“ ตอนที่ทุกคนอยู่บ้าน ฟังเพลงของ T_047 หรือเพลงของใครก็แล้วแต่ พวกเขานอนอยู่ในเรือนจำที่ไม่มีเสียงดนตรีนะครับ แค่อยากจะบอกว่าพวกเรายังสู้ ยังอยู่ด้วยกันภายใต้หลังคาหลังนี้”

     

นี่คือคำกล่าวของ ตูน-ณัฐธีร์ อัครพลธนรักษ์ ศิลปินวง T_047 (ทีศูนย์สี่เจ็ด) หรือวง บ้านข้าง ๆ ที่กล่าวใน งานเทศกาลดนตรี CAT EXPO 7 หลังจากที่เขาได้เชิญแกนนำคณะราษฎร ขึ้นมาร่วมบนเวที ในช่วงท้ายของเพลงชื่อ หลังคา พร้อมกับชู 3 นิ้ว

ไม่บ่อยครั้งนักที่เราจะเห็นศิลปิน หรือผู้มีชื่อเสียงออกมาแสดงความคิดเห็น แสดงจุดยืนทางการเมืองอย่างชัดเจน อย่างที่เขานิยามตัวเองในตอนนี้ว่า ‘พร้อมดับเครื่องชน’ แต่ว่าความกล้าเหล่านี้ล้วนมีราคาที่ต้องจ่าย

“หลายคนบอกว่าออกมาแสดงความเห็น แสดงจุดยืนทางการเมืองไม่ได้ เพราะมันมีราคาที่ต้องจ่าย มันมีอะไรที่ต้องเสีย แต่สุดท้ายถ้าเราไม่ออกมา ประเทศนี้มันก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง และนี่แหละคือราคาที่เราต้องเสียร่วมกัน” ตูน-ณัฐธีร์ ตอบคำถามเมื่อถูกถามถึงราคาที่ต้องแลกระหว่าง ‘อิสระภาพในการแสดงความเห็น’ กับ อาชีพศิลปิน’

The Momentum นั่งจิบกาแฟ สนทนากับตูน-ณัฐธีร์ศิลปิน วง T_047 และเจ้าของบ้านข้างๆ Cafe & Gallery ภายในร้านได้จัดแสดงภาพถ่ายฝีมือศิลปิน ผู้ประกาศขอเป็น หลังคา’ ให้เหล่าผู้ชุมนุมทุกคน

ภาพถ่ายบ้านข้าง ๆ ที่ถ่ายจากมุมเดิม บ้านหลังเดิม องค์ประกอบเดิมทุกรูป แต่ความพิเศษของรูปภาพเหล่านี้คือการมีท้องฟ้า (ที่ไม่ใช่แค่สีฟ้า) เป็นฉากหลังที่เปลี่ยนแปลงเติบโตไปพร้อมกับเขา

 

ทำไมต้อง T_047

T_047 หรือ บ้านข้าง ๆ เริ่มต้นจากการอยากเก็บรูปท้องฟ้าในแต่ละวัน เพื่อสังเกตความเปลี่ยนแปลงของฟ้าที่กว้างใหญ่ แต่วิวหน้าต่างห้องนอนกลับมีบ้านข้าง ๆ มากั้นอยู่เสมอ ไม่ว่าจะถ่ายอย่างไร ถ่ายมุมไหน บ้านหลังนี้ก็ติดเข้าเฟรมมาตลอด จึงเป็นที่มาของภาพถ่ายบ้านข้าง ๆ

 ส่วนที่มาของ T_047 เริ่มต้นจากการสมัคร Instagram แล้วต้องมีชื่อ Username เป็นภาษาอังกฤษ เราก็เลยมาคิดว่าภาษาอังกฤษเวลามันอยู่คู่กับตัวเลขมันดูเท่ดี (ขำ) ดูเป็นแกลลอรี่ ประจวบกับช่วงนั้นอินหนังเรื่อง P-047 ของผู้กำกับคงเดช จาตุรนต์รัศมี ก็เลยนำชื่อมาเปลี่ยนเป็นตัว T ที่หมายถึงตูน แล้วชื่อก็ถูกต่อยอดเป็นงานเพลง เป็นหนังสือ

 

อะไรคือตัวแปรสำคัญที่ทำให้ T_047 ลงจากสเตจมาเดินบนท้องถนน

 ทุกคนมีจุดเดือด มีเป้าหมายของการเปลี่ยนแปลงที่แตกต่างกันออกไป ในช่วงแรกที่คนออกมาไล่คุณประยุทธ์ จันทร์โอชา เราไม่ได้ออกมาขับเคลื่อนทางการเมือง เพราะอยากมองข้ามไปมากกว่าการไล่นายกฯ แต่พอผู้ชุมนุมประกาศ 10 ข้อเรียกร้องปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์ เราจึงออกมาร่วม เพราะต้องการมองไปถึงเรื่องอิสรภาพความไม่เท่าเทียมกันในสังคม

หลายต่อหลายครั้งที่เห็นแกนนำ หรือกลุ่มผู้ชุมนุมถูกจับ แต่ทุกครั้งเรายังรู้สึกว่ามันไกลตัวมาก แต่พอเหตุการณ์นี้มาเกิดกับคนใกล้ตัว มาเกิดกับเพื่อนเรา แอมมี่ the bottom blues ความคิดแม่งก็เปลี่ยนไปหมด กลายเป็นว่าเราเข้าใจคนที่ถูกจับ เข้าใจเพื่อนเขา เข้าใจครอบครัวเขา ก็เลยพูดกับตัวเองว่า

โอเค กูจะพาคนที่เป็น Followers ของกูไปด้วย ประโยคนี้ไม่ได้แปลว่าแฟนคลับ T_047 ทุกคนต้องไปม็อบ เราแค่ออกมาแสดงจุดยืนให้พวกเขาเห็นว่า แม่งมีความอยุติธรรมอยู่ในประเทศนี้ แม้ว่าวงของเราจะไม่ใช่ศิลปินเพื่อชีวิต ไม่ใช่ผู้มีอิทธิพลก็สามารถออกมาเรียกร้องได้ ถ้าคุณมีความเห็นตรงกับเราคุณก็ออกมา

แล้วอะไรคือความเชื่อมโยงระหว่างการเมืองกับเสียงเพลง

สิ่งเหล่านี้ขึ้นอยู่กับมุมมอง บางคนอาจจะรู้สึกว่า ดนตรีไม่มีความสัมพันธ์อะไรกับชีวิตเลย แต่สำหรับผมแล้ว ดนตรีกับชีวิตมันมีความเกี่ยวข้องกันอย่างชัดเจน เพลงบางเพลงส่งผลต่อการดำเนินชีวิต และเพลงบางเพลงสามารถเปลี่ยนความคิดคนได้ด้วยซ้ำ หากมองให้ดีเพลงมักถูกใช้เป็นเครื่องมือทางการเมืองมาโดยตลอด ยกตัวอย่างเพลงชาติ ก็เป็นเพลงการเมืองที่ Propaganda คนไทยมาอย่างยาวนาน

ถ้าการเมืองดี ศิลปะ ดนตรีต้องได้รับการสนับสนุน ซึ่งปัจจุบันประเทศไทยให้ความสำคัญกับสิ่งเหล่านี้น้อยมาก หากรัฐบาลมีการจัดสรรค์งบประมาณมาให้ศิลปินบ้าง ก็จะส่งผลดีในอีกหลายแง่มุม ยกตัวอย่าง รัฐบาลมีนโยบายสนับสนุนการท่องเที่ยวในจังหวัดเชียงใหม่ นโยบายนี้ก็สามารถให้ศิลปินในจังหวัดเชียงใหม่ผลิตผลงานเพลง เพื่อใช้โปรโมตสถานที่ท่องเที่ยวได้

เห็นด้วยไหมที่หลายคนออกมาเรียกร้องให้คนมีชื่อเสียงออกมา Call Out

ทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย ก่อนอื่นศิลปินต้องยอมรับก่อนว่า คุณมีเสียงที่ดังกว่า เสียงที่ทรงพลังมากกว่า แต่เราก็ไม่ได้ต้องการให้ทุกคนออกมาคุกคามศิลปินหรือคนที่มีชื่อเสียง ให้ลุกขึ้นมาพูด ถ้าสุดท้ายแล้วเขาไม่ออกมาไม่ว่าเหตุผลใดก็ตาม คุณก็ต้องยอมรับมัน

 แต่การใช้ความรุนแรง มันเป็นคนละเรื่องกับการแสดงออกทางการเมือง คุณสามารถออกมาพูดได้ว่าไม่เห็นด้วยกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ไม่เห็นด้วยกับการปฏิรูป แต่คุณจะมาบอกว่า เห็นด้วยกับการใช้ความรุนแรงมันไม่ได้ การออกมาต่อต้านการใช้ความรุนแรง ไม่ได้แปลว่าคุณเลือกข้างทางการเมือง  หากคุณยังเมินเฉยต่อความรุนแรงและใช้ชีวิตปกติถ่ายรูปชิค ๆ ต่อไป ใจคุณแม่งก็โหดเหี้ยมดีว่ะ

ถ้าให้ T_047 เลือกภาพท้องฟ้าที่แทนสถานการณ์การเมืองไทยในปัจจุบันจะเป็นท้องฟ้าแบบไหน

อาจจะเป็นท้องฟ้าที่มีเมฆครึ้มหน่อย แต่ในความมืดครึ้มก็ยังมีแสงเล็ก ๆ เล็ดลอดออกมา เราเคยมองและถ่ายรูปท้องฟ้าในลักษณะนี้พร้อมกับให้ความหมายไว้ว่า ต่อให้แม่งจะไร้ความหวังแค่ไหน มันก็ยังมีจุดที่ยังมีความหวังอยู่ แต่ถ้าเรายอมรับความสิ้นหวังเมื่อไหร่ฟ้าก็มืดเลย 

ถึงแม้วันนี้หลายคนอาจรู้สึกว่า แม่งสู้ไม่ได้ว่ะแต่ในขณะเดียวกันก็ยังมีคนที่ต่อสู้อยู่ตลอด เรายังมีความเชื่อว่าหากทุกคนร่วมใจกันต่อสู้ไม่สิ้นหวัง สุดท้ายเมฆดำก้อนนั้นมันจะสลายหายไปและท้องฟ้าก็จะสว่างไสวขึ้นกว่าเดิม

ขยายความประเด็นคอนเสิร์ต CAT EXPO 7 ที่แกนนำกลุ่มคณะราษฎรขึ้นมาร่วมบนเวทีกับ T_047 ให้ฟังหน่อย

    มันเริ่มต้นจากกลุ่มเราที่ชื่อว่า Unmute People  คือกลุ่มสนับสนุน Free speech ที่ไม่ใช่ Hate speech ทุกคนสามารถพูดอะไรก็ได้แสดงออกอะไรก็ได้ ที่ไหนก็ได้ พวกเราก็พร้อมใจกันเอาสีน้ำเงินมาป้ายตัวเอง ป้ายเสื้อ และแอมมี่ก็เป็นคนสาดสีให้กับเรา มันก็จัดหนักเลยจนต้องบอกให้เบามือหน่อย (หัวเราะ)

      หลังสาดสีเสร็จ แอมมี่บอกว่า จะมาให้กำลังใจตอนขึ้นแสดงบนเวทีนะ เราก็โอเค T_047 ก็เข้าไปหลังเวทีเพื่อเตรียมตัวก่อนการแสดง พอใกล้จะถึงเวลาแสดงแอมมี่ก็เดินมาหลังเวทีแล้วบอกว่า มีคนอยากให้กำลังใจ ก็เป็นพวกแกนนำที่เดินมาทักทาย เราก็ เฮ้ย มาได้ไง ช็อค ซึ่งหลายคนมองว่า เป็นการวางแผนล่วงหน้ามาก่อน เราสาบานได้เลยว่า ไม่มีการเตรียมการอะไรทั้งนั้น

พอใกล้ถึงเวลาที่ต้องขึ้นแสดงก็นั่งคุยกันว่า มันมีเพลงสุดท้าย (เพลงหลังคา) ที่เรารู้สึกว่า เวลาเล่นเพลงนี้ทุกครั้งจะได้รับความอบอุ่นอะไรบางอย่างเป็นความรู้สึกที่ดีมาก และมีท่อนหนึ่งที่ปล่อยเงียบเพื่อให้คนดูร้องเพลงด้วยกัน จากนั้นก็เลยชวนแกนนำขึ้นไปบนเวที ตอนแรกรุ้งก็บอกไม่เอาไม่ขึ้น แต่เราก็อธิบายต่อไปว่า ไปยืนเฉย ๆ ไม่ต้องร้องเพลงไม่ต้องปราศรัย ไม่มีการยุยงปลุกปั่น แค่อยากให้ทุกคนขึ้นไปรับความรู้สึกดี ๆ ไปรับคำขอบคุณจากเรา จากคนที่เชื่อเขาในแบบที่เราเชื่อมันก็มีแค่นี้เองแล้วคืนนั้นมันก็ออกมาสวยงามมาก

 

งาน CAT EXPO 7 ไม่จ่ายค่าตัวศิลปินจริงไหม

    ถ้าถามว่า คนที่ได้รับค่าตัวเป็นศูนย์มีจริงไหม ก็มี แต่หลายคนที่ยอมมาเล่น เพราะอย่างน้อยมันมีพื้นที่ในการเล่น มีพื้นที่ขายของ ณ วันหนึ่งมันเคยเป็นแบบนี้มาตลอด แต่พอตอนนี้สปอนเซอร์คุณเข้าเยอะ บัตรคุณขายเยอะ ราคาบัตรเพิ่ม ในขณะที่การจัดการอะไรไม่ค่อยดีขึ้นเท่าไหร่ เราแค่มองว่าคุณสามารถทำให้มันดีขึ้นได้ ทำให้มันแฟร์กับศิลปินได้มากกว่านี้ โอเคว่ามันอาจจะมีเบอร์ใหญ่ที่ต้องราคาสูงหน่อย ซึ่งจริง ๆ มันก็พูดคุยกันได้ ทุกคนมีความสุขกับการที่ไปเจอแฟนเพลง แต่คุณช่วยทำให้มันยุติธรรมหน่อย

บ้านข้าง ๆ มีราคาที่ต้องจ่ายไหม

    สำหรับคอนเสิร์ต CAT EXPO 7 วงเราไม่ได้มีปัญหาตรงนี้ เพราะผ่านการตกลงกันเรียบร้อยแล้ว แต่ในเรื่องภาพรวมก็ถือว่ามี แต่น้อยมาก อาจเพราะ T_047 เป็นวงที่ไม่มีค่าย ไม่มีพันธะอะไรเลย ส่วนแฟนคลับของวงก็เป็นคนรุ่นใหม่ ส่วนมากเห็นด้วยกับการเรียกร้องของคณะราษฎร อาจจะมีบ้างที่แฟนคลับหลายคนรู้สึกผิดหวังในตัวเรา ก็เลยไม่ค่อยเข้าใจว่า ทำไมคนส่วนใหญ่จึงไม่กล้าออกมาแสดงจุดยืนที่ตัวเองต้องการ

      หรือเพราะศิลปินบางคนมีค่าย มีสังกัด ผู้ใหญ่ในค่ายมีความเห็นทางการเมืองที่ตรงข้ามกัน เลยส่งผลให้คนทำเพลงเหล่านี้ ไม่สามารถออกมาเคลื่อนไหวทางการเมืองได้ เราก็แอบคิดว่า แม่งจะอยู่กันแบบนี้จริงหรอวะ มึงเป็นศิลปินนะ แต่เวลาต้องการพูดอะไรสักอย่างต้องคอยกังวลว่าพูดได้ไหม ผู้ใหญ่ในค่ายอนุญาตไหม ทั้ง ๆ ที่มึงเป็นเจ้าของผลงาน เป็นเจ้าของวงดนตรี

ในมุมมองศิลปินคิดว่า ทุกวันนี้วงการเพลงมีเสรีภาพมากแค่ไหน

คือเพลงมันต้องทำอะไรก็ได้ พูดอะไรก็ได้ เราอยากให้เสรีภาพมันเกิดกับศิลปินทุกคน ทุกวันนี้มันเหมือนจะมี แต่ก็ไม่มี การที่เราจะแต่งเพลง เพลงหนึ่งแต่ถูกบีบด้วยนายทุน ด้วยเจ้าของค่าย หรืออะไรก็แล้วแต่แม่งทำให้มันเกิดเป็นเพลง เราไม่ได้อยากแซะนะ ทุกเพลงมันเลยออกมาคล้ายกันหมด พูดเรื่องเดิม ฉันรักเธอ ฉันคิดถึงเธอ สิบปีผ่านไปก็ยังเป็นเพลงประมาณนี้ แต่ก็ไม่ได้บอกว่ามันไม่ดี หรือบอกว่าพวกคุณต้องมาทำเพลงเพื่อชีวิต แต่มันยังมีหลายอย่างให้คุณพูดได้มากกว่าเรื่องนี้ ประเทศนี้มันยังมีอีกหลายซอกหลืบที่คุณสามารถเล่าได้ พอทุกคนตั้งเป้าว่าต้องทำให้เพลงติดตลาดมากที่สุด ต้องทำให้ประสบผลสำเร็จมากที่สุด นี่แหละเสรีภาพมันก็หายไปแล้ว

แล้วอะไรคือทางออกของปัญหาในมุมมองของคุณ

มันต้องพูดคุยกันเพื่อหาจุดตรงกลาง ซึ่งทุกคนก็เห็นกันอยู่แล้วว่า มึงไม่คุย (หัวเราะ) แล้วก็จบด้วยการใช้กำลัง คนที่แม่งใช้กำลังคือ คนที่รู้สึกว่าตัวเองคุยแล้วไม่มีปัญญาพอที่จะแก้ปัญหาต่าง ๆ ได้ สุดท้ายก็จบที่การใช้ความรุนแรงเหมือนเดิม

เพลงไม่มีคนบนฟ้า คือการพูดคุยในแบบของ T_047 หรือเปล่า

เรียกว่ามันเป็นเกมที่จะให้ความรู้กับคนรุ่นใหม่มากกว่า เพราะเรารู้สึกว่าปัญหามันเกิดจากความเหลื่อมล้ำ ความไม่เท่าเทียมกันของคน ทำให้คนบางกลุ่มสามารถออกมาทำอะไรที่ผิดโดยไม่ถูกเอาผิด แม้พวกเขาจะออกมาด้วยความรักก็ตามที เลยตั้งใจให้ความรู้กับคนรุ่นใหม่ แต่เราไม่ได้บอกว่าคุณจะต้องเคารพหรือไม่เคารพใครนะ แต่หากคุณเลือกที่จะเคารพก็ต้องเคารพด้วยความรู้สึกที่อยากเคารพเขาจริง ๆ ไม่ใช่ว่าใครสอนให้เคารพ แล้วคุณก็ต้องเคารพตาม

 

คิดอย่างไรที่รัฐบาล ปฏิบัติกับศิลปินบางคนเหมือนเป็นอาชญากร

ก็เป็นคนอย่างเขาน่ะ พออะไรที่มันไม่เข้าหูไม่ว่าจะรูปแบบไหน ไม่ว่าจะพูดผ่านเพลง ผ่านบทกลอน บทกวีอะไรก็แล้วแต่ ถ้าใจมันไม่รับฟัง สุดท้ายเขาก็ตีว่าเป็นอาชญากรอยู่ดี ทั้ง ๆ ที่ดนตรีมันเป็นวิถีที่สวยงามที่สุดแล้ว ที่จะพูดในสิ่งที่ฉันไม่เห็นด้วย ซึ่งคุณน่าจะเข้าถึง และสุนทรีย์ไปกับมันมากที่สุด มากกว่าการไปยืนพูดออกไมค์ตะโกนด่า

 ส่วนเพลงประเทศกูมี ถึงแม้ในเนื้อเพลงมันจะเต็มไปด้วยความเกรี้ยวกราด แต่ไม่ว่าอย่างไรนี่ก็คือศิลปะ ที่คุณควรจะรับฟัง อย่าไปมองว่าเพลงคือศัตรู เพลงมันไม่ใช่อาวุธที่จะเอาไปฆ่าคนได้ มันเป็นเพียงอาวุธทางจิตวิญญาณ อาวุธทางทัศนคติ ที่อยากให้เปิดใจรับฟังแค่นั้นเอง

 

จะมีวันที่ท้องฟ้าเปลี่ยนเป็นสีทองผ่องอำไพบ้างไหม

ยังไงก็ต้องมี ตราบใดที่เราไม่เลิกมองท้องฟ้า มันอาจจะผ่องอำไพไปแล้วก็ได้นะ เพียงแค่ต้องปัดเป่าเมฆก้อนนี้ออกไปให้ได้ แต่ต้องเป่าแรง ๆ หน่อยเมฆแม่งก้อนใหญ่

ขอหนึ่งบทเพลงให้กับรัฐบาลหน่อย

ก็ … (ทำท่าคิดหนัก) ไม่อยากเอาเพลงเราให้แม่งเลย (หัวเราะ) ขอให้ผู้ชุมนุมแทนแล้วกัน ก็ขอมอบเพลงหลังคาให้กับผู้คนที่ออกมาเรียกร้องทุกคน เพลงนี้น่าจะคุ้มครองทุกคนได้ดีที่สุด ในหน้าที่ของเสียงเพลง ณ ช่วงเวลานี้ เพราะเราอ่อนแอกันได้ง่ายมาก แต่เราก็จะคุ้มครองกันและกันให้ดีที่สุด

ทิศทางของ T_047  ในวันพรุ่งนี้

สุดท้ายจริง ๆ การเดินทางของ T_047 ก็ขึ้นอยู่กับสภาพสังคม บริบทที่มันเกิด แล้วส่งผลกระทบกับตัวเรา จริง ๆ มันอาจจะไม่มีเพลงคนบนฟ้าก็ได้ หรือ T_047 ไม่ต้องออกมาเคลื่อนไหวทางการเมืองก็ได้ แต่ถ้าวันหนึ่งปัญหาทางการเมืองมันจบลง เพลงที่เรากำลังจะทำต่อไป อาจเป็นการพูดเรื่องสวยงาม พูดเรื่องชีวิตกับธรรมชาติ

 แต่หากสถานการณ์มันเลวร้ายลงเรื่อย ๆ เราก็สามารถดับเครื่องชน ในแบบที่ว่าอัลบัมต่อไปของ T_047 สามารถเป็นอัลบัมการเมืองเลยก็ได้ ถ้ามันเป็นสิ่งที่ทำให้คนฟังรู้สึกอยากสู้กับความอยุติธรรม และเข้าใจว่าเราเจออะไรอยู่ และพร้อมที่จะสู้ไปด้วยกัน