อาวุธเคมีถูกนำมาใช้อีกครั้ง ล่าสุด เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (7 เมษายน 2018) ชาวซีเรียอย่างน้อย 49 คนต้องเสียชีวิตจากก๊าซพิษในเมืองโดว์มา (Douma) ที่ฝ่ายกบฏยึดครองอยู่

โดว์มาอยู่ทางตะวันออกของโกว์ตา ใกล้กับกรุงดามัสกัส ทหารของรัฐบาลซีเรียซึ่งหนุนหลังโดยกองกำลังทหารรัสเซียยึดครองพื้นที่ด้านตะวันออกของโกวตาทั้งหมด ยกเว้นที่เมืองโดว์มาที่ฝ่ายกบฏยังยึดครองอยู่

คนในพื้นที่เล่าว่าได้กลิ่นคลอรีนฉุนมาก สมาคมการแพทย์ซีเรียอเมริกัน (Syrian American Medical Society-SAMS) ระบุว่า มีการใช้ระเบิดคลอรีนโจมตีโรงพยาบาลโดว์มา ทำให้มีผู้เสียชีวิต 6 คน และมีการโจมตีครั้งที่สอง ที่ใช้ก๊าซพิษทำลายประสาทใกล้ๆ กับอาคารของโรงพยาบาล บาเซล เทอร์มานินี รองประธานของ SAMS ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า มีอีก 35 ศพที่ส่วนใหญ่เป็นเด็กและผู้หญิงเสียชีวิตในอพาร์ตเมนต์ที่อยู่ใกล้ๆ

เจอร์รี สมิธ ฝ่ายสืบสวนด้านอาวุธของสหประชาชาติซึ่งสืบสวนการใช้อาวุธเคมีในซีเรียระบุว่า จำนวนและระยะเวลาการตายที่สูงและเร็ว ประกอบกับอาการชักของผู้ป่วย อาจเป็นไปได้ว่าสารพิษที่ใช้ครั้งนี้เป็นสารสังเคราะห์จากกรดฟอสฟอริก

ก่อนหน้านี้ ก๊าซพิษซารินถูกนำมาใช้ในสงครามซีเรีย ไม่ว่าจะเป็นการโจมตีที่ คาน-ชัยคฺกุน ในอิดลิบ  เมื่อเมษายน 2017 และในโกว์ตาเมื่อสิงหาคม 2013 หน่วยข่าวกรองของยุโรปได้รวบรวมหลักฐาน พบว่า กองกำลังของซีเรียผสมซารินกับคลอรีนเข้าด้วยกัน ซึ่งทำให้ก๊าซเจือจาง ขณะเดียวกันก็มีอานุภาพการปลิดชีวิต โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อนำไปใช้ในพื้นที่อับอากาศ

หนึ่งในคลิปวิดีโอที่เผยแพร่โดยกลุ่มนักเคลื่อนไหว ระบุว่า “เมืองโดว์มา 7 เมษายน มีกลิ่นแรงมากที่นี่” พร้อมภาพร่างของเด็กและหญิงชายจำนวนมาก บางรายมีน้ำลายฟูมปาก

รัฐบาลซีเรียและผู้สนับสนุนซึ่งประกอบด้วยรัสเซียและอิหร่านปฏิเสธความรับผิดชอบต่อเรื่องนี้ สถานีโทรทัศน์ของรัฐบาลซีเรียกล่าวว่า รายงานที่เผยแพร่ออกมาจัดทำโดย “ผู้ก่อการร้าย” ซึ่งต้องการทำลายกองทัพซีเรีย เป็นข้อกล่าวหาจากชาวอเมริกันและชาติตะวันตกที่ต้องการให้มีปฏิบัติการทางทหาร

เช้าตรู่ของวันจันทร์ สถานีโทรทัศน์ของรัฐบาลซีเรียเผยแพร่ภาพระเบิดที่ใกล้กับกองบัญชาการทหารในเมืองฮอม และกล่าวว่าคาดว่าน่าจะเป็นจรวดมิสไซล์ของสหรัฐอเมริกา ขณะที่ทางการสหรัฐฯ ปฏิเสธข้อกล่าวหานี้ แถลงการณ์ระบุว่า “ครั้งนี้กระทรวงกลาโหมของสหรัฐฯ ไม่ได้โจมตีทางอากาศในซีเรีย อย่างไรก็ตามเรายังคงติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และพยายามใช้วิธีทางการทูตกับผู้ที่ใช้อาวุธเคมีในซีเรีย”

เมื่อสัปดาห์ก่อน ทรัมป์เพิ่งประกาศว่า ต้องการถอนกำลังทหารชาวอเมริกันกว่า 2,000 นายออกจากซีเรีย แต่ที่ปรึกษาของเขาแนะนำว่าให้รอจนแน่ใจก่อนว่า อิหร่านซึ่งเป็นพันธมิตรของประธานาธิบดี บาชาร์ อัล อัสซาด แห่งซีเรีย จะไม่กลับมายึดฐานที่มั่นนี้

เมื่อปีที่แล้ว หนึ่งในเหตุผลที่ทรัมป์ตัดสินใจทิ้งระเบิดในซีเรียมาจากภาพศพของเด็กๆ ที่เผยแพร่ทางโทรทัศน์ เจ้าหน้าสองคนที่ไม่ประสงค์จะออกนามกล่าวว่า ทรัมป์ต้องการหาข้อสรุปให้ชัดเจนจากการประเมินของหน่วยข่าวกรอง

ล่าสุดเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (8 เม.ย.2018) หลังมีรายงานจากองค์กรให้ความช่วยเหลือทางการแพทย์ออกมาว่าในเมืองที่กบฏยึดครองอยู่ มีผู้เสียชีวิตจำนวนมากจากก๊าซพิษ ทรัมป์ทวีตข้อความว่า “มีราคาแพงที่ต้องจ่าย” โดยไม่ได้ระบุรายละเอียด

“ประชาชนเสียชีวิตจำนวนมาก รวมทั้งผู้หญิงและเด็ก จากการโจมตีด้วยอาวุธเคมีอย่างไร้ความคิดในซีเรีย พื้นที่ซึ่งถูกปิดตายและถูกล้อมโดยทหารซีเรียทำให้โลกภายนอกไม่สามารถเข้าถึงได้ ประธานาธิบดีปูติน รัสเซีย และอิหร่าน ต้องรับผิดชอบจากการที่หนุนอัสซาดสัตว์ร้าย มีราคาแพงที่ต้องจ่าย”  ทรัมป์ทวีตโดยระบุชื่อปูตินโดยตรง

เช้าวันจันทร์นี้ คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติจะจัดประชุมตามคำร้องขอของรัสเซียและสหรัฐอเมริกา เพื่อติดตามการโจมตีด้วยอาวุธเคมีร้ายแรงในซีเรีย

 

ที่มาภาพ: https://twitter.com/SyriaCivilDef/status/982623580180635648

ที่มา:

Tags: , , , , ,