะหาภาพที่ใกล้เคียง ความแม่นยำสูงถึง 95%

“เวลาเราวิ่ง กว่าจะตามหารูปเราจากงานได้ต้องใช้เวลานาน บางครั้งต้องไปที่เพจของช่างภาพ ซึ่งใช้เวลาหลายวันกว่าจะหารูปเราเจอ เราจึงสร้างแพลตฟอร์มที่เป็นตัวกลางระหว่างนักวิ่งและช่างภาพขึ้นมา”

ซีอีโอ ไทยดอทรัน เปิดเผยว่า ตอนนี้งานวิ่งเติบโตมาก โดยเฉพาะในปี 2018 ที่ผ่านมา มีงานวิ่งมากกว่า 1,000 งาน มีช่างภาพโหลดรูปเข้ามาที่ photo.thai.run ถึง 800,000 รูปต่อสัปดาห์ และมีการซื้อขายรูปเกิดขึ้นคิดเป็น 5% หรือ 40,000 รูปต่อสัปดาห์ โดยโมเดลธุรกิจของไทยรันคือ 80% ของราคาขายให้กับช่างภาพ และ 20% เป็นของไทยรัน เพื่อใช้จ่ายสำหรับค่าเซิร์ฟเวอร์และนำไปลงทุนในการพัฒนาเทคโนโลยีต่อไป

ด้านกมล สิริขัน ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท ไทยดอทรัน จำกัด กล่าวถึงการขยายธุรกิจของไทยรันยังกิจกรรมอื่นๆ ที่ไม่ใช่แค่งานวิ่ง โดยมองไว้ที่งานรับปริญญา ซึ่งมองเห็นช่องว่างระหว่างนักศึกษาที่มีเงินจ้างช่างภาพถ่ายรูปเป็นการส่วนตัวกับนักศึกษาที่อาจไม่ได้มีเงินมากนักในการจ้างช่างภาพ โดยจะต้องเป็นช่างภาพที่ได้รับอนุญาติจากมหาวิทยาลัยให้เข้าไปตั้งกล้องตามจุดต่างๆ เพื่อถ่ายรูปได้ และนักศึกษาสามารถซื้อรูปที่ถูกใจในราคาไม่กี่ร้อยบาท

“นอกจากนี้เรามองตลาดต่างประเทศ บ้านใกล้เรือนเคียงอย่างมาเลเซียกับสิงคโปร์ที่มีงานวิ่งเช่นกัน ก็อยากเอาเทคโนโลยีของเราไปนำเสนอเขา และเราก็ยังมองว่า เทคโนโลยีของเราน่าจะใช้ประโยชน์ในส่วนของระบบการรักษาความปลอดภัยตามสนามบินหรือสถานที่สำคัญๆ”

Tags: , , , , , , ,