Internal Affairs
วันนี้ (4 กันยายน 2568) ศุภชัย ใจสมุทร ฝ่ายกฎหมาย พรรคภูมิใจไทย โพสต์ผ่าน Facebook ส่วนตัวระบุว่า ภายหลังจากประธานสภาผู้แทนราษฎรได้บรรจุระเบียบวาระให้มีการเลือกตั้งนายกรัฐมนตรีแล้ว หมายความว่าความพยายามที่จะยื่นยุบสภาฯ อีกได้ยุติลง ซึ่งประเทศก็จะเดินหน้าต่อไปได้เป็นไปตามครรลองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข “ผมว่าหลายท่านเห็นการเมืองของเมืองไทยมาก็จะพบว่าในบางสถานการณ์ ก็สู้กันอย่างเอาเป็นเอาตาย แต่ความจริงที่มีอยู่อย่างหนึ่งก็คือแต่ละฝ่ายที่อยู่คนละข้างกันล้วนแล้วแต่รู้จักคุ้นเคยรักใคร่ เป็นพี่เป็นน้องเป็นเพื่อนกัน บางครั้งเคยอยู่ฝ่ายเดียวกันแล้วสถานการณ์ก็ผลักดันให้ไปอยู่ฝ่ายตรงกันข้าม “ชีวิตการเมืองของผมก็เป็นเช่นนี้ เพราะการต่อสู้ที่ว่านี้ปฏิเสธไม่ได้ว่าคือสงครามช่วงชิงอำนาจ ซึ่งบางคราวก็ชนะบางครั้งก็แพ้ ผู้ใหญ่ที่รักเคารพของผมเคยให้คำแนะนำว่า หากแพ้ก็ให้หมอบให้ราบ รอเวลา และเมื่อชนะก็ไม่ซ้ำเติมฝ่ายที่แพ้ ซึ่งผมก็ยึดถือปฏิบัติแบบนี้มา จบถือว่าจบ ไม่มีอาฆาตหรือคิดแก้แค้นเพราะที่สุดแล้วคนทำงานการเมืองด้วยอุดมการณ์เป้าหมายของเราก็คือประโยชน์สุขของประเทศชาติประชาชน ซึ่งแน่นอนที่สุดประเทศจะเดินหน้าต่อไปได้ก็ด้วยความสามัคคี” ด้วยเหตุนี้จึงตัดสินใจไม่ดำเนินคดีอาญากับ ภูมิธรรม เวชยชัย ผู้ปฏิบัติหน้าที่นายกฯ อีกต่อไปและจะดำเนินการถอนคำร้องทุกข์กล่าวโทษกับพนักงานสอบสวน ขณะเดียวกันยังยกพระราชดำรัสในหลวงรัชกาลที่ 9 ระบุให้มีความสามัคคี ทั้งนี้เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน แถลงข่าวขอให้ทั้งศุภชัยและสุรทิน พิจารณ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปไตยใหม่ ซึ่งแจ้งความภูมิธรรมตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 เรื่องหมิ่นพระมหากษัตริย์ ดำเนินการถอนแจ้งความ พร้อมกับยืนยันว่า ในความเห็นตนเอง ภูมิธรรมมีอำนาจตามกฎหมายที่จะทูลเกล้าฯ พระราชกฤษฎีกายุบสภาฯ […]