เอ็ด ชีแรน (Ed Sheeran) เป็นศิลปินรายล่าสุดที่ประกาศหยุดอ่านเรื่องราวบนโลกออนไลน์ เขาไม่ใช่คนดังในวงการบันเทิงคนแรกที่ต้องพบกับข้อความแสดงความคิดเห็นด้านลบจากแฟนเพลงและคนที่ไม่ชอบเขาเป็นการส่วนตัวจำนวนมาก มากพอที่จะทำให้รู้สึกย่ำแย่ จนขยับไปสู่จุดที่ยอมตัดขาดจากความเห็นเหล่านั้น ดีกว่าปล่อยให้มันมาทำร้ายจนส่งผลกระทบต่อสภาพจิตใจหรือการทำงาน

เรามักได้ยินอยู่บ่อยๆ ว่าเป็นบุคคลสาธารณะต้องยอมรับเสียงวิจารณ์จากคนอื่นได้ นั่นเป็นเรื่องจริง แต่เมื่อทุกวันนี้ เสียงวิจารณ์เหล่านั้นโถมเข้าหาทุกคนเร็วและมากเกิน มันไม่ใช่เสียงตำหนิผ่านสื่อหรือคนรอบข้าง แต่ส่งตรงมาที่บัญชีโซเชียลมีเดียส่วนตัวของศิลปินที่ส่วนใหญ่เจ้าตัวก็เปิดอ่านเองได้ง่ายๆ ผ่านโทรศัพท์มือถือ

นึกภาพว่าเรากำลังยืนอยู่ในที่แจ้ง แล้วมีคนเป็นหมื่นเป็นพันรุมล้อมพูดตำหนิเราพร้อมๆ กัน การเปรียบเปรยนี้ไม่น่าจะเกินความจริง มันคือภัยคุกคามที่น่ากลัวของยุคนี้ ถึงแม้คุณจะไม่ได้เป็นศิลปินหรือดารา แต่เมื่อมีเหตุการณ์อะไรบางอย่างไปกระทบความรู้สึกของคนหมู่มาก ไม่ว่าคุณจะถูกหรือผิด คุณจะถูกตัดสินจากศาลโซเชียลมีเดียที่มีคนนับล้านเป็นลูกขุน เฟซบุ๊กส่วนตัวของคุณอาจถูกคนเข้ามารุมถล่มในวันเดียวจนคุณต้องปิดเฟซฯ หนี นี่คือตัวอย่างหนึ่งของการกลั่นแกล้งในโลกไซเบอร์ หรือ Cyber Bullying

ที่ผ่านมา ศิลปินดังทั้งไทยและต่างประเทศจำนวนมากเคยประสบปัญหาโดนคุกคามบนโลกออนไลน์จนต้องประกาศหยุดใช้งานโซเชียลมีเดียของตัวเอง หรือให้ทีมงานเป็นคนดูแลแทน ชิเนด โอคอนเนอร์ (Sinead O’Connor) ศิลปินสาวมั่นที่โด่งดังในช่วงยุค 90s กับเพลง ‘Nothing Compares 2 U’ ประกาศเลิกเล่นโซเชียลมีเดียในปี 2011 เนื่องจากคิดว่าได้รับความเห็นที่คุกคามจนเกินไป อย่างไรก็ดี เธอกลับมาอีกครั้ง พร้อมกับบอกว่าทุกข้อความที่ส่งมาจะได้รับการกลั่นกรองจากผู้ช่วยของเธอก่อน เพื่อไม่ให้ความเห็นแย่ๆ พุ่งตรงมาที่เธอ

อะเดล (Adele) ประกาศหยุดการใช้งานโซเชียลมีเดียในปี 2012 หลังให้กำเนิดลูกชาย และมีคนเข้ามาล้อเลียนเรื่องน้ำหนักตัวและพูดถึงลูกของเธอในแง่ลบ ในปีเดียวกัน เซย์น แมลิก (Zayn Malik) อดีตสมาชิก One Direction ทวีตถึงสาเหตุที่เขาไม่ได้เล่นทวิตเตอร์มากเหมือนเมื่อก่อน เพราะเบื่อความเห็นไร้สาระและความเกลียดชังที่ตนต้องเจออยู่ทุกวัน อิกกี อะเซเลีย (Iggy Azalea) แร็ปเปอร์สาวรุ่นใหม่มาแรง ประกาศบนทวิตเตอร์ของตัวเองในปี 2015 ว่า “ฉันอยากจะบอกให้แฟนๆ รู้ว่าฉันจะหายไปจากโซเชียลมีเดียสักพัก ฉันอยากจะมีความสุข และมันมีแต่เรื่องในแง่ลบเกินไป” จากนั้นเธอก็ให้ทีมงานเป็นคนดูแลเรื่องโซเชียลแทนเธอ

 

ในขณะที่ศิลปินบางคนก็ทำมากกว่าการแจ้งบอกผ่านโซเชียลมีเดีย ไมลีย์ ไซรัส (Miley Cyrus) มีเพลงและเอ็มวีชื่อ ‘Goodbye Twitter’ ออกมาบรรยายความรู้สึกของเธอที่ต้องหยุดเล่นทวิตเตอร์ในปี 2009 ส่วนศิลปินที่ไม่ยอมรับกับการคุกคามบนโลกออนไลน์และตัดสินใจเผชิญหน้าแบบเด็ดขาดคือ แอ็กเซิล โรส (Axl Rose) นักร้องวงร็อกรุ่นเก๋า Guns N’ Roses ซึ่งช่วงหนึ่งเขาอ้วนมากขณะที่ขึ้นแสดงคอนเสิร์ต จนมีคนเอาภาพไปล้อเลียนต่างๆ นานา เขาจึงแจ้งกูเกิลให้ลบภาพเหล่านั้นออกจากการค้นหา เพราะถือว่าเป็นการละเมิดสิทธิส่วนบุคคล

 

ในช่วงต้นปี 2017 มารายห์ แครีย์ (Mariah Carey) ตัดสินใจปลีกตัวออกจากสังคมออนไลน์เช่นกัน หลังเกิดกรณีเมื่อวันส่งท้ายปีเก่าที่เธอไปร้องเพลงในงานที่นิวยอร์ก และมีปัญหาเมื่อเสียงเพลงดังขึ้นโดยที่เธอร้องตามไม่ทัน ทำให้คนรู้ว่าเธอลิปซิงก์ และเอาไปทำคลิปเป็นเรื่องตลกบนโลกออนไลน์

ล่าสุด เอ็ด ชีแรน ที่เคยประกาศเลิกใช้โซเชียลมีเดียเมื่อปี 2015 และพยายามไม่ข้องแวะกับอีเมลและมือถือ ด้วยเหตุผลว่าที่ผ่านมาเขาได้เห็นโลกผ่านหน้าจอมากกว่าด้วยตาของตัวเอง กระทั่งปลายปี 2016 เขากลับมาอีกครั้งเพื่อโปรโมตอัลบั้มใหม่ แต่พอถึงตอนนี้ เขาประกาศถอยฉากจากโลกโซเชียลอีกครั้ง เนื่องจากรู้สึกว่ามันลามไหลด้วยเรื่องด้านลบมากเกินไป แม้ครั้งนี้จะไม่ถึงกับหยุดเล่นไปเลยเหมือนเมื่อสองปีก่อน แต่เป็นว่าจะไม่ตามอ่านความเห็นที่โพสต์เข้ามา

ก็คงเหมือนกับ เดมี โลวาโต (Demi Lovato) ศิลปินสาวที่เคยประสบปัญหาทำนองเดียวกัน และเคยประกาศเลิกเล่นทวิตเตอร์กับอินสตาแกรมในช่วงเวลาสั้นๆ มาแล้ว เธอเคยทวีตไว้เมื่อปีก่อนว่า “และผู้คนต่างสงสัยว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับโลกใบนี้ ให้ความสนใจกับเรื่องดีๆ มากกว่าเรื่องแย่ๆ กันเถอะ”

เช่นเดียวกับ เลดี้ กาก้า (Lady Gaga) ที่โพสต์รูปคู่กับ เอ็ด ชีแรน และสนับสนุนมุมมองของศิลปินหนุ่มชื่อดังจากอังกฤษไว้ว่า “เขาสมควรได้รับความรักและเคารพเหมือนกับคนทั่วไป ฉันหวังว่าทุกคนบนโลกอินเทอร์เน็ตจะมีมุมมองในแง่บวก และให้ความรักเป็นส่วนหนึ่งในสร้างสังคมออนไลน์ที่ดีและมีพลัง ไม่ใช่ความเกลียดชัง มันไม่มีเหตุผลที่จะทำลายศิลปินคนหนึ่งเพราะว่าพวกเขาก้าวขึ้นมาถึงจุดสูงสุดได้”

การเป็นบุคคลสาธารณะ ไม่ได้หมายความว่าเราจะวิจารณ์เขาเหล่านั้นด้วยคำพูดอย่างไรก็ได้ และนั่นก็ควรเป็นกติกามารยาทสามัญสำหรับคนทั่วไปเช่นกัน ถึงเวลาที่เราจะช่วยกันนะครับ ก่อนจะเกิดเรื่องร้ายกับศิลปินที่เราชื่นชอบให้ต้องเศร้าใจกัน

 

Tags: , , , , , , , , , , , ,