หลังก่อตั้งมาได้ร่วมปีสำหรับ ‘สิริ เวนเจอร์ส’ (Siri Ventures) บริษัทร่วมทุนระหว่างแสนสิริกับไทยพาณิชย์ เพื่อมองหาเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่สามารถนำมาใช้กับที่อยู่อาศัย ที่ผ่านมาก็สร้างความคึกคักอยู่ไม่น้อย ตั้งแต่การเปิดตัวหุ่นยนต์ ‘น้องแสนดี’ หุ่นยนต์ส่งอาหารและส่งของถึงหน้าประตูลูกบ้าน รวมทั้งการนำ AI Box เข้ามาใช้ในบ้านเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้อยู่อาศัย

ในปี 2018 นี้ สิริ เวนเจอร์ส ประกาศแผนลงทุนในสามปีข้างหน้า เน้นการลงทุนในสตาร์ตอัปที่ตอบโจทย์นวัตกรรมในสี่ด้าน พร้อมผลักดันให้เกิดระบบนิเวศน์สำหรับสตาร์ตอัปที่แข็งแรง และพัฒนาแอปพลิเคชันเพื่อบริการภายในบ้าน (Home Service Application) ให้มีประสิทธิภาพสูงสุด

นอกจากนี้ ยังจับมือกับพาร์ตเนอร์ต่างประเทศ ได้แก่ Plug and Play จากสหรัฐอเมริกา และ SOSA จากอิสราเอล เพื่อสร้างความแข็งแกร่งและต่อยอดนวัตกรรมให้กับที่อยู่อาศัยของแสนสิริ

จิรพัฒน์ จันทร์เจิดศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่เทคโนโลยี บริษัท สิริ เวนเจอร์ส จำกัด เปิดเผยว่า สิริ เวนเจอร์ส วางแผนปรับตัวเข้ากับยุคดิจิทัล โดยจะลงทุนกว่า 1,500 ล้านบาท ในระยะเวลาสามปี เพื่อคิดค้นต่อยอดเทคโนโลยีและนวัตกรรมสำหรับที่อยู่อาศัย ให้ตอบโจทย์ชีวิตที่ต้องการความสะดวกสบาย ปลอดภัย

ก่อนหน้านี้ แสนสิริก็เขียนแถลงถึงนวัตกรรมที่นำมาใช้ “ที่ผ่านมาเราคิดค้นหุ่นยนต์แสนดีร่วมกับบริษัท Onion Shack ใช้ขนส่งของถึงหน้าประตูห้องของลูกบ้าน เพื่อความสะดวกรวดเร็ว ปลอดภัย และ Appysphere สตาร์ตอัปที่เชี่ยวชาญในเรื่องซอฟต์แวร์การพัฒนา Home Automation หรืออย่างการร่วมทุนกับ Farmshelf สตาร์ตอัปจากอเมริกาที่คิดค้นการปลูกผักภายในที่พักอาศัย”

จิรพัฒน์กล่าวว่า ไม่ใช่แค่เทคโนโลยีเปลี่ยน จนทำให้พฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยน แต่ผู้ประกอบการเองก็ต้องปรับเปลี่ยนการทำธุรกิจอยู่ตลอดเวลา นั่นจึงเป็นที่มาของแผนการลงทุนในสตาร์ตอัปที่สอดคล้องกับธุรกิจของแสนสิริ

แล้วนวัตกรรมที่จะเกี่ยวข้องกับอสังหาริมทรัพย์จะเป็นอย่างไร สิริเวนเจอร์ไขโจทย์ข้อนี้ออกมา หาแนวทางอัปเดทและพัฒนาเทคโนโลยีทั้งในด้านที่สนับสนุนผู้ประกอบการ และด้านที่สนับสนุนลูกค้า โดยจะเน้นนวัตกรรมสี่ด้าน ได้แก่ นวัตกรรมเพื่อการอยู่อาศัย (LivingTech) ที่จะสร้างความสะดวกสบาย ความบันเทิง ความปลอดภัย ดังที่มีการพัฒนา AI เสียงภาษาไทย และพัฒนาหุ่นยนต์ ‘แสนดี’

นอกจากนี้ ยังสนใจลงทุนในนวัตกรรมเพื่อคุณภาพชีวิตและสุขภาพของลูกบ้าน (Health & Wellness Tech) รวมถึงนวัตกรรมด้านอาหาร โดยในปี 2018 มีแผนลงทุนในสตาร์ตอัปที่มีเทคโนโลยีทางด้านการจับสังเกตสุขภาพ (Health Monitoring) สำหรับสังคมสูงวัยด้วย

ในส่วนของนวัตกรรมเพื่อผู้ประกอบการ ได้แก่ เทคโนโลยีเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ (PropTech) เพื่อมาส่งเสริมการซื้อขายในยุคดิจิทัลและบริหารจัดการอสังหาริมทรัพย์ให้ตอบโจทย์ผู้บริโภคให้มากขึ้น การลงทุนในสตาร์ตอัปครั้งนี้ ยังรวมถึงร่วมพัฒนาใน Construction Tech หรือ เทคโนโลยีและนวัตกรรมด้านการออกแบบ การก่อสร้าง และวัสดุ เพื่อให้ช่วยควบคุมคุณภาพในการก่อสร้างและช่วยลดต้นทุน

สิริเวนเจอร์ยังมองไปถึงการสร้างความร่วมมือและผลักดันให้เกิดระบบนิเวศสำหรับสตาร์ตอัป โดยจับมือกับพันธมิตรทั้งในไทยและในภูมิภาค ในตอนนี้ มีพันธมิตรต่างประเทศแล้วสองราย ได้แก่ Plug and Play จากสหรัฐอเมริกา แพลตฟอร์มเชื่อมโยงสตาร์ตอัป นักลงทุน และองค์กรเข้าด้วยกัน โดยมีเครือข่ายสตาร์ตอัปกว่า 6,000 รายในหลากหลายสาขา และ SOSA จากอิสราเอล ที่เป็นศูน์กลางเชื่อมโยงสตาร์ตอัปในประเทศอิสราเอลมากกว่า 5,000 รายเข้าด้วยกัน

จิรพัฒน์ยังบอกอีกว่าตอนนี้มีสตาร์ตอัปที่คุยๆ กันไว้นับสิบราย แต่ยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะเข้าไปลงทุนหรือไม่ อาจจะลงทุนทั้งสิบราย หรือไม่เลยทั้งหมดก็เป็นได้ โดยต้องเป็นสตาร์ตอัปที่เรามองเห็นการเติบโตอย่างแท้จริง

Fact Box

สิริ เวนเจอร์ส เป็นบริษัทร่วมทุนในรูปแบบ Corporate Venture Capital เพื่อทำวิจัยและลงทุนด้านเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับอสังหาริมทรัพย์และการอยู่อาศัยแบบครบวงจร ภายใต้ความร่วมมือระหว่างบริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) และธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน)

Tags: , ,