เช้าวันอาทิตย์ที่ 21 เมษายน 2019 ซึ่งเป็นวันอีสเตอร์ วันสำคัญของชาวคริสต์ เกิดเหตุระเบิดต่อเนื่องในโบสถ์คริสต์และโรงแรมอย่างน้อย 7 แห่งในประเทศศรีลังกา มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 156 คน และบาดเจ็บหลายร้อยคน ยังไม่มีข้อมูลว่าผู้ก่อเหตุมาจากฝ่ายใด

นี่เป็นความรุนแรงครั้งแรกนับตั้งแต่สงครามกลางเมืองของศรีลังกาสิ้นสุดลงในปี 2009 เหตุระเบิดเกิดขึ้นที่โบสถ์ 3 แห่ง เริ่มจากโบสถ์ในกรุงโคลอมโบเป็นที่แรก ตามด้วยที่อื่นๆ ในเวลาห่างกันประมาณครึ่งชั่วโมง ได้แก่ โบสถ์ในเมืองเนกอมโบ และโรงแรม 4 แห่งในกรุงโคลอมโบ ได้แก่ เชียงการี-ล่า ซินนามอน แกรนด์ คิงส์เบอรี และทรอปิคอล อินน์  ผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตมีทั้งชาวศรีลังกาและชาวต่างชาติ

ทางการเกรงว่าอาจจะเป็นฝีมือของกลุ่มนักรบไอเอสชาวศรีลังกาที่เดินทางกลับมาจากตะวันออกกลาง แต่ก็ยังไม่มีกลุ่มใดออกมาประกาศความรับผิดชอบ

ประธานาธิบดีไมตรีปาละ สิริเสนาออกแถลงการณ์เรียกร้องให้ประชาชนอยู่ในความสงบ และสนับสนุนการสอบสวนของเจ้าหน้าที่

ส่วนนายกรัฐมนตรีรานิล วิคเรเมสิงห์ประณามเหตุระเบิดครั้งนี้ เขาทวีตว่า “ผมขอประณามการโจมตีประชาชนในวันนี้ และเรียกร้องให้ชาวศรีลังกาสามัคคีและเข้มแข็งไว้ รัฐบาลกำลังดำเนินการอย่างเร่งด่วนต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้น”

มัลคอร์ม รานจิต อาร์คบิชอปแห่งโคลอมโบ เรียกร้องให้ประชาชนเดินขบวนเพื่อสนับสนุนเหยื่อ ขอร้องให้แพทย์ทำงาน แม้จะเป็นวันหยุด และเชิญชวนให้บริจาคโลหิต

สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า เพียง 10 วันก่อนที่จะเกิดเหตุ ผู้บัญชาการตำรวของศรีลังกาได้แจ้งเตือนแล้วว่า มือระเบิดฆ่าตัวตายวางแผนที่จะโจมตีโบสถ์ที่สำคัญ โดยสำนักหน่วยข่าวกรองรายงานว่าน่าจะเป็นกลุ่มมุสลิม National Thowheeth Jama’ath หรือ NTJ

ในศรีลังกาที่มีประชากรราว 22 ล้านคน  ประชาชนส่วนใหญ่เป็นชาวพุทธ นิกายเถรวาท มีผู้นับถือศาสนาคริสต์ 6% ขณะที่มีผู้นับถือศาสนาฮินดู 12.6% และอิสลาม 9.7% รายงานสิทธิมนุษยชนของกระทรวงต่างประเทศสหรัฐอเมริการะบุว่า ชาวคริสต์บางกลุ่มได้รับแรงกดดันให้ยุติกิจกรรมทางศาสนา เนื่องจากเจ้าหน้าที่จัดว่าเป็น ‘การรวมกลุ่มที่ไม่ได้รับอนุญาต’ นอกจากนี้ พระในศาสนาพุทธ ยังมีความพยายามปิดสถานที่สำคัญทางศาสนาของชาวคริสต์และมุสลิมหลายแห่ง

 

ที่มา:

 

ที่มาภาพ: REUTERS/Dinuka Liyanawatte

Tags: , , ,